“ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฮึดเปิดบ้านตามเสมอ ซีเอสเคเอ มอสโค 3-3 ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เช่นเดียวกับ “สิงห์บลูส์” เชลซี ที่บุกเจ๊า “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด 2-2
ศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มบี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3-3 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการปรับทัพ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด หลายตำแหน่งในเกมยุโรป เนื่องจากสุดสัปดาห์นี้มีคิวโหดเยือน เชลซี ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยการเจอกับ ซีเอสเคเอ มอสโค เจ้าถิ่นวาง เฟเดริโก มาเคดา ล่าตาข่ายร่วมกับ ไมเคิล โอเวน แดนกลางมี ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ฟิตคืนสนาม ส่วนปราการหลังตัวกลาง เวส บราวน์ ได้จับคู่กับ จอนนี อีแวนส์ ด้านทีมเยือนนำมาโดยคู่แฝด “เบเรซุตสกี” วาซิลี และ อเล็กเซ ส่วน มิลอส คราซิช คอยปั้นเกมร่วมกับ อลัน ซาโกเยฟ ลุ้นให้ โทมัส เนซิด ลุ้นเจาะตาข่าย
เริ่มเกมการแข่งขัน ซีเอสเคเอ มอสโก ไม่หวั่นเกรงศักดิ์ศรีของเจ้าถิ่นลุยใส่ก่อนและก็มีโอกาสได้ลุ้นเมื่อ เดวิดาส เซมเบราส ส่องไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาไม่ห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด โต้กลับมาเช่นกัน อันโตนิโอ วาเลนเซีย สลัดหลุดเข้ากรอบโทษก่อนง้างยิงแต่โดน เซอร์เก อิกนาเชวิช พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทัน นาทีที่ 10 “ผีแดง” พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำเมื่อ วาเลนเซีย ลากหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลาง ไมเคิล โอเวน ดันยิงด้วยขวาไปติดเท้าซ้ายอย่างน่าเสียดาย ผ่าน 15 นาทีแรก เจ้าบ้านเริ่มเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ สบโอกาสตะบันด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ อีกอร์ อคินเฟเยฟ แต่ก็เฉียดเสาไปอีก
ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเจาะเข้าทำประตูได้เหน่งๆ ทว่าสามนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองในการได้ประตูนำเมื่อ โอเวน ลากหลุดเข้ากรอบ 6 หลา แต่ดันยิงไปติดขาของ อคินเฟเยฟ ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป “ผีแดง” ใกล้เคียงกับการได้ประตูนำอีกครั้ง วาเลนเซีย จ่ายเข้าในให้ เฟเดริโก มาเคดา ได้ยิงด้วยซ้ายบอลติดไซด์พุ่งหลุดเสาแบบมีเสียวแต่ถึงนาทีที่ 25 กลายเป็น ซีเอสเคเอ มอสโก ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับ โทมัส เนซิด พักอกให้ อลัน ซาโกเยฟ ลากหนี จอนนี อีแวนส์ เข้าไปส่องด้วยซ้ายมุมแคบบอลผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างเด็ดขาด
ทว่าสี่นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ วาเลนเซีย เปิดเข้ากลางให้ หลุยส์ นานี ตอกส้นบอลถึง โอเวน สังหารเน้นๆ ไม่พลาด เกมแลกกันสนุก นาทีที่ 31 ทีมเยือนนำอีกครั้งเป็น 2-1 เนซิด เล่นชิ่งให้ มิลอส คราซิช หลุดเข้าไปแตะหนี ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนหมุนตัวยิงไม่เหลือ พอโดนเจาะไปอีกครั้งเจ้าบ้านโหมลุยช่วงท้ายครึ่งแรกมีโอกาสสองครั้งสองคราจากลูกยิงของ มาเคดา และ พอล สโคลส์ แต่ก็ไม่ผ่านมือ อคินเฟเยฟ จบ 45 นาทีแรก ผู้มาเยือนจากแดนหมีขาวรักษาสกอร์ที่ได้เปรียบเอาไว้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังแค่ 2 นาที ซีเอสเคเอ มอสโค หนีห่างเป็น 3-1 เมื่อ วาซิลี เบเรซุตสกี เติมขึ้นมาโขกลูกเปิดฟรีคิกที่เสาไกลตุงตาข่าย พอโดนทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด โหมเกมทันที เฟล็ทเชอร์ ได้หักหลบในกรอบโทษแต่โดน อเล็กเซ เบเรซุตสกี เกี่ยวขาล้มคว่ำ ทว่า โอเลการิโอ เบนเกเรนซา เชิ้ตดำชาวโปรตุกีสมองว่ามิดฟิลด์ชาวสกอตติชพุ่งล้มจึงควักใบเหลืองออกมาแจกให้แทน เกมของเจ้าถิ่นยังไม่ดีขึ้นทำให้ เฟอร์กี ต้องส่ง เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งได้ลูกชายคนแรกลืมตามาดูโลกเมื่อต้นสัปดาห์ ลงสนามแทน นานี พร้อมกับใส่ ปาทริซ เอฟรา ไปยืนแบ็กซ้ายแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป “ผีแดง” ได้ฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาซัดบอลผ่านกำแพงร้อนถึง อคินเฟเยฟ ต้องปัดออกมา วาเลนเซีย ปรี่เข้าซ้ำแต่นายทวารทีมชาติรัสเซียก็ป้องกันได้อีก ปล่อยให้เจ้าถิ่นขึงเกมอยู่พักหนึ่ง ลีโอนิด สลัตสกี ปรับหมากบ้างใส่ เอลเวียร์ ราฮิมิช กองกลางตัวรับลงมาตัดเกมแทน พาเวล มามาเยฟ แต่ก็เติม ดาเนียล คาร์วัลโญ ดาวเตะบราซิเลียนมาปั้นเกมรุกแทน ซาโกเยฟ ที่ชักหายไปจากเกม เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ลุยขึ้นมาทางขวา แกรี เนวิลล์ โยกให้ โอเวน ได้ขวิด อคินเฟเยฟ ปัดมาเข้าทาง รูนีย์ อัดไปที่เสาแรกทว่ายังติดขาของนายด่านจอมหนึบ
นาทีที่ 77 แฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮเมื่อ มาเคดา โหม่งเน้นๆ บอลกระแทกเสาออกมา รูนีย์ เข้าซ้ำแต่ อคินเฟเยฟ ก็ยังไม่ยอมพลาดอีก แมนฯ ยูไนเต็ด โถมใส่เป็นระยะ สโคลส์ ได้ส่องเหน่งๆ อีกครั้ง อคินเฟเยฟ โชว์การเซฟอีกหนแล้ว บี้อยู่พักใหญ่ “ผีแดง” ไล่มาเป็น 2-3 จากการขวิดของ สโคลส์ ก่อนหมดเวลา 6 นาที ท้ายเกมเจ้าบ้านกระหน่ำใส่จนเข้าช่วงทดเจ็บ วาเลนเซีย ยิงบอลแฉลบ จีออร์จี เชนนิคอฟ เข้าประตูไปเป็น 3-3 จากนั้นผู้มาเยือนเหลือ 10 คนจากการที่ เซมเบราส โดนใบแดงไล่ออก จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบน็อกเอาท์แล้ว หลัง 4 นัดเก็บได้ 10 คะแนน นำจ่าฝูงกลุ่มบี ขณะที่ ซีเอสเคเอ มอสโก รั้งอันดับ 3 มีเพียง 4 แต้ม ต้องลุ้นแซง โวล์ฟสบวร์ก (7 คะแนน) ในสองนัดสุดท้าย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, เวส บราวน์, จอนนี อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, หลุยส์ นานี, เฟเดริโก มาเคดา, ไมเคิล โอเวน
ซีเอสเคเอ มอสโค : อีกอร์ อคินเฟเยฟ, จีออร์จี เชนนิคอฟ, วาซิลี เบเรซุตสกี, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี, เยฟเจนี อัลโดนิน, เดวิดาส เซมเบราส, อลัน ซาโกเยฟ, มิลอส คราซิช, พาเวล มามาเยฟ, โทมัส เนซิด
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจ “สิงห์บลูส์” เชลซี ยอดทีมจากอังกฤษ บุกไปเสมอ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ถึงสเปน 2-2 โดยเจ้าถิ่นได้จาก เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.66) และช่วงทดเจ็บ ขณะที่ทีมเยือนได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เหมาสองนาทีที่ 82 และ 88 จากผลนัดนี้ทำให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 4 นัด ควงแขน เอฟซี ปอร์โต ของโปรตุเกส (9 แต้ม) ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย
ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำคืนวันอังคาร
กลุ่มเอ
บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 0-2 บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)
[0-1 : โยอันน์ กูร์คูฟฟ์ (น.37) , 0-2 : มารูยาน ชามัคห์ (น.90)]
มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) 0-1 ยูเวนตุส (อิตาลี)
[0-1 : เมาโร คาโมราเนซี (น.45)]
กลุ่มบี
เบซิกตัส (ตุรกี) 0-3 โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี)
[0-1 : ซเวซดาน มิซิโมวิช (น.14) , 0-2 : คริสเตียน เกนท์เนอร์ (น.80) , 0-3 : เอดิน เซโก (น.87)]
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3-3 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)
[0-1 : อลัน ซาโกเยฟ (น.25) , 1-1 : ไมเคิล โอเวน (น.29) , 1-2 : มิลอส คราซิช (น.31) , 1-3 : วาซิลี เบเรซุตสกี (น.47) , 2-3 : พอล สโคลส์ (น.84) , 3-3 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย (น.90)]
กลุ่มซี
เอซี มิลาน (อิตาลี) 1-1 รีล มาดริด (สเปน)
[0-1 : คาริม เบนเซมา (น.29) , 1-1 : โรนัลดินโญ (จุดโทษ น.35)]
โอลิมปิก มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) 6-1 เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
[1-0 : ซิลแว็ง เอเกอร์เตอร์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.3) , 2-0 : ฟาบริซ อาเบรียล (น.11) , 2-1 : อเล็กซานเดร อัลปอนเซ (น.31) , 3-1 : มามาดู เนียง (น.52) , 4-1 : วิคเตอร์ ฮิลตัน (น.80) , 5-1 : บรูโน เชย์รู (น.87) , 6-1 : บรันเดา (น.90)]
กลุ่มดี
อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 0-1 เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส)
[0-1 : ฟัลเกา (น.84)]
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 2-2 เชลซี (อังกฤษ)
[1-0 : เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.66) , 1-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.82) , 1-2 : ดร็อกบา (น.88) , 2-2 : เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.90)]
ศึกฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 กลุ่มบี
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3-3 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มีการปรับทัพ “ผีแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด หลายตำแหน่งในเกมยุโรป เนื่องจากสุดสัปดาห์นี้มีคิวโหดเยือน เชลซี ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยการเจอกับ ซีเอสเคเอ มอสโค เจ้าถิ่นวาง เฟเดริโก มาเคดา ล่าตาข่ายร่วมกับ ไมเคิล โอเวน แดนกลางมี ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ ฟิตคืนสนาม ส่วนปราการหลังตัวกลาง เวส บราวน์ ได้จับคู่กับ จอนนี อีแวนส์ ด้านทีมเยือนนำมาโดยคู่แฝด “เบเรซุตสกี” วาซิลี และ อเล็กเซ ส่วน มิลอส คราซิช คอยปั้นเกมร่วมกับ อลัน ซาโกเยฟ ลุ้นให้ โทมัส เนซิด ลุ้นเจาะตาข่าย
เริ่มเกมการแข่งขัน ซีเอสเคเอ มอสโก ไม่หวั่นเกรงศักดิ์ศรีของเจ้าถิ่นลุยใส่ก่อนและก็มีโอกาสได้ลุ้นเมื่อ เดวิดาส เซมเบราส ส่องไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาไม่ห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด โต้กลับมาเช่นกัน อันโตนิโอ วาเลนเซีย สลัดหลุดเข้ากรอบโทษก่อนง้างยิงแต่โดน เซอร์เก อิกนาเชวิช พุ่งเข้ามาบล็อกได้ทัน นาทีที่ 10 “ผีแดง” พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำเมื่อ วาเลนเซีย ลากหลุดไปถึงเส้นหลังฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลาง ไมเคิล โอเวน ดันยิงด้วยขวาไปติดเท้าซ้ายอย่างน่าเสียดาย ผ่าน 15 นาทีแรก เจ้าบ้านเริ่มเป็นฝ่ายคุมเกมเอาไว้ได้ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ สบโอกาสตะบันด้วยขวาบอลพุ่งผ่านมือ อีกอร์ อคินเฟเยฟ แต่ก็เฉียดเสาไปอีก
ทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถเจาะเข้าทำประตูได้เหน่งๆ ทว่าสามนาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด พลาดโอกาสทองในการได้ประตูนำเมื่อ โอเวน ลากหลุดเข้ากรอบ 6 หลา แต่ดันยิงไปติดขาของ อคินเฟเยฟ ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป “ผีแดง” ใกล้เคียงกับการได้ประตูนำอีกครั้ง วาเลนเซีย จ่ายเข้าในให้ เฟเดริโก มาเคดา ได้ยิงด้วยซ้ายบอลติดไซด์พุ่งหลุดเสาแบบมีเสียวแต่ถึงนาทีที่ 25 กลายเป็น ซีเอสเคเอ มอสโก ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับ โทมัส เนซิด พักอกให้ อลัน ซาโกเยฟ ลากหนี จอนนี อีแวนส์ เข้าไปส่องด้วยซ้ายมุมแคบบอลผ่าน เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เสียบหน้าต่างเสาไกลอย่างเด็ดขาด
ทว่าสี่นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอ 1-1 สำเร็จ วาเลนเซีย เปิดเข้ากลางให้ หลุยส์ นานี ตอกส้นบอลถึง โอเวน สังหารเน้นๆ ไม่พลาด เกมแลกกันสนุก นาทีที่ 31 ทีมเยือนนำอีกครั้งเป็น 2-1 เนซิด เล่นชิ่งให้ มิลอส คราซิช หลุดเข้าไปแตะหนี ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนหมุนตัวยิงไม่เหลือ พอโดนเจาะไปอีกครั้งเจ้าบ้านโหมลุยช่วงท้ายครึ่งแรกมีโอกาสสองครั้งสองคราจากลูกยิงของ มาเคดา และ พอล สโคลส์ แต่ก็ไม่ผ่านมือ อคินเฟเยฟ จบ 45 นาทีแรก ผู้มาเยือนจากแดนหมีขาวรักษาสกอร์ที่ได้เปรียบเอาไว้
ลงมาลุยต่อครึ่งหลังแค่ 2 นาที ซีเอสเคเอ มอสโค หนีห่างเป็น 3-1 เมื่อ วาซิลี เบเรซุตสกี เติมขึ้นมาโขกลูกเปิดฟรีคิกที่เสาไกลตุงตาข่าย พอโดนทิ้ง แมนฯ ยูไนเต็ด โหมเกมทันที เฟล็ทเชอร์ ได้หักหลบในกรอบโทษแต่โดน อเล็กเซ เบเรซุตสกี เกี่ยวขาล้มคว่ำ ทว่า โอเลการิโอ เบนเกเรนซา เชิ้ตดำชาวโปรตุกีสมองว่ามิดฟิลด์ชาวสกอตติชพุ่งล้มจึงควักใบเหลืองออกมาแจกให้แทน เกมของเจ้าถิ่นยังไม่ดีขึ้นทำให้ เฟอร์กี ต้องส่ง เวย์น รูนีย์ ที่เพิ่งได้ลูกชายคนแรกลืมตามาดูโลกเมื่อต้นสัปดาห์ ลงสนามแทน นานี พร้อมกับใส่ ปาทริซ เอฟรา ไปยืนแบ็กซ้ายแทน ฟาบิโอ ดา ซิลวา
หนึ่งชั่วโมงผ่านไป “ผีแดง” ได้ฟรีคิกระยะประมาณ 35 หลา พอล สโคลส์ วิ่งเข้ามาซัดบอลผ่านกำแพงร้อนถึง อคินเฟเยฟ ต้องปัดออกมา วาเลนเซีย ปรี่เข้าซ้ำแต่นายทวารทีมชาติรัสเซียก็ป้องกันได้อีก ปล่อยให้เจ้าถิ่นขึงเกมอยู่พักหนึ่ง ลีโอนิด สลัตสกี ปรับหมากบ้างใส่ เอลเวียร์ ราฮิมิช กองกลางตัวรับลงมาตัดเกมแทน พาเวล มามาเยฟ แต่ก็เติม ดาเนียล คาร์วัลโญ ดาวเตะบราซิเลียนมาปั้นเกมรุกแทน ซาโกเยฟ ที่ชักหายไปจากเกม เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ลุยขึ้นมาทางขวา แกรี เนวิลล์ โยกให้ โอเวน ได้ขวิด อคินเฟเยฟ ปัดมาเข้าทาง รูนีย์ อัดไปที่เสาแรกทว่ายังติดขาของนายด่านจอมหนึบ
นาทีที่ 77 แฟนๆ เจ้าถิ่นเกือบได้เฮเมื่อ มาเคดา โหม่งเน้นๆ บอลกระแทกเสาออกมา รูนีย์ เข้าซ้ำแต่ อคินเฟเยฟ ก็ยังไม่ยอมพลาดอีก แมนฯ ยูไนเต็ด โถมใส่เป็นระยะ สโคลส์ ได้ส่องเหน่งๆ อีกครั้ง อคินเฟเยฟ โชว์การเซฟอีกหนแล้ว บี้อยู่พักใหญ่ “ผีแดง” ไล่มาเป็น 2-3 จากการขวิดของ สโคลส์ ก่อนหมดเวลา 6 นาที ท้ายเกมเจ้าบ้านกระหน่ำใส่จนเข้าช่วงทดเจ็บ วาเลนเซีย ยิงบอลแฉลบ จีออร์จี เชนนิคอฟ เข้าประตูไปเป็น 3-3 จากนั้นผู้มาเยือนเหลือ 10 คนจากการที่ เซมเบราส โดนใบแดงไล่ออก จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด เข้ารอบน็อกเอาท์แล้ว หลัง 4 นัดเก็บได้ 10 คะแนน นำจ่าฝูงกลุ่มบี ขณะที่ ซีเอสเคเอ มอสโก รั้งอันดับ 3 มีเพียง 4 แต้ม ต้องลุ้นแซง โวล์ฟสบวร์ก (7 คะแนน) ในสองนัดสุดท้าย
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, แกรี เนวิลล์, เวส บราวน์, จอนนี อีแวนส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, พอล สโคลส์, หลุยส์ นานี, เฟเดริโก มาเคดา, ไมเคิล โอเวน
ซีเอสเคเอ มอสโค : อีกอร์ อคินเฟเยฟ, จีออร์จี เชนนิคอฟ, วาซิลี เบเรซุตสกี, เซอร์เก อิกนาเชวิช, อเล็กเซ เบเรซุตสกี, เยฟเจนี อัลโดนิน, เดวิดาส เซมเบราส, อลัน ซาโกเยฟ, มิลอส คราซิช, พาเวล มามาเยฟ, โทมัส เนซิด
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งที่น่าสนใจ “สิงห์บลูส์” เชลซี ยอดทีมจากอังกฤษ บุกไปเสมอ “ตราหมี” แอตเลติโก มาดริด ถึงสเปน 2-2 โดยเจ้าถิ่นได้จาก เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.66) และช่วงทดเจ็บ ขณะที่ทีมเยือนได้ ดิดิเยร์ ดร็อกบา เหมาสองนาทีที่ 82 และ 88 จากผลนัดนี้ทำให้ เชลซี มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนจาก 4 นัด ควงแขน เอฟซี ปอร์โต ของโปรตุเกส (9 แต้ม) ผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย
ผลฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ประจำคืนวันอังคาร
กลุ่มเอ
บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) 0-2 บอร์กโดซ์ (ฝรั่งเศส)
[0-1 : โยอันน์ กูร์คูฟฟ์ (น.37) , 0-2 : มารูยาน ชามัคห์ (น.90)]
มัคคาบี ไฮฟา (อิสราเอล) 0-1 ยูเวนตุส (อิตาลี)
[0-1 : เมาโร คาโมราเนซี (น.45)]
กลุ่มบี
เบซิกตัส (ตุรกี) 0-3 โวล์ฟสบวร์ก (เยอรมนี)
[0-1 : ซเวซดาน มิซิโมวิช (น.14) , 0-2 : คริสเตียน เกนท์เนอร์ (น.80) , 0-3 : เอดิน เซโก (น.87)]
แมนฯ ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 3-3 ซีเอสเคเอ มอสโก (รัสเซีย)
[0-1 : อลัน ซาโกเยฟ (น.25) , 1-1 : ไมเคิล โอเวน (น.29) , 1-2 : มิลอส คราซิช (น.31) , 1-3 : วาซิลี เบเรซุตสกี (น.47) , 2-3 : พอล สโคลส์ (น.84) , 3-3 : อันโตนิโอ วาเลนเซีย (น.90)]
กลุ่มซี
เอซี มิลาน (อิตาลี) 1-1 รีล มาดริด (สเปน)
[0-1 : คาริม เบนเซมา (น.29) , 1-1 : โรนัลดินโญ (จุดโทษ น.35)]
โอลิมปิก มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) 6-1 เอฟซี ซูริค (สวิตเซอร์แลนด์)
[1-0 : ซิลแว็ง เอเกอร์เตอร์ (ทำเข้าประตูตัวเอง น.3) , 2-0 : ฟาบริซ อาเบรียล (น.11) , 2-1 : อเล็กซานเดร อัลปอนเซ (น.31) , 3-1 : มามาดู เนียง (น.52) , 4-1 : วิคเตอร์ ฮิลตัน (น.80) , 5-1 : บรูโน เชย์รู (น.87) , 6-1 : บรันเดา (น.90)]
กลุ่มดี
อาโปเอล นิโคเซีย (ไซปรัส) 0-1 เอฟซี ปอร์โต (โปรตุเกส)
[0-1 : ฟัลเกา (น.84)]
แอตเลติโก มาดริด (สเปน) 2-2 เชลซี (อังกฤษ)
[1-0 : เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.66) , 1-1 : ดิดิเยร์ ดร็อกบา (น.82) , 1-2 : ดร็อกบา (น.88) , 2-2 : เซอร์จิโอ อกูเอโร (น.90)]