กระโดดขึ้นมายึดอันดับ 4 ในเวที พรีเมียร์ชิป เรียบร้อยแล้วสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี จากนี้เหลือเพียงจะต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ อย่างไรก็ตามวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้มีศึกหนักเมื่อจะต้องรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล คู่ต่อกรสำคัญที่มีลุ้นบุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกของฤดูกาลนี้ให้กับเจ้าถิ่น
แมนฯซิตี พบ ลิเวอร์พูล เวลา 22.00น.
แมนฯซิตี เพิ่งกระโดดขึ้นมารั้งอันดับ 4 หลังจากเมื่อวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาลงเล่นเกมตกค้างบุกไปไล่ตีเสมอ สโต๊ก ซิตี 1-1 ทำให้มีมากกว่า ลิเวอร์พูล 1 คะแนนแถมยังแข่งน้อยกว่าอีก 1 นัด จึงถือเป็นเกมสำคัญที่ต่างฝ่ายต่างไม่อยากพลาด ไม่ว่าผลการนำกฎเพลย์ออฟ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก มาใช้จะผ่านหรือไม่ก็ตาม
มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัดสำหรับทีมของ โรแบร์โต มันชินี กุนซือ แมนฯซิตี เมื่อไร้จรวดทางเรียบอย่าง เคร็ก เบลลามี และ คาร์ลอส เตเบซ รายแรกมีปัญหาอาการบาดเจ็บหัวเข่า ส่วนรายหลังเหินฟ้ากลับ อาร์เจนไตน์ เนื่องจากภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ เพราะไม่มีตัวเชื่อมเกมเข้าด้วยกัน รวมถึงใช้ความสามารถเฉพาะตัวเจาะเข้าไป
ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ได้พักมาพอสมควร หลังตกรอบ เอฟเอ คัพ ไปตั้งแต่หัววัน แต่ก่อนหน้านั้นวืดโอกาสจี้ติดเพื่อลุ้นคว้าอันดับ 3 เมื่อบุกไปพ่าย อาร์เซนอล 0-1 ถูกหนีห่างไปถึง 8 แต้ม จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเกาะอันดับ 4 เอาไว้ให้ได้ เพราะนอกจาก แมนฯซิตี และยังมี แอสตัน วิลลา ที่แข่งน้อยกว่า
ก่อนจะแพ้ อาร์เซนอล ถือว่าผลงานของ ลิเวอร์พูล ไม่ขี้เหร่เมื่อ 7 นัดไม่มีคำว่าแพ้แถมเป็นการชนะถึง 5 นัด เกมบุกรัง แมนฯซิตี จะไม่มี โซติริออส คีย์เกียกอส กองหลังเลือดกรีซ ที่ต้องชดใช้โทษแบน 3 นัด รวมถึง เกล็น จอห์นสัน แบ็กขวา และ เฟร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปน รายหลังมีข่าวเซอร์ไพรส์ว่าจะคืนทัพในนัดนี้ แต่ ราฟาเอล เบนิเตซ ออกมาบอกปัดแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ตามมีลุ้นได้ ยอสซี เบนายูน กองกลางอิสราเอล ที่เจ็บไปตั้งแต่กลางเดือนมกราคม กลับมาเป็นตัวเลือกที่ม้านั่งสำรอง
เบนิเตซ พยายามออกมาลดความกดดันพลพรรค "หงส์แดง" ด้วยการบอกว่าเกมนี้ยังไม่ได้ตัดสินว่าใครจะคว้าอันดับ 4 ไปครอง เพราะว่า แมนฯซิตี ยังต้องเจอโปรแกรมหนักกับ แมนฯยูไนเต็ด, อาร์เซนอล, เชลซี, ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และ แอสตัน วิลลา ส่วน ลิเวอร์พูล จะเจอแค่ เชลซี กับ แมนฯยูไนเต็ด เท่านั้น
แม้ว่าเกมนี้ แมนฯซิตี จะได้เล่นในรัง แต่ดูจากสภาพของทีมแล้วขาดความสมดุลย์ โดยเฉพาะกองกลางที่มีแต่ตัวรับทั้งนั้นขาดตัวคุมจังหวะและจ่ายบอลจังหวะทีเด็ดทีขาด นักเตะหลายคนมีความสามารถแต่ระดับใกล้เคียงกัน แถมปีกก็ต่างคนต่างเล่น หากวันไหนคลิกกันไม่ลงตัวมีปัญหาแน่ เกมเปิดแลกแบบนี้ ลิเวอร์พูล อาจจะมีลุ้นถึงชนะ
หงส์จิก 2-1
วันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553
เอฟเวอร์ตัน พบ แมนฯยูไนเต็ด เวลา 19.45น.
คู่นี้เหมือนเป็นบอลแพ้ทาง แมนฯยู มักจะเป็นฝ่ายกำชัย แต่ก็ลิ้นห้อยทุกนัดไป มิหนำซ้ำฤดูกาลนี้ เอฟเวอร์ตัน เล่นกับทีมใหญ่ได้ค่อนข้างดี ลูกหนักน่าจะเล่นงานหนักเตะ "ผีแดง" จนปั่นป่วน อีกทั้ง หลุยส์ ซาฮา ฟอร์มกำลังเข้าฝัก อย่างไรก็ตามเชื่อในความเก๋าของทีมเยือนน่าจะประคองตัวเก็บสามแต้มได้
ผีเฉือน 2-1
อาร์เซนอล พบ ซันเดอร์แลนด์ เวลา 22.00น.
ผ่านพ้นโปรแกรมหนักไปแล้วสำหรับ อาร์เซนอล แถมยังคงมีลุ้นแชมป์ เกมนี้ได้กลับมาเล่นในรังพบกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่ผลงานสุดบู่ไม่ชนะมาแล้ว 12 เกมติดต่อกัน นัดสุดท้ายที่คว้าชัยคือเปิดบ้านเฉือน "ปืนโต" งานนี้มีหวังเจ้าถิ่นล้างแค้นเอาชนะไปได้อย่างแน่นอน เพราะมาตรฐานของทีมต่างกันลิบลับ
ปืนชนะ 2-0
เวสต์ แฮม พบ ฮัลล์ ซิตี เวลา เวลา 22.00น.
เป็นเกมที่มีผลอย่างยิ่งต่อการหนีตกชั้น เวสต์ แฮม เล่นในบ้านได้ค่อนข้างดีนัดล่าสุดก็อัด เบอร์มิงแฮม 2-0 ทีมเริ่มลงตัวกับการคืนทัพของ คาร์ลตัน โคล กองหน้าทีมชาติอังกฤษ น่าเป็นห่วงแนวรับที่ โรเบิร์ต กรีน และ แม็ทธิว อัพสัน ชอบพลาดง่ายๆ แต่ว่า ฮัลล์ มาเล่นนอกบ้านก็ไม่ค่อยมีทีเด็ด เกมนี้ยังไงก็ต้องอยู่เจ้าบ้าน
ค้อนทุบ 2-1
วูล์ฟส์ พบ เชลซี เวลา 22.00น.
เชลซี ระยะหลังเริ่มมีปัญหากับการเล่นนอกบ้านถูก เอฟเวอร์ตัน อัดมา 1-2 จน แมนฯยู จี้ขึ้นมาเหลือแต้มเดียว อย่างไรก็ตามคงจะไม่สร้างปัญหาในเกมนี้ เพราะคู่ต่อกรเป็น วูล์ฟส์ ที่เล่นแบบเปิดหน้าแลกจนหลังบ้านรั่ว ทีมเยือนที่อาวุธหนัก-เบายังอยู่กันครบคงจะเก็บสามแต้มได้อย่างไม่ยากเย็น
เชลซียำ 3-0
ปอร์ทสมัธ พบ สโต๊ก เวลา 00.30น.
ผลงานในลีกของ ปอร์ทสมัธ ย่ำแย่เหลือเกิน ไม่นับ เอฟเอ คัพ ที่เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายไปแล้ว เกมนี้เล่นในบ้านก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม สโต๊ก ค่อนข้างจะกรำศึกหนักในช่วงนี้ แถมทรัพยากรนักเตะไม่มีมากพอ สุดท้ายแล้วผลเสมอน่าจะยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เจ๊า 0-0
วันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553
แบล็คเบิร์น พบ โบลตัน เวลา 19.00น.
แบล็คเบิร์น ช่วงหลังเล่นในบ้านได้ค่อนข้างดี แต่ก็ลุ้นหืดไม่น้อยในแต่ละนัด ส่วน โบลตัน เล่นนอกบ้านฝากความหวังอะไรไม่ได้เลยและมักจะผิดพลาดง่ายๆ ในเกมรับจนยืนระยะไม่ได้ตลอดทั้งเกม งานนี้เจ้าถิ่นที่มีเกมรุกหลากหลายทั้ง ทุ่มไกล เซตพีซ น่าจะเอาชนะไปได้ในที่สุด
กุหลาบกิน 2-0
วิลลา พบ เบิร์นลีย์ เวลา 21.00น.
เบิร์นลีย์ เป็นอีกทีมที่เก่งเฉพาะในบ้านเท่านั้น ออกมาเยือนปีนี้ยังไม่ชนะใครเลย ต้องมาบุกรัง วิลลา ที่เล่นในบ้านได้อย่างเหนียวแน่นเสียประตูยากแต่ยิงน้อยไปหน่อยเท่านั้นเอง เจ้าถิ่นที่มีแนวรุกวูบวาบคงจะเอาชนะไปได้ มองมุมไหนทีมเยือนก็ยากจะมีแต้มออกจากถิ่น วิลลา ปาร์ค
วิลลาอัด 2-0
ฟูแลม พบ เบอร์มิงแฮม เวลา 22.00น.
ฟอร์มการเล่นในบ้านของ ฟูแลม เริ่มกลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง หลังจากถล่ม เบิร์นลีย์ 3-0 และ น็อตตี เคาน์ตี 4-0 ในเกม เอฟเอ คัพ บ็อบบี ซาโมรา, แดนนี เมอร์ฟีย์ และ เดเมี่ยน ดัฟฟ์ ถือเป็นตัวทีเด็ดที่ประสบการณ์สูง ผิดกับ เบอร์มิงแฮม ที่เกมรุกฝืดสนิท เจ้าถิ่นอาจจะมีลุ้นถึงชนะในนัดนี้
ฟูแลมกด 2-1
วีแกน พบ สเปอร์ส เวลา 23.15น.
ช่วงหลังผลงานของ สเปอร์ส ตกลงไป อย่างไรก็ตามบางนัดสามารถเอาตัวรอดจากความพ่ายแพ้ได้อย่างหวุดหวิด ต้องมาเจอกับทีมผีเข้าผีออกอย่าง วีแกน การที่ "ไก่เดือยทอง" ชอบเปิดหน้าแลกทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นมีลุ้นที่จะเก็บแต้ม จบเกมจึงน่าที่จะเสมอกันไปอย่างสนุก
เจ๊า 1-1
