โซเรน เคลด์เซ่น เจ้าของแชมป์ วอลโว มาสเตอร์ส คนล่าสุด รับการระเบิดฟอร์มทำ 6 อันเดอร์พาร์ในรอบแรก เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้คว้าแชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการที่ 2 ให้กับตนเองได้สำเร็จ
จบสิ้นลงไปแล้วสำหรับกอล์ฟ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการสุดท้ายประจำปี 2008 "วอลโว มาสเตอร์ส" ที่สนามวัลเดอร์รามา ประเทศสเปน ผลปรากฏว่าแชมป์ตกเป็นของ โซเรน เคลด์เซ่น โปรหนุ่มจากเดนมาร์ก ที่ขึ้นนำตั้งแต่วันแรก ด้วยการทำ 6 อันเดอร์พาร์ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ในบั้นปลายด้วยการมี 8 อันเดอร์พาร์ เฉือนชนะ มาร์ติน เคย์เมอร์ กับ แอนโธนี วอลล์ ไป 2 สโตรก
โดยภายหลังคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพนักกอล์ฟของตนเองได้สำเร็จ พร้อมรับเงินรางวัลไป 708,000 ยูโร (ประมาณ 31.8 ล้านบาท) หนุ่มวัย 33 ปีจากเมืองอัลบอร์ก ที่วันสุดท้ายแม้จะตีอีเวนพาร์ แต่ก็เพียงพอสำหรับการได้จารึกชื่อเป็นแชมป์ วอลโว มาสเตอร์ส คนสุดท้าย กล่าวว่า "การทำสกอร์ 65 (6 อันเดอร์พาร์) ในรอบแรกเมื่อวันพฤหัสบดีมันช่างเหลือเชื่อจริงๆ จนส่งผลให้ปิดซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยม ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไรมันถึงต้องใช้เวลานานนักกว่าจะได้แชมป์อีกครั้งหนึ่ง ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะชัยชนะมันไม่เคยได้มาง่ายๆ นั้นเอง"
"แชมป์รายการที่ 2 ของผมเป็นทัวร์นาเมนท์ใหญ่ที่มีเงินรางวัลสูงมาก ผมตั้งใจจะทำให้ดีกว่าเดิมหลังจากได้รองแชมป์เมื่อปีที่แล้ว และก็ดีใจที่ทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้"
นอกจากนี้ เคลด์เซ่น ยังพูดถึงการแข่งขันในรอบสุดท้ายอีกว่า "ผมตื่นเต้นมาก เนื่องจากมีความแตกต่างจากเมื่อปีที่แล้วอยู่พอสมควรเลย ปีที่แล้วผมต้องเร่งเครื่องทำถึง 7 อันเดอร์ฯ เพื่อมีโอกาสได้เพลย์ออฟ ขณะที่ปีนี้ผมต้องการแค่รักษาการเป็นผู้นำไว้ โดยมี เคย์เมอร์ ที่เริ่มสร้างความกดดันให้ผม"
"แต่หลังจากมาได้เบอร์ดีในหลุมที่ 11 และ 12 ซึ่งถือเป็น 2 เบอร์ดีสำคัญก็ทำให้เริ่มวางใจได้ อย่างไรก็ตามคุณก็รู้อยู่แล้วว่าที่สนามวัลเดอร์รามามันมีความยากลำบากอยู่ในทุกพื้นที่ของสนาม"
สำหรับ โซเรน เคลด์เซ่น เป็นโปรมือ 86 ของโลกเคยได้แชมป์ ยูโรเปียน ทัวร์ มาแล้วแค่รายการเดียวในศึก จอห์นนี วอคเกอร์ แชมเปียนชิป เมื่อปี 2003 นับตั้งแต่เข้ามาเป็นสมาชิก ยูโรเปียน ทัวร์ เมื่อปี 1998 โดยเคยได้อันดับ 17 บนตารางทำเงินสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว ส่วนปีนี้ผลงานจบท็อป 10 ได้ 4 จาก 29 รายการที่ลงแข่ง โดยหลังคว้าแชมป์ วอลโวฯ ส่งผลให้พุ่งขึ้นมาได้อันดับ 10 ทำเงินรางวัลสูงสุดของ ยูโรเปียน ทัวร์ คว้าเงินรางวัลไปทั้งหมด 1,440,979 ยูโร (ประมาณ 64.8 ล้านบาท)