นัดกันคว้าชัยถ้วนหน้าสำหรับยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ชิป เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ยกเว้น อาร์เซนอล แต่ที่ต้องโฟกัสเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่ราศีแชมป์จับระยิบระยับเหลือเกิน ซึ่งเกมต่อไป "หงส์แดง" จะต้องออกไปเยือนรัง ไวท์ ฮาร์ท เลน ของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เตะเป็นคู่สุดท้ายของคืนวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายนนี้
ลิเวอร์พูล เกือบทำได้แค่เสมอกับ ปอร์ทสมัธ คารัง แอนฟิลด์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ว่ามาได้จุดโทษจากแฮนด์บอลและเป็น สตีเวน เจอร์ราร์ด อาสาซัดไม่พลาด ทำให้ชนะไป 1-0 ซึ่งนั่นคือคุณสมบัติของทีมแชมป์อย่างแท้จริง เพราะในวันที่คุณเล่นดีแต่ยิงไม่ได้ก็ต้องมีจุดเปลี่ยนแบบนี้ รวมถึงการคัมแบ็กคว้าชัยในลีกมาแล้วถึง 4 นัดในฤดูกาลนี้ แม้จะยังพูดไม่เต็มปากว่าจะคว้าแชมป์ลีกในรอบ 19 ปี เนื่องจากทิ้ง เชลซี แค่ 3 แต้มแถมลูกได้-เสียสู้ไม่ได้ แต่ก็เป็นปีที่สาวก "เดอะ ค็อป" จะได้ลุ้นกันแบบยาวๆ แน่นอน
หลังเกม ราฟาเอล เบนิเตซ นายใหญ่ ลิเวอร์พูล ออกมากล่าวว่า "ชัยชนะสำคัญกว่าผลงานซึ่งเห็นได้ชัดกับการคว้า 3 แต้มในคืนนี้หลังเกมกับ เชลซี เราเปลี่ยนนักเตะ 4 คนแต่ชนะได้ นั่นเหมือนการส่งสัญญาณว่าสามารถใช้นักเตะที่แตกต่าง แต่ได้ผลการแข่งขันที่ต้องการ และเราก็เชื่อเสมอว่าจะยิงได้ เราจะพยายามอยู่หัวตารางให้นานที่สุด โดยมองไปทีละเกมและจากนี้ก็จะคิดถึงสามแต้มในนัดถัดไป"
ลิเวอร์พูล กำลังรอการกลับมาของ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงหน้าหยกที่ซัดไปแล้ว 5 ประตู แต่วืดลงเล่นมาแล้วใน 3 เกมหลังสุด เนื่องจากเจ็บเอ็นร้อยหวาย แต่ถึงกระนั้นก็ตามไม่น่ามีปัญหา เพราะว่าทีมกำลังลงตัว เบนิเตซ คงจะไม่เสี่ยงรีบส่งหอกทีมชาติสเปน ลงเล่นในเกมกับ สเปอร์ส รวมถึงในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่จะรับมือ แอตเลติโก มาดริด ในวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายนนี้
ทางด้านเจ้าถิ่นนั้นต้องบอกว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สำหรับ แฮร์รี เรดแน็ปป์ เจ้าของฉายา "ฮูดินี" จอมปลดล็อก เข้ามาคุมทัพไม่ทันไรก็พา สเปอร์ส คว้าชัยนัดแรกเหนือ โบลตัน วันเดอเรอร์ 2-0 ล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์ก็บุกไปไล่ตีเสมอ อาร์เซนอล ในเกม ดาร์บี แมตช์ กรุงลอนดอน แบบเหลือเชื่อ 4-4 ในช่วงท้ายเกม ทั้งที่ถูกนำห่างไปก่อนถึง 2-4 กำลังใจนักเตะกำลังมา แม้จะสตาร์ทไม่ดีแต่ว่า "ไก่เดือยทอง" เก็บแต้มกับทีมยักษ์ใหญ่ได้จากทั้ง เชลซี และ "ปืนโต"
หลังเกม เรดแน็ปป์ ที่ทำให้ สเปอร์ส กระเตื้องขึ้นมามี 6 คะแนนรั้งบ๊วย ณ เวลานี้ กล่าวว่า "เป็นสัปดาห์ที่ยากลำบาก แต่ก็คุ้มค่ากับความพยายาม โดยเฉพาะเกมนี้ที่น่ามหัศจรรย์มาก เราซ้อมกันอย่างหนักหลังเกมเมื่อวันอาทิตย์ เพราะไม่ต้องการเสียประตูแบบโง่ๆ อีก แต่เกมนี้ทุกคนเยี่ยมจริงๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ยอดเยี่ยม และในวันเสาร์นี้เราจะเจอกับ ลิเวอร์พูล พร้อมด้วยความมั่นใจที่เพิ่มมากขึ้น"
สำหรับเกมนี้แม้ว่าจะเล่นในรัง แต่ เรดแน็ปป์ น่าจะวางให้ สเปอร์ส ยืนในระบบ 4-5-1 เหมือนกับ 2 นัดแรกต่อไป อย่างไรก็ตามแผงกองกลางอาจจะมีเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของปีก อารอน เลนนอน มีสิทธิได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง หลังลงมาสำรองแทน แกเร็ธ เบล และเล่นได้ดียิงตีเสมอ อาร์เซนอล ในนาทีสุดท้าย เช่นเดียวกับ ดาร์เรน เบนท์ ที่มีลุ้นยืนหน้าเป้าใน 11 คนแรกแทนที่ของ โรมัน พาฟลูเชนโก
ช่วงหลัง ลิเวอร์พูล ไม่ค่อยมีปัญหาในการมาเยือน ไวท์ ฮาร์ท เลน เพราะบุกมาคว้าชัยได้ใน 2 ฤดูกาลหลังสุด แถมไม่แพ้ที่นี่มา 4 ปีติดต่อกัน หนสุดท้ายที่ปราชัยคือในฤดูกาล 2003-04 สเปอร์ส เฉือนชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 แต่ว่า "ไก่เดือยทอง" ดูดีขึ้นผิดหูผิดตาหลังการมาของ เรดแน็ปป์ แถมได้เล่นในรัง หากกองหลังไม่พลาดง่ายๆ น่าจะมีลุ้นดึงเสมอกับจ่าฝูงได้สำเร็จ
ปิดท้ายกันด้วยคู่เกมมันเดย์ไนท์ที่น่าดูไม่น้อย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ที่เพิ่งคว้าชัยแรกในยุคของ โจ คินเนียร์ จนทำให้หนีรองบ๊วยได้สำเร็จกระโดดขึ้นไปรั้งอันดับ 17 จะเปิดรัง เซนต์ เจมส์ ปาร์ค รับศึกหนักกับ แอสตัน วิลลา ที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มแรงจัดออกสตาร์ทพุ่งขึ้นมารั้งอันดับ 4
ความมั่นใจของนักเตะ นิวคาสเซิล เริ่มกลับมา หลังชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน 2-1 แต่เกมนี้น่าจะยังไม่มี ไมเคิล โอเวน อดีตดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ที่ยังคงเจ็บกล้ามเนื้อต้นขา ส่วนในรายของ นิคกี บัตต์ นั้นยังต้องลุ้น หลังวืดในเกมดังกล่าว แต่หากไม่พร้อม โจอี บาร์ตัน จะยืนคุมห้องเครื่องต่อไป ส่วน วิลลา คว้าชัยมา 2 นัดรวดในลีก เกมล่าสุดเมื่อกลางสัปดาห์พลิกชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 3-2 มาร์ติน โอนีลล์ คงไม่เปลี่ยนทีม ทำให้ ยอห์น คาริว หอกร่างยักษ์ จะต้องเป็นสำรองต่อไป หลังหนีเที่ยวจนถูกปรับและโดนดร็อป
เกมนี้แม้ วิลลา จะดูเหลื่อมกว่าเล็กน้อย แต่ว่า นิวคาสเซิล เริ่มดีวันดีคืนแถมยังได้เล่นในถิ่น ทำให้ดูแล้วทั้งคู่ค่อนข้างจะสูสีกัน อย่างไรก็ตามเจ้าถิ่นยังมีปัญหาเรื่องเกมรับ ส่วนอีกทีมก็ยังคงมีปัญหาเวลาออกมาเยือน ดังนั้นดูแล้วน่าจะกอดคอเสมอกันไปแบบสนุก
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
เอฟเวอร์ตัน ชนะ ฟูแลม 2-1
แมนฯยู ชนะ ฮัลล์ 2-0
มิดเดิลสโบรช์ เสมอ เวสต์ แฮม 0-0
ปอร์ทสมัธ ชนะ วีแกน 2-1
สโต๊ค แพ้ อาร์เซนอล 0-3
เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0
เวสต์ บรอม แพ้ แบล็คเบิร์น 0-1
สเปอร์ส เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1
โบลตัน แพ้ แมนฯซิตี 1-2
นิวคาสเซิล เสมอ วิลลา 2-2
โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป ช่วงสุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2551
เอฟเวอร์ตัน พบ ฟูแลม เวลา 19.45น.
แมนฯยู พบ ฮัลล์ เวลา 22.00น.
มิดเดิลสโบรช์ พบ เวสต์ แฮม เวลา 22.00น.
ปอร์ทสมัธ พบ วีแกน เวลา 22.00น.
สโต๊ค พบ อาร์เซนอล เวลา 22.00น.
เชลซี พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 22.00น.
เวสต์ บรอม พบ แบล็คเบิร์น เวลา 22.00น.
สเปอร์ส พบ ลิเวอร์พูล เวลา 00.30น.
วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน 2551
โบลตัน พบ แมนฯซิตี เวลา 23.00น.
วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2551
นิวคาสเซิล พบ วิลลา เวลา 03.00น.