วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมนี้จะมีเกมชิงโล่การกุศลที่ชื่อว่า "เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์" เป็นการดวลแข้งกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดับเบิลแชมป์ฤดูกาลที่ผ่านมา จะพบกับ ปอร์ทสมัธ แชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าความมันเร้าใจของศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ ฤดูกาลใหม่ 2008-09 กำลังจะเปิดฉากขึ้นอีกครั้งหนึ่งแล้ว
"เอฟเอ คอมมูนิตี ชิลด์" หนนี้อาจจะแปลกตาไปสักนิดเพราะ 11 ครั้งหลังสุดที่ผ่านมาล้วนเป็นการเจอกันของทีมยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น ครั้งสุดท้ายที่มีทีมจากนอกบิ๊กโฟร์สอดแทรกเข้ามาคือปี 1996 แมนฯยูไนเต็ด อดีตแชมป์สูงสุด 16 สมัย ถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ยับเยิน 4-0 ส่วน ปอร์ทสมัธ เคยชิงโล่นี้มาแล้ว 2 ครั้งในปี 1939 และ 1949 ชนะทั้งสองครั้ง
ทั้งคู่เพิ่งจะเจอกันมาหมาดๆ เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาในทัวร์นาเมนต์พิเศษที่เมืองอาบูจา ในประเทศไนจีเรีย แมนฯยูไนเต็ด ชิมลางเอาชนะไปได้ก่อนเบาะๆ 2-1 ซึ่งก็เจอกันให้เบื่อไปเลย เพราะว่าหลังเสร็จศึก คอมมูนิตี ชิลด์ ในวันอาทิตย์นี้ก็ต้องเจอกันอีกในเกม พรีเมียร์ชิป นัดสองที่รัง แฟรตตัน ปาร์ค วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคมนี้
ช่วงซัมเมอร์นี้ค่าย โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หงอยเหงาไม่น้อย เพราะไร้นักเตะใหม่ตบเท้าเข้ามาเสริมทัพ ทำให้แม้จะประสบความสำเร็จเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาก็ต้องออกอาการประหวั่นพรั่นพรึง เนื่องจากอีก 3 ทีมในบรรดาบิ๊กโฟร์ได้นักเตะใหม่กันไปแบบพร้อมหน้าพร้อมตา อาจจะคงเพราะยุ่งเรื่องข่าวลือย้ายทีมของ คริสเตียโน โรนัลโด ปีกตัวจี๊ด ก็เป็นได้
ถึงแม้จะอุ่นเครื่องสวยหรูเพิ่งชนะ ปีเตอร์โบโร และเสมอกับ ยูเวนตุส แต่ก็คงเทียบไม่ได้กับเกมการแข่งขันที่มีความหมายจริงๆ ที่สำคัญมีข่าวว่า แมนฯยูไนเต็ด อาจจะไม่มีนักเตะถึง 9 รายออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ โดยเฉพาะตำแหน่งกองหน้าที่ตัวเลือกน้อยอยู่แล้ว เวย์น รูนีย์ ก็ดันมาติดเชื้อไวรัสจากการเดินทางไปที่ ไนจีเรีย ไม่ได้ซ้อมเลยตั้งแต่กลับมา
นอกจาก รูนีย์ ด้าน ไมเคิล คาร์ริค กองกลางห้องเครื่องก็ติดเชื้อไวรัส เช่นกัน แต่ว่าอาการเบากว่า ส่วน โอเวน ฮาร์กรีฟส์, ปาร์ค จี ซอง และ คริสเตียโน โรนัลโด ยังคงบาดเจ็บ, นานี ติดโทษแบนทั้งในเกมกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และ ปอร์ทสมัธ ทางด้าน อันแดร์สัน ก็ไป โอลิมปิก ด้าน หลุยส์ ซาฮา และ แกรี เนวิลล์ ร่างกายก็ยังไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซนต์
การขาด รูนีย์ น่าจะทำให้แนวรุกของ แมนฯยู อ่อนกำลังลงไป เพราะ โรนัลโด ที่ซัดไป 42 ลูกเมื่อปีที่แล้วก็เจ็บข้อเท้าต้องพักยาว เหลือเพียงแค่ คาร์ลอส เตเบซ เพียงคนเดียว ก็อาจจะเข้าทาง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ออกมาเปรยว่าพร้อมให้โอกาส เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ กองหน้าดาวรุ่ง มากขึ้นในฤดูกาล ถึงขนาดอาจจะไม่ซื้อหอกมาเพิ่มอีก
ส่วน ปอร์ทสมัธ หลังจากคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ แบบสุดเซอร์ไพรส์ แฮร์รี เรดแน็ปป์ ก็ตบแต่งทีมด้วยการคว้า ปีเตอร์ เคราช์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ มาเสริมทัพ จาก ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวสูงเป็นสถิติสโมสรถึง 11 ล้านปอนด์ (ประมาณ 737 ล้านบาท) จับคู่เข้ากับ เจอร์เมน เดโฟ ก็ถือเป็นคู่หน้าที่น่ากลัวมากทีมหนึ่งในเวที พรีเมียร์ชิป ฤดูกาลนี้
ผลงานอุ่นเครื่องของ ปอร์ทสมัธ ถือว่าไม่ขี้เหร่ หากไม่นับเกมพ่าย แมนฯยูไนเต็ด ก็ไม่แพ้เลย แถมเอาชนะ อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้ด้วย อย่างไรก็ตามกองกลางของทีมอ่อนลงไปถนัดตาม เพราะว่าปล่อย ซุลลีย์ มุนตารี ไปให้กับ อินเตอร์ มิลาน แม้จะได้ค่าตัวสูงถึง 12.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 850 ล้านบาท) แต่ก็ต้องรอดูว่าจะได้ไม่คุ้มเสียหรือเปล่า
มิหนำซ้ำเกมนี้หมดสิทธิใช้บริการของ ลาสซานา ดิยาร์รา กองกลางที่เจ็บในเกมอุ่นเครื่องที่เอาชนะ อ็อกฟอร์ด ยูไนเต็ด รวมถึง เอ็นวานโก คานู หอกที่เพิ่งต่อสัญญาฉบับใหม่ ก็ยังเจ็บอยู่เล็กน้อย แต่ว่านอกนั้นยังอยู่ครบทั้ง ปาปา บูบา ดิย็อป, เปโดร เมนเดส และ นิโก ครานชาร์ บวกกับอีก 2 นักเตะใหม่คือ เบน ซาฮาร์ และ เกล็น ลิตเติล
เกมนี้ไม่ง่ายเลยสำหรับ แมนฯยูไนเต็ด เพราะว่านักเตะก็ไม่ฟูลทีม แถมการเจอกันที่ผ่านมาเป็น ปอร์ทสมัธ ที่ผลงานไม่เป็นรอง 5 ฤดูกาลหลังสุดใน พรีเมียร์ชิป เอาชนะได้ที่ แฟรตตัน ปาร์ค ถึง 3 ครั้ง แถมปีที่แล้วในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย "ผีแดง" โดนน็อกตกรอบคารังมาแล้ว เพราะเจอแผนอุดแหลกของ แฮร์รี เรดแน็ปป์
ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
ผีไม่พร้อมจะพ่ายปอมปีย์ 0-1