โบลตัน วันเดอเรอร์ส โดดหนีบ๊วย พรีเมียร์ชิป ได้สำเร็จ หลังจากเปิด รีบอค สเตเดียม เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 จาก ริคาร์โด การ์ดเนอร์ และ ริชาร์ด ดันน์ ทำเข้าประตูตัวเอง ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
โบลตัน 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โบลตัน ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้งในฤดูกาลนี้เมื่อตกมาอยู่ในโซนตกชั้นทำให้ลูกทีมของ แกรี เม็กสัน ต้องเน้นผลการแข่งขันทุกเกม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ของ มาร์ค ฮิวจ์ส ฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวา โดยเกมนี้จะพลาดการใช้งาน โช ศูนย์หน้าชาวบราซิล แต่ โรบินโญ ยังสามารถลงสนามได้เช่นเดิม
เกมครึ่งแรกผ่านมาเพียง 6 นาที “เรือใบสีฟ้า” ได้โอกาสทักทายเจ้าบ้านก่อนจากจังหวะที่ โรบินโญ กองหน้าชาวแซมบ้ารับบอลได้บริเวณมุมเขตโทษเลี้ยงบอลหลบกองหลังก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งแรงทีเดียวแต่เหินข้ามคานออกหลังไปอย่างมีลุ้น
ทั้งสองทีมสร้างโอกาสทำประตูแบบชัดเจนได้น้อยมากในช่วงครึ่ง แต่เกมมาสนุกอีกครั้งในช่วง 15 นาทีสุดท้าย โดยลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส เกือบทำประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ โอไบรอัน ของเจ้าถิ่นโหม่งบอลผิดพลาดบริเวณกลางสนาม จนบอลหลุดไปเข้าทาง อีแวนส์ กระชากขึ้นมาก่อนจะแทงทะลุช่องให้ ไอร์แลนด์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ยัสเคไลเนน ออกมาปิดมุมไว้ได้ทันและบล็อกบอลออกไปได้
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ไรท์ ฟิลลิปส์ รับบอลได้ก่อนจะลากตะลุยหลบกองหลังเจ้าถิ่นขึ้นมาหลังจากนั้นจ่ายทะลุช่องแผงกองหลังของเจ้าถิ่นไปให้ อีแวนส์ วิ่งหลุดเข้ายิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่นายทวารชาวฟินแลนด์ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเดิม บอลยังไม่พ้นขีดอันตรายเมื่อไหลมาเข้าทาง กอมปานี เปิดกลับมาให้ ไรท์ ฟิลลิปส์ ได้โหม่งบริเวณเส้นเขตโทษ แต่ถูกเซฟไว้ได้อีกครั้งทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าเล็กน้อยและเกือบทำประตูขึ้นนำได้จากจังหวะที่ โรบินโญ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลบกองหลังเจ้าถิ่นจนหงายค่ำถึงสองคนและตัดสินใจปั่นบอลด้วยเท้าขวาเพื่อหวังจะให้เสียบเสาสอง แต่ ยัสเคไลเนน ยังคงโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไว้ได้เหมือนเดิม
เกมมาถึงนาทีที่ 61 เป็นโอกาสของ โบลตัน บ้างจากจังหวะที่ทีมทำเกมรุกขึ้นมาก่อนที่สดุท้าย เควิน เดวีย์ส จะได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปถึงหน้าปากประตูของทีมเยือน แต่ โจ ฮาร์ท โชว์ซูเปอร์เซฟได้อย่างสุดยอดไม่น้อยหน้าเช่นกันปัดทิ้งออกไปได้
เจ้าถิ่นเริ่มทำเกมได้เหนือกว่าจนในที่สุดก็สามารถทำประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ทีมทำเกมรุกต่อบอลกันขึ้นอย่างสวยงาม ก่อนที่จังหวะสุดท้ายบอลจะไปถึง สไตน์สสัน ที่เติมเกมรุกขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาและเปิดบอลเข้ากลางมาให้ การ์ดเนอร์ ซัดหน้าปากประตูโล่งๆ เข้าไปให้ โบลตัน ขึ้นนำก่อนอย่างพลิกความคาดหมาย 1-0
หลังจากเสียประตูทำทีมพยายามทำเกมบุกมากขึ้นจนเปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้โต้กลับบ่อยครั้ง เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 88 ก็มาทำประตูที่สองได้สำเร็จจากจังหวะที่ การ์ดเนอร์ หลุดเดี่ยวมาทางด้านซ้ายก่อนจะเปิดบอลแรงเข้าไปยังหน้าประตู กลายเป็น ริชาร์ด ดันน์ ที่ถูกกดดันจนสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไปทำให้ โบลตัน หนีห่าง 2-0 และจบเวลา 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน, แอนดี โอไบรอัน, แกรี เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, เกรตา สไตน์สสัน, เกวิน แม็คคาน, ฟาบริซ มูซัมบา, เควิน โนแลน, แมทธิว เทย์เลอร์, ริกา มุสตาฟา, เควิน เดวีย์ส
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, ริชาร์ด ดัน, ทาล เบน ฮาอิม, มิกาห์ ริชาร์ดส, พาโบล ซาบาเลตา, เอลาโน, วินเซนต์ กอมปานี, เชด อีแวนส์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, โรบินโญ, ชอว์น ไรท์ ฟิลลิปส์
ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
โบลตัน 2-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี
โบลตัน ต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอีกครั้งในฤดูกาลนี้เมื่อตกมาอยู่ในโซนตกชั้นทำให้ลูกทีมของ แกรี เม็กสัน ต้องเน้นผลการแข่งขันทุกเกม ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี ของ มาร์ค ฮิวจ์ส ฟอร์มยังไม่คงเส้นคงวา โดยเกมนี้จะพลาดการใช้งาน โช ศูนย์หน้าชาวบราซิล แต่ โรบินโญ ยังสามารถลงสนามได้เช่นเดิม
เกมครึ่งแรกผ่านมาเพียง 6 นาที “เรือใบสีฟ้า” ได้โอกาสทักทายเจ้าบ้านก่อนจากจังหวะที่ โรบินโญ กองหน้าชาวแซมบ้ารับบอลได้บริเวณมุมเขตโทษเลี้ยงบอลหลบกองหลังก่อนตัดสินใจยิงด้วยขวาเต็มๆ บอลพุ่งแรงทีเดียวแต่เหินข้ามคานออกหลังไปอย่างมีลุ้น
ทั้งสองทีมสร้างโอกาสทำประตูแบบชัดเจนได้น้อยมากในช่วงครึ่ง แต่เกมมาสนุกอีกครั้งในช่วง 15 นาทีสุดท้าย โดยลูกทีมของ มาร์ค ฮิวจ์ส เกือบทำประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ โอไบรอัน ของเจ้าถิ่นโหม่งบอลผิดพลาดบริเวณกลางสนาม จนบอลหลุดไปเข้าทาง อีแวนส์ กระชากขึ้นมาก่อนจะแทงทะลุช่องให้ ไอร์แลนด์ หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษ แต่ ยัสเคไลเนน ออกมาปิดมุมไว้ได้ทันและบล็อกบอลออกไปได้
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ไรท์ ฟิลลิปส์ รับบอลได้ก่อนจะลากตะลุยหลบกองหลังเจ้าถิ่นขึ้นมาหลังจากนั้นจ่ายทะลุช่องแผงกองหลังของเจ้าถิ่นไปให้ อีแวนส์ วิ่งหลุดเข้ายิงในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่นายทวารชาวฟินแลนด์ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเดิม บอลยังไม่พ้นขีดอันตรายเมื่อไหลมาเข้าทาง กอมปานี เปิดกลับมาให้ ไรท์ ฟิลลิปส์ ได้โหม่งบริเวณเส้นเขตโทษ แต่ถูกเซฟไว้ได้อีกครั้งทำให้สุดท้ายจบ 45 นาทีแรกทั้งสองทีมเสมอกัน 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าเล็กน้อยและเกือบทำประตูขึ้นนำได้จากจังหวะที่ โรบินโญ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลบกองหลังเจ้าถิ่นจนหงายค่ำถึงสองคนและตัดสินใจปั่นบอลด้วยเท้าขวาเพื่อหวังจะให้เสียบเสาสอง แต่ ยัสเคไลเนน ยังคงโชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไว้ได้เหมือนเดิม
เกมมาถึงนาทีที่ 61 เป็นโอกาสของ โบลตัน บ้างจากจังหวะที่ทีมทำเกมรุกขึ้นมาก่อนที่สดุท้าย เควิน เดวีย์ส จะได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปถึงหน้าปากประตูของทีมเยือน แต่ โจ ฮาร์ท โชว์ซูเปอร์เซฟได้อย่างสุดยอดไม่น้อยหน้าเช่นกันปัดทิ้งออกไปได้
เจ้าถิ่นเริ่มทำเกมได้เหนือกว่าจนในที่สุดก็สามารถทำประตูขึ้นนำจนได้ในนาทีที่ 76 จากจังหวะที่ทีมทำเกมรุกต่อบอลกันขึ้นอย่างสวยงาม ก่อนที่จังหวะสุดท้ายบอลจะไปถึง สไตน์สสัน ที่เติมเกมรุกขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวาและเปิดบอลเข้ากลางมาให้ การ์ดเนอร์ ซัดหน้าปากประตูโล่งๆ เข้าไปให้ โบลตัน ขึ้นนำก่อนอย่างพลิกความคาดหมาย 1-0
หลังจากเสียประตูทำทีมพยายามทำเกมบุกมากขึ้นจนเปิดโอกาสให้เจ้าถิ่นได้โต้กลับบ่อยครั้ง เมื่อเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 88 ก็มาทำประตูที่สองได้สำเร็จจากจังหวะที่ การ์ดเนอร์ หลุดเดี่ยวมาทางด้านซ้ายก่อนจะเปิดบอลแรงเข้าไปยังหน้าประตู กลายเป็น ริชาร์ด ดันน์ ที่ถูกกดดันจนสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไปทำให้ โบลตัน หนีห่าง 2-0 และจบเวลา 90 นาทีไปด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
โบลตัน : ยุสซี ยัสเคไลเนน, แอนดี โอไบรอัน, แกรี เคฮิลล์, เจลอยด์ ซามูเอล, เกรตา สไตน์สสัน, เกวิน แม็คคาน, ฟาบริซ มูซัมบา, เควิน โนแลน, แมทธิว เทย์เลอร์, ริกา มุสตาฟา, เควิน เดวีย์ส
แมนเชสเตอร์ ซิตี : โจ ฮาร์ท, ริชาร์ด ดัน, ทาล เบน ฮาอิม, มิกาห์ ริชาร์ดส, พาโบล ซาบาเลตา, เอลาโน, วินเซนต์ กอมปานี, เชด อีแวนส์, สตีเฟน ไอร์แลนด์, โรบินโญ, ชอว์น ไรท์ ฟิลลิปส์
