ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทำสองประตูช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ อัลบอร์ก 3-0 ถึงสนาม อัลบอร์ก สเตเดียม ประเทศเดนมาร์ก ในการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลุ่มอี ขณะที่ในกลุ่มจี อาร์เซนอล คืนฟอร์มเก่งเมื่อเปิดบ้านเอาชนะ เอฟซี ปอร์โต 4-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลุ่มอี
อัลบอร์ก 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อัลบอร์ก ของกุนซือ บรูซ ริออช ได้ตัว แคสเปอร์ ริสการ์ด และ เยปเป เคิร์ธ สองผู้เล่นคนสำคัญของทีมหายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในเกมนัดนี้ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องพลาดการใช้งาน โอเวน ฮาร์กรีฟ และ แกรี เนวิลล์ หลังมีอาการบาดเจ็บแต่เกมรุกยังมากันเต็มสูบนำทีมโดย คริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับของทีม
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำก่อนใน น.5 จากจังหวะที่ โรนัลโด ขยันวิ่งตามมาปั๊มบอลกับผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บอลลอยโด่งอยู่ภายในเขตโทษมาตกที่ เบอร์บาตอฟ ซัดตูมเดียวแต่บอลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อีกสามนาทีต่อมาจากจังหวะลูกเตะมุมของแชมป์เก่า โดย วิดิช ได้โหม่งก่อนจังหวะแรกแต่ไม่เต็มศีรษะบอลลอยหลุดมาถึงเสาสองและเป็น เฟอร์ดินานด์ ยืนอยู่พอดีจัดการซัดด้วยขวาแบบเต็มๆเช่นกันแต่ ซาซ่า นายด่านเจ้าถิ่นยังไวออกมาปิดมุมเอาไว้ได้เหมือนเดิม
อัลบอร์ก ไม่ยอมให้ถูกบุกอยู่ข้างเดียวพยายามต่อบอลขึ้นมาโจมตีผีแดงบ้างเช่นและเกือบได้เสียวเมื่อ เอเนโวลด์เซน ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนจ่ายเรียดเข้ากลาง บอลหลุดมาถึง เคิร์ธ พยายามยิงให้เข้าประตูแต่ยังดีที่ เอฟรา ตามมาปิดมุมเอาไว้ได้ทันบอลออกหลังไป
น.15 แชมป์เก่ามีการขยับตัวผู้เล่นม้านั่งสำรองอย่างรวดเร็วหลังจาก พอล สโคลส์ ถูกปะทะจากผู้เล่นเจ้าบ้านจนบาดเจ็บหัวเข่าเล่นต่อไปไม่ไหวต้องเปลี่ยน ไรอัน กิกส์ ลงมาแทน หลังจากนั้นอีก 7 นาทีปีกจอมเก๋าก็ไม่ทำให้สาวกผีแดงผิดหวังเมื่อได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ รูนีย์ วิ่งสอดกองหลังอัลบอร์กเข้าไปยิงผ่านมือ ซาซ่า ให้ แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0
โรนัลโด มีโอกาสทำประตูอย่างสุดๆใน น.24 เมื่อบอลหลุดจากเท้าของ รูนีย์ มาเข้าทางจึงตัดสินใจยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงดีทีเดียวแต่เหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะเริ่มตั้งเกมได้จนทำให้ผีแดงไม่มีโอกาสทำจังหวะหวาดเสียวให้แฟนๆได้ลุ้นกันอีกสุดท้ายจบ 45 นาทีแรกแชมป์เก่าทำสกอร์นำ 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านมาถึง น.55 เบอร์บาตอฟ ก็สามารถพังประตูแรกในชุดผีแดงได้สำเร็จจากการทำพลาดของกองหลังเจ้าถิ่นที่จับบอลผิดเหลี่ยม บอลลอยโด่งมาเข้าทางดาวยิงบัลแกเรียวิ่งมายิงสุดแรงเข้าไปให้แชมป์เก่าหนีห่าง 2-0 อีก 4 นาทีต่อมา รูนีย์ มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจนถูกเปลี่ยนตัวออกไปให้ คาร์ลอส เตเบซ ลงมาแทน
น.62 เตเบซ ที่เพิ่งจะลงสนามมาเกือบทำประตูได้ทันทีจากจังหวะแรกที่ นานี หลุดขึ้นมาทางซ้ายพยายามกระดกบอลให้ข้ามหัวนายด่านเจ้าถิ่น บอลถูกปัดลอยมาตรงหน้ากรอบประตูเป็นกองหลังอัลบอร์กเคลียร์ไม่ดีไปโดนศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์กระดอนเข้าประตูไป แต่กรรมการไม่ให้เนื่องจากมองว่าบอลไปโดนแขนเสียก่อน
เจ้าบ้านไปยอมแพ้มีโอกาสลุ้นทำประตูเช่นกันใน น.75 จากจังหวะที่ เอเนโวลด์สัน เปิดบอลจากทางด้านซ้ายเข้ามา บอลลอยมาถึง โยฮันส์สัน วิ่งเบียดมาโหม่งแต่ยังดีที่โดนไม่เต็มศีรษะทำให้บอลพุ่งผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วแต่ออกหลังไป
น.78 เบอร์บาตอฟ มาทำประตูที่สองของตัวเองจากการลุยขึ้นมาได้สวยของ โรนัลโด ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางจากบริเวณเส้นหลัง บอลลอยมาถึงดาวยิงบัลแกเรียเอี้ยวตัวยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงามทำให้แชมป์เก่าหนีห่าง 3-0
ก่อนหมดเวลา 5 นาที โรนัลโด มาได้โอกาสยิงบ้างเมื่อหลุดเดียวเข้าไปแต่ปีกยอดเยี่ยมชาวโปรตุกีสกลับยิงหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มเติมกันไม่ได้ทำให้จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ อัลบอร์ก อย่างสวยงาม 3-0 พร้อมเก็บสามแต้มสำคัญขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี
ด้านผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มจี อาร์เซนอล เปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดียมรับการมาเยือนของทีมแกร่งจากโปรตุเกสอย่าง เอฟซี ปอร์โต ปรากฏว่า เดอะ กันเนอร์ส คืนฟอร์มเมื่อถล่มทีมเยือนแหลกถึง 4-0 โดยทำประตูได้จาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ในนาที 31 และ 48 ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ซัดอีกสองประตูเช่นกันในนาที 40 และลูกจุดโทษปิดท้ายในนาที 71
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมคู่แรก
อัลบอร์ก : การิม ซาซา, สตีฟ โอลเฟอร์ส, มาร์ติน เพเดอร์เซน, แคสเปอร์ บอเกลุนด์, มิเชล โบชองพ์, อันเดรียส โยฮันส์สัน, แคสเปอร์ ริสการ์ด, เยปเป เคิร์ธ, โธมัส เอเนโวลด์เซน, มาเรก ซากาโนฟสกี, โธมัส ออกุสตินุสเซน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น โอเชีย, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล, เนมันยา วิดิช, พอล สโคลส์, คริสเตียโน โรนัลโด, นานี, เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มอี
อัลบอร์ก บีเค แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (0-1 รูนีย์ น.22), (0-2 เบอร์บาตอฟ น.55), (0-3 เบอร์บาตอฟ น.79)
บีญาร์รีล ชนะ กลาสโกว์ เซลติก 1-0 (1-0 เซนนา น.67)
กลุ่มเอฟ
บาเยิร์น มิวนิก เสมอ ลียง 1-1 (0-1 เดมิเชลิส ทำเข้าประตูตัวเอง น.25), (1-1 เซ โรแบร์โต น.52)
ฟิออเรนตินา เสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ 0-0
กลุ่มจี
อาร์เซนอล ชนะ เอฟซี ปอร์โต 4-0 (1-0 ฟาน เพอร์ซี น.31), (2-0 อเดบายอร์ น.40), (3-0 ฟาน เพอร์ซี น.48), (4-0 อเดบายอร์ จากลูกจุดโทษ น.71),
เฟเนร์บาเช เสมอ ดินาโม เคียฟ 0-0
กลุ่มเอช
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แพ้ รีล มาดริด 1-2 (0-1 ฮูโบคัน ทำเข้าประตูตัวเอง น.4), (1-1 แดนนี น.25), (1-2 ฟาน นิสเตอรอย น.31)
บีเอทีอี บอริซอฟ เสมอ ยูเวนตุส 2-2 (1-0 คริเวตส์ น.17), (2-0 สตาเซวิช น.23), (2-1 ยาควินตา น.29), (2-2 ยาควินตา น.45)
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กลุ่มอี
อัลบอร์ก 0-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
อัลบอร์ก ของกุนซือ บรูซ ริออช ได้ตัว แคสเปอร์ ริสการ์ด และ เยปเป เคิร์ธ สองผู้เล่นคนสำคัญของทีมหายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในเกมนัดนี้ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ต้องพลาดการใช้งาน โอเวน ฮาร์กรีฟ และ แกรี เนวิลล์ หลังมีอาการบาดเจ็บแต่เกมรุกยังมากันเต็มสูบนำทีมโดย คริสเตียโน โรนัลโด ปีกจอมสับของทีม
เริ่มเกมมาได้ไม่ทันไร แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีโอกาสลุ้นทำประตูขึ้นนำก่อนใน น.5 จากจังหวะที่ โรนัลโด ขยันวิ่งตามมาปั๊มบอลกับผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น บอลลอยโด่งอยู่ภายในเขตโทษมาตกที่ เบอร์บาตอฟ ซัดตูมเดียวแต่บอลออกหลังไปอย่างไม่น่าเชื่อ
อีกสามนาทีต่อมาจากจังหวะลูกเตะมุมของแชมป์เก่า โดย วิดิช ได้โหม่งก่อนจังหวะแรกแต่ไม่เต็มศีรษะบอลลอยหลุดมาถึงเสาสองและเป็น เฟอร์ดินานด์ ยืนอยู่พอดีจัดการซัดด้วยขวาแบบเต็มๆเช่นกันแต่ ซาซ่า นายด่านเจ้าถิ่นยังไวออกมาปิดมุมเอาไว้ได้เหมือนเดิม
อัลบอร์ก ไม่ยอมให้ถูกบุกอยู่ข้างเดียวพยายามต่อบอลขึ้นมาโจมตีผีแดงบ้างเช่นและเกือบได้เสียวเมื่อ เอเนโวลด์เซน ได้บอลทางริมเส้นด้านซ้ายก่อนจ่ายเรียดเข้ากลาง บอลหลุดมาถึง เคิร์ธ พยายามยิงให้เข้าประตูแต่ยังดีที่ เอฟรา ตามมาปิดมุมเอาไว้ได้ทันบอลออกหลังไป
น.15 แชมป์เก่ามีการขยับตัวผู้เล่นม้านั่งสำรองอย่างรวดเร็วหลังจาก พอล สโคลส์ ถูกปะทะจากผู้เล่นเจ้าบ้านจนบาดเจ็บหัวเข่าเล่นต่อไปไม่ไหวต้องเปลี่ยน ไรอัน กิกส์ ลงมาแทน หลังจากนั้นอีก 7 นาทีปีกจอมเก๋าก็ไม่ทำให้สาวกผีแดงผิดหวังเมื่อได้บอลหน้ากรอบเขตโทษก่อนแทงบอลทะลุช่องให้ รูนีย์ วิ่งสอดกองหลังอัลบอร์กเข้าไปยิงผ่านมือ ซาซ่า ให้ แมนฯ ยูไนเต็ดนำ 1-0
โรนัลโด มีโอกาสทำประตูอย่างสุดๆใน น.24 เมื่อบอลหลุดจากเท้าของ รูนีย์ มาเข้าทางจึงตัดสินใจยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงดีทีเดียวแต่เหินข้ามคานออกหลังไปนิดเดียว หลังจากนั้นดูเหมือนว่าเจ้าบ้านจะเริ่มตั้งเกมได้จนทำให้ผีแดงไม่มีโอกาสทำจังหวะหวาดเสียวให้แฟนๆได้ลุ้นกันอีกสุดท้ายจบ 45 นาทีแรกแชมป์เก่าทำสกอร์นำ 1-0
เกมครึ่งหลังผ่านมาถึง น.55 เบอร์บาตอฟ ก็สามารถพังประตูแรกในชุดผีแดงได้สำเร็จจากการทำพลาดของกองหลังเจ้าถิ่นที่จับบอลผิดเหลี่ยม บอลลอยโด่งมาเข้าทางดาวยิงบัลแกเรียวิ่งมายิงสุดแรงเข้าไปให้แชมป์เก่าหนีห่าง 2-0 อีก 4 นาทีต่อมา รูนีย์ มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยจนถูกเปลี่ยนตัวออกไปให้ คาร์ลอส เตเบซ ลงมาแทน
น.62 เตเบซ ที่เพิ่งจะลงสนามมาเกือบทำประตูได้ทันทีจากจังหวะแรกที่ นานี หลุดขึ้นมาทางซ้ายพยายามกระดกบอลให้ข้ามหัวนายด่านเจ้าถิ่น บอลถูกปัดลอยมาตรงหน้ากรอบประตูเป็นกองหลังอัลบอร์กเคลียร์ไม่ดีไปโดนศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์กระดอนเข้าประตูไป แต่กรรมการไม่ให้เนื่องจากมองว่าบอลไปโดนแขนเสียก่อน
เจ้าบ้านไปยอมแพ้มีโอกาสลุ้นทำประตูเช่นกันใน น.75 จากจังหวะที่ เอเนโวลด์สัน เปิดบอลจากทางด้านซ้ายเข้ามา บอลลอยมาถึง โยฮันส์สัน วิ่งเบียดมาโหม่งแต่ยังดีที่โดนไม่เต็มศีรษะทำให้บอลพุ่งผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไปแล้วแต่ออกหลังไป
น.78 เบอร์บาตอฟ มาทำประตูที่สองของตัวเองจากการลุยขึ้นมาได้สวยของ โรนัลโด ก่อนจะเปิดบอลเข้ากลางจากบริเวณเส้นหลัง บอลลอยมาถึงดาวยิงบัลแกเรียเอี้ยวตัวยิงด้วยขวาเข้าไปอย่างสวยงามทำให้แชมป์เก่าหนีห่าง 3-0
ก่อนหมดเวลา 5 นาที โรนัลโด มาได้โอกาสยิงบ้างเมื่อหลุดเดียวเข้าไปแต่ปีกยอดเยี่ยมชาวโปรตุกีสกลับยิงหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ทำประตูเพิ่มเติมกันไม่ได้ทำให้จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ อัลบอร์ก อย่างสวยงาม 3-0 พร้อมเก็บสามแต้มสำคัญขึ้นมานำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี
ด้านผลการแข่งขันอีกคู่ในกลุ่มจี อาร์เซนอล เปิดสนาม เอมิเรตส์ สเตเดียมรับการมาเยือนของทีมแกร่งจากโปรตุเกสอย่าง เอฟซี ปอร์โต ปรากฏว่า เดอะ กันเนอร์ส คืนฟอร์มเมื่อถล่มทีมเยือนแหลกถึง 4-0 โดยทำประตูได้จาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ในนาที 31 และ 48 ขณะที่ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ซัดอีกสองประตูเช่นกันในนาที 40 และลูกจุดโทษปิดท้ายในนาที 71
รายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมคู่แรก
อัลบอร์ก : การิม ซาซา, สตีฟ โอลเฟอร์ส, มาร์ติน เพเดอร์เซน, แคสเปอร์ บอเกลุนด์, มิเชล โบชองพ์, อันเดรียส โยฮันส์สัน, แคสเปอร์ ริสการ์ด, เยปเป เคิร์ธ, โธมัส เอเนโวลด์เซน, มาเรก ซากาโนฟสกี, โธมัส ออกุสตินุสเซน
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอห์น โอเชีย, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล, เนมันยา วิดิช, พอล สโคลส์, คริสเตียโน โรนัลโด, นานี, เวย์น รูนีย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
ผลการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก
กลุ่มอี
อัลบอร์ก บีเค แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 (0-1 รูนีย์ น.22), (0-2 เบอร์บาตอฟ น.55), (0-3 เบอร์บาตอฟ น.79)
บีญาร์รีล ชนะ กลาสโกว์ เซลติก 1-0 (1-0 เซนนา น.67)
กลุ่มเอฟ
บาเยิร์น มิวนิก เสมอ ลียง 1-1 (0-1 เดมิเชลิส ทำเข้าประตูตัวเอง น.25), (1-1 เซ โรแบร์โต น.52)
ฟิออเรนตินา เสมอ สเตอัว บูคาเรสต์ 0-0
กลุ่มจี
อาร์เซนอล ชนะ เอฟซี ปอร์โต 4-0 (1-0 ฟาน เพอร์ซี น.31), (2-0 อเดบายอร์ น.40), (3-0 ฟาน เพอร์ซี น.48), (4-0 อเดบายอร์ จากลูกจุดโทษ น.71),
เฟเนร์บาเช เสมอ ดินาโม เคียฟ 0-0
กลุ่มเอช
เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แพ้ รีล มาดริด 1-2 (0-1 ฮูโบคัน ทำเข้าประตูตัวเอง น.4), (1-1 แดนนี น.25), (1-2 ฟาน นิสเตอรอย น.31)
บีเอทีอี บอริซอฟ เสมอ ยูเวนตุส 2-2 (1-0 คริเวตส์ น.17), (2-0 สตาเซวิช น.23), (2-1 ยาควินตา น.29), (2-2 ยาควินตา น.45)
