ทิ้งระยะห่างมานานถึง 4 ปี มหกรรมกีฬา โอลิมปิก ครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จะรูดม่านเปิดฉากกันในวันที่ 8 เดือน 8 ปี 2008 นี้แล้ว แต่สำหรับฟุตบอลชายทุกทีมมีโปรแกรมจะต้องลงประเดิมสนามก่อนหน้านั้น 1 วัน เรามาทำความรู้จักกับ 16 ทีมในทัวร์นาเมนต์นี้ก่อนดีกว่าว่าใครมีดีพอจะก้าวไปคว้าเหรียญทองในบั้นปลาย
กลุ่ม เอ
กรุ๊ปมหาหิน นำโดย อาร์เจนตินา แชมป์เก่า และมีโอกาสสูงที่จะป้องกันแชมป์เอาไว้ได้ เหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะอุดมไปด้วยแนวรุกชั้นยอดทั้ง ลิโอเนล เมสซี จากบาร์เซโลนา และ เซอร์จิโอ อกูเอโร จากแอตเลติโก มาดริด มิหนำซ้ำยังมีตัวคุมจังหวะอย่าง ฮวน โรมัน ริเกลเม 1 ใน 3 โควตานักเตะอายุเกินอีกด้วย แต่อย่าพลาดท่าไปเจอกับ บราซิล ในรอบรองฯ ไม่เช่นนั้นงานอาจจะกร่อยเสียก่อน
ส่วนอีก 3 ทีมเรียกได้ว่าแกร่งพอกันคาดว่าจะต้องชิงตั๋วอีกใบที่เหลือ ไม่ว่าจะเป็น ไอวอรี โคสต์ ที่นักเตะส่วนใหญ่ล้วนผ่านโรงเรียน “เอเอสอีซี อคาเดมี” ที่ปั้นดาวดังอย่าง โคโล ตูเร, ดิดิเยร์ โซโกรา, เอ็มมานูเอล เอบูเอ และ อรูนา ดินดาน มาแล้ว ที่ต้องจับตา คือ เจอร์วินโญ หอกที่เล่นอยู่กับ เลอ มองส์ ในฝรั่งเศส
ออสเตรเลีย นำโดย เกรแฮม อาร์โนลด์ กุนซือที่เชื่อว่าชนะนัดแรกก็จะลอยลำสู่รอบน็อกเอาต์แน่นอน ที่ใช้บริการขุนพลส่วนใหญ่เล่นในอยู่ใน ดิวิชัน ต่ำกว่า พรีเมียร์ชิป ของอังกฤษ สุดท้าย คือ เซอร์เบีย มีปัญหาต้นสังกัดไม่ยอมปล่อยนักเตะมาลุย โอลิมปิก แต่พวกที่ติดสอยห้อยตามมาครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดามี มิราเลม ซูเลจมานี จาก อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม, สเตฟาน บาโบวิช เจ้าของฉายา “เมสซี เซิร์บ” และ อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ แบ็กซ้ายเท้าหนัก
กลุ่ม บี
สำหรับกลุ่มนี้มี 3 ทีมที่พกดีกรีไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันทำให้ยังมองไม่ออกว่า 2 ทีมใดจะเข้ารอบ ญี่ปุ่น เข้ารอบ โอลิมปิก มาแล้วถึง 8 ครั้ง แต่หนนี้ขาดกำลังสำคัญเพียบทั้ง ยาซูชิโต เอ็นโด กองกลางที่ป่วย รวมถึง โยชิโต โอคูโบะ กองหน้าที่มีปัญหาเรื่องความประพฤติ ดูแล้วสภาพทีมยังเป็นรอง ฮอลแลนด์ แชมป์ยุโรปชุดยู 21 ปี ที่เชื่อว่า จะมาสอดแทรกแย่งแชมป์จาก อาร์เจนตินา และ บราซิล เพราะอัดแน่นไปด้วยนักเตะดังอย่าง ไรอัน บาเบล, รอยสตัน เดรนเธ และ เฮดวิกส์ มาดูโร รวมถึงประสบการณ์จาก รอย มาคาย หอกวัยดึก
แต่ทั้งสองทีมห้ามประมาท ไนจีเรีย ทีมแรกจากแอฟริกา ที่คว้าเหรียญทองในปี 1996 แม้จะไม่มี จอห์น โอบิ มิเกล กองกลางจาก เชลซี แต่ทรัพยากรที่เหลือไม่ธรรมดาทั้ง ตาเย ไตโว แบ็กซ้ายที่ลีลาถูกยกว่าเทียบเคียง โรเบอร์โต คาร์ลอส และ วิคเตอร์ อนิเชเบ หอกจากเอฟเวอร์ตัน สุดท้ายทีมที่อ่อนที่สุดในสาย คือ สหรัฐฯ เพราะมีปัญหาการจบสกอร์ยิงได้ 6 ประตูจาก 5 นัดในรอบคัดเลือก แถมเป็นลูกเดียวจากจังหวะโอเพนเพลย์ เฟรดดี เอดู หอกร่างเล็ก รับภาระหนักเกินไปคงไม่ไหว
กลุ่ม ซี
เต็งจ๋านอนมา คือ บราซิล แม้จะไม่เคยคว้าเหรียญทองเลยก็ตาม ครั้งนี้แม้จะไม่มี โรบินโญ และ กากา ที่ถอนตัวไป แต่ที่เหลือล้วนอาวุธหนักทั้งสิ้น โรนัลดินโญ, ดิเอโก, ราฟินญา, ลูคัส เลวา, อเล็กซานเดร ปาโต และ อันแดร์สัน ส่วนอีก 3 ทีมต้องแย่งตั๋วใบเดียวที่เหลือ คือ จีน เจ้าภาพที่ผลงานในโลกลูกหนังตกลงไปในทุกระดับ ครั้งนี้นำทัพมาโดย เจิง จี รวมถึง ตง ฟาง โจว หอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทั้งคู่ผ่านเวทีระดับ พรีเมียร์ชิป มาแล้ว
ที่เหลือคือ เบลเยียม เคยคว้าเหรียญทองมาแล้วเมื่อปี 1920 แต่หนนี้คือเป็นการลงเล่นครั้งแรกในรอบ 80 ปีเลยทีเดียว แข้งดังมีเพียง แวงซองต์ กอมปานี กองหลังจากฮัมบูร์ก เท่านั้น ปิดท้ายด้วย นิวซีแลนด์ ที่ปรากฏตัวในกีฬาห้าห่วงเป็นครั้งแรก มีนักเตะชื่อคุ้นหูอย่าง ไรอัน เนลเซน จากแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส, คริส คิลเลน หอก กลาสโกว์ เซลติก และ ไซมอน เอลเลียต กองกลาง ฟูแลม แต่คงไม่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ได้มากนัก
กลุ่ม ดี
มองดูรายชื่อผิวเผินอาจจะระบุเจาะจงได้ว่า อิตาลี นอนมาในตำแหน่งแชมป์กลุ่ม เพราะนักเตะทุกคนซึมซับสไตล์การเล่นแบบเหนียวแน่นไว้ใจได้มาจากเวที กัลโช เซเรีย อา ทั้งสิ้น นำโดย ริคคาร์โด มอนโตลิโว กองกลางที่มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง หลังอกหักถูกเขี่ยพ้น ยูโร 2008 นอกจากนี้ ยังมี เซบาสเตียน จิโอวินโค จากเอ็มโปลี ที่น่ากลัวกับบทบาทกองหน้าตัวที่สอง รวมลูกเก๋าจาก ตอมมาโซ รอคคี หอกวัย 30 ปีจาก ลาซิโอ อีกด้วย
ตัวสอดแทรกมีลุ้นแชมป์กลุ่ม ก็คือ แคเมอรูน ที่คาดว่าจะเป็นหนึ่งในทีมที่เล่นฟุตบอลได้ตื่นตาตื่นใจ เพราะยิง 14 ประตูจาก 6 นัดในรอบคัดเลือก แถมมีดีกรีเป็นถึงแชมป์เก่าในปี 2000 ที่ผ่าน บราซิล มาได้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย หนนี้กำลังหลัก คือ อเล็กซานเดอร์ ซง แข้งสารพัดประโยชน์ของ อาร์เซนอล รวมถึง สเตฟาน เอ็มเบีย และ แลนดรี เอ็นกูเอโม
ส่วนอีกสองทีมที่คงเป็นได้แค่ไม้ประดับประจำกลุ่ม ก็คือ เกาหลีใต้ ที่ปราศจากดาราอย่าง พาร์ค จี ซุง ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ทีมชุดนี้เข้ารอบมาได้ เพราะทีมเวิร์กเสียแค่ลูกเดียวเท่านั้นในรอบคัดเลือก รวมถึง ฮอนดูรัส ที่เบียด เม็กซิโก จากโซนคอนคาเคฟ มาได้ แต่ทีมยวบเพราะ กุนซือ จอร์จ เยียร์วูด ใจแข็งตัดดาวยิงอย่าง จอร์จี เวลคัม ออกไป
