ฟาบริซ ซองโตโร นักหวดลูกสักหลาดจอมเก๋าชาวฝรั่งเศส อึกอักเมื่อถูกถามถึงเรื่องแขวนแร็กเก็ต หลังจากที่ตกรอบแรกไทยแลนด์ โอเพ่น ประจำปี 2008 ด้วยน้ำมือของ วิคเตอร์ ทรอยสกี ดาวรุ่งจากเซอร์เบีย
ศึกเทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2008 ระหว่างวันที่ 23-28 กันยายน 2551 ชิงเงินรางวัลรวม 576,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 19 ล้านบาท) ที่ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 24 กันยายน ยังเป็นการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว รอบแรก
ปรากฏว่า ฟาบริซ ซองโตโร วัย 35 ปี ต้านทานลูกสดของ วิคเตอร์ ทรอยสกี เพื่อนสนิทของ โนวัค ยอโควิช ไม่ไหวพ่ายไป 0-2 เซต 6-7 (4/7), 2-6 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน ทรอยสกี ผ่านเข้ารอบสองไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เจอร์เกน เมลเซอร์ จากออสเตรีย หรือ โดนัลด์ ยัง ดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ ต่อไป
ภายหลังการแข่งขัน ซองโตโร ออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปตามติดสถานการณ์ถึงขอบสนาม “นี่เป็นแมตช์ที่ดี ผมมีความสุขที่ได้มาเล่นที่นี่ เซตแรกเล่นกันได้สูสี แต่ผมก็มาพลาดอีกในเซตสอง ส่วนเรื่องที่ว่าจะกลับมาแข่งไทยแลนด์ โอเพ่น อีกหรือไม่ในปีหน้า ก็ต้องกลับไปคิดดูก่อน”
จากคำพูดดังกล่าวจึงมีการสอบถามถึงความคิดรีไทร์ ซึ่ง ซองโตโร ออกอาการอ้ำอึ้ง “ก็ต้องยอมรับว่าการเดินทางตระเวนเล่นเทนนิสอาชีพ ค่อนข้างเหนื่อยมากจริงๆ ผมยังไม่ได้วางแผนสำหรับปีหน้าเลย ถ้าลงแข่งอาจลดรายการที่เล่นลงมาก ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันสำหรับการฝึกซ้อมเพื่อลงเล่นในทุกรายการ”
“ตอนนี้ผมเริ่มคิดถึงครอบครัว การทิ้งครอบครัวและลูกสาวมานานๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเดือนกรกฎาคม ผมยังคิดอยู่เลยว่านี่เหลืออีกตั้ง 4 เดือนกว่าการแข่งขันฤดูกาลนี้จะหมดลง ซึ่งมันนานเหลือเกิน ส่วนเรื่องถ้าผมเกิดเลิกไปจริงๆ อนาคตผมคงไม่เป็นโค้ช อยากทำอะไรอยู่ที่บ้านมากกว่า อยากกลับไปฝรั่งเศสเพราะลูกผมเรียนอยู่ที่นั่น แม้ว่าการใช้ชีวิตในเจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) ไม่เลว ภาษีก็เสียน้อยกว่าที่ฝรั่งเศส แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมคือครอบครัว” ซองโตโร ทิ้งท้ายได้ประทับใจ
สำหรับ ซองโตโร ยังไม่หมดภารกิจในไทยแลนด์ โอเพ่น 2008 เนื่องจากมีโปรแกรมประสานงาน โจ วิลเฟรด ซองกา เพื่อนร่วมชาติ แข่งขันประเภทชายคู่ รอบแรกกับพี่น้อง “ยอโควิช” โนวัค และ มาร์โก ในค่ำวันนี้
ศึกเทนนิสเอทีพี ทัวร์ รายการ ไทยแลนด์ โอเพ่น 2008 ระหว่างวันที่ 23-28 กันยายน 2551 ชิงเงินรางวัลรวม 576,000 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 19 ล้านบาท) ที่ อิมแพค อารีนา เมืองทองธานี เมื่อช่วงบ่ายวันพุธที่ 24 กันยายน ยังเป็นการแข่งขันประเภทชายเดี่ยว รอบแรก
ปรากฏว่า ฟาบริซ ซองโตโร วัย 35 ปี ต้านทานลูกสดของ วิคเตอร์ ทรอยสกี เพื่อนสนิทของ โนวัค ยอโควิช ไม่ไหวพ่ายไป 0-2 เซต 6-7 (4/7), 2-6 ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน ทรอยสกี ผ่านเข้ารอบสองไปเจอกับผู้ชนะระหว่าง เจอร์เกน เมลเซอร์ จากออสเตรีย หรือ โดนัลด์ ยัง ดาวรุ่งชาวสหรัฐฯ ต่อไป
ภายหลังการแข่งขัน ซองโตโร ออกมาให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว MGR Sport ที่ไปตามติดสถานการณ์ถึงขอบสนาม “นี่เป็นแมตช์ที่ดี ผมมีความสุขที่ได้มาเล่นที่นี่ เซตแรกเล่นกันได้สูสี แต่ผมก็มาพลาดอีกในเซตสอง ส่วนเรื่องที่ว่าจะกลับมาแข่งไทยแลนด์ โอเพ่น อีกหรือไม่ในปีหน้า ก็ต้องกลับไปคิดดูก่อน”
จากคำพูดดังกล่าวจึงมีการสอบถามถึงความคิดรีไทร์ ซึ่ง ซองโตโร ออกอาการอ้ำอึ้ง “ก็ต้องยอมรับว่าการเดินทางตระเวนเล่นเทนนิสอาชีพ ค่อนข้างเหนื่อยมากจริงๆ ผมยังไม่ได้วางแผนสำหรับปีหน้าเลย ถ้าลงแข่งอาจลดรายการที่เล่นลงมาก ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกันสำหรับการฝึกซ้อมเพื่อลงเล่นในทุกรายการ”
“ตอนนี้ผมเริ่มคิดถึงครอบครัว การทิ้งครอบครัวและลูกสาวมานานๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อเดือนกรกฎาคม ผมยังคิดอยู่เลยว่านี่เหลืออีกตั้ง 4 เดือนกว่าการแข่งขันฤดูกาลนี้จะหมดลง ซึ่งมันนานเหลือเกิน ส่วนเรื่องถ้าผมเกิดเลิกไปจริงๆ อนาคตผมคงไม่เป็นโค้ช อยากทำอะไรอยู่ที่บ้านมากกว่า อยากกลับไปฝรั่งเศสเพราะลูกผมเรียนอยู่ที่นั่น แม้ว่าการใช้ชีวิตในเจนีวา (สวิตเซอร์แลนด์) ไม่เลว ภาษีก็เสียน้อยกว่าที่ฝรั่งเศส แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดของผมคือครอบครัว” ซองโตโร ทิ้งท้ายได้ประทับใจ
สำหรับ ซองโตโร ยังไม่หมดภารกิจในไทยแลนด์ โอเพ่น 2008 เนื่องจากมีโปรแกรมประสานงาน โจ วิลเฟรด ซองกา เพื่อนร่วมชาติ แข่งขันประเภทชายคู่ รอบแรกกับพี่น้อง “ยอโควิช” โนวัค และ มาร์โก ในค่ำวันนี้