xs
xsm
sm
md
lg

ปลุก "ผี" คืนชีพ หยุดสถิติ "เชลซี" / เซียนไก๋

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โด้ กลับมาทันเวลา
แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำเอาสาวก "เรด เดวิลส์" เชียร์กันหืดตั้งแต่ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ เพราะฟอร์มสุดกระท่อนกระแท่น เพิ่งจะแพ้มาในเกม "วันแดงเดือด" แถมสัปดาห์นี้ต้องเจอโปรแกรมหนักต่อเนื่องบุกรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ เชลซี โดยเตะเป็นคู่ที่สองในวันอาทิตย์ที่ 21 กันยายนนี้เวลา 2 ทุ่มตรง

จากความผิดพลาดของแนวรับทำให้แพ้ ลิเวอร์พูล 1-2 หากนับเกมนัดชิง ยูฟา ซูเปอร์ คัพ ที่เสียท่าต่อ เซนิต เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทำให้ แมนฯยู แพ้ 2 นัดติดต่อกัน แน่นอนหลายคนอาจจะมองว่าดับเบิลแชมป์เมื่อปีที่แล้วตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก กระนั้นก็ตามอย่าลืมว่าฤดูกาลก่อนอดีตแชมป์ พรีเมียร์ชิป 10 สมัยก็แพ้ตั้งแต่หัววันแบบนี้ต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี แต่พอเครื่องติดก็ชนะรวดถึง 8 นัด

อย่างไรก็ตามแม้ต้องเจอเกมหนักกับ เชลซี ที่ฟอร์มเหนือกว่านำเป็นจ่าฝูงจากการชนะ 3 เสมอ 1 นัด มี 10 แต้ม แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลัง แมนฯยู ก็เชื่อว่าความพ่ายแพ้ต่อ ลิเวอร์พูล น่าจะเป็นแรงกระตุ้นชั้นดีให้เพื่อนร่วมทีมสร้างเซอร์ไพรส์บุกไปเอาชนะหยุดสถิติไร้พ่ายติดต่อกันในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เอาไว้แค่ 84 นัด เหมือนที่เคยหยุดสถิติไม่ปราชัยในลีก 49 นัดติดของ อาร์เซนอล มาแล้ว

แนวรับทีมชาติอังกฤษ เผยว่า "เยี่ยมเสมอกับการต้องลงเล่นเกมใหญ่หลังผิดหวังมา เพราะทีมของคุณเองย่อมพยายามหาจุดเปลี่ยน เราจะไปเยือน เชลซี และพยายามเก็บ 3 แต้มพร้อมทั้งพังสถิติไร้พ่ายในบ้านของพวกเขาตลอด 2 หรือ 3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แน่นอนไม่มีเกมไหนจะดีไปกว่าเกมนี้อีกแล้ว"

แต่เกมนี้ แมนฯยู จะไม่มี เนมานยา วิดิช คู่ขาของ ริโอ ที่โดนใบเหลือง-แดงไล่ออกในเกมกับ ลิเวอร์พูล ส่วนตัวแทนยังลังเลว่าจะเป็น เวส บราวน์ หรือ โจนาธาน อีแวนส์ ที่ได้เล่นในเกมประเดิม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่เสมอกับ บียาร์ริล 0-0 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา แต่ว่าในแนวรุกได้ คริสเตียโน โรนัลโด ดาวยิง 42 ประตูเมื่อปีที่แล้วคืนสนามเป็นตัวจริงแน่นอนหลังลงมาเคาะสนิมเป็นตัวสำรองในเกมยุโรป ส่วนคู่หน้าอาจเป็น คาร์ลอส เตเบซ และ เวย์น รูนีย์ เพราะ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ เจ็บเข่าอาจไม่ฟิตเต็มร้อย

ก่อนเกม เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือคู่บารมี แมนฯยูไนเต็ด ออกมาเปิดศึกกับ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ ที่ยกเลิกใบแดงของ จอห์น เทอร์รี กัปตันทีม เชลซี ที่ได้จากเกมถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี 3-1 ทั้งที่ตอนแรกจะต้องโดนแบนถึง 3 นัด ชนิดที่ว่า หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี นายใหญ่ "สิงห์บลูส์" ก็ออกมายอมรับว่าโชคดีไม่น้อยที่อุทธรณ์ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามเกมนี้ เชลซี จะไม่มี มิคาเอล เอสเซียง กองกลางพันธุ์ถึกที่เจ็บเข่าต้องหายหน้าหายตาไปถึง 6 เดือน แต่จะได้ มิคาเอล บัลลัค กัปตันทีมชาติเยอรมัน ที่หายเจ็บคืนสนาม หลังลงเป็นตัวสำรองในเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่ถล่ม บอร์กโดซ์ 4-0 รวมถึง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงมฤตยูดำที่กลับมาฟิตเต็มถังแล้วด้วย

เกมนี้แม้ แมนฯยู จะได้ โรนัลโด กลับมากระชากลากเลื้อยอีกครั้งแต่ แฟรงค์ แลมพาร์ด ห้องเครื่อง เชลซี ที่ซัดประตู 2 นัดติดต่อกันก็ไม่ได้หวาดหวั่นแต่อย่างใด "ผมไม่รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เมื่อฤดูกาลก่อน โรนัลโด คือสุดยอดนักเตะของโลก จากผลงานที่ไม่มีใครหยุดยั้งเขาได้ แต่ช่วงไม่กี่เดือนมานี้เขาเพิ่งจะกลับมาซ้อมได้หลังหายจากอาการบาดเจ็บ ไม่รู้สิ ผมไม่แน่ใจว่าพวกเขาจะเล่นร่วมกันได้ดีขนาดไหน"

เมื่อฤดูกาลที่แล้วทั้งคู่เจอกัน 4 นัดผลัดกันชนะและเสมอเท่ากัน แต่หากจะนับในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ 6 ปีแล้วที่ เชลซี ไม่แพ้ นัดสุดท้ายต้องย้อนไปในฤดูกาล 2001-02 แมนฯยูไนเต็ด บุกมาชนะไปได้ 3-0 ส่วนเกมนี้ฟอร์มของเจ้าถิ่นดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดแถมนักเตะตัวหลักๆ ก็กลับมาอย่างฟูลทีม แต่ว่า "ผีแดง" ก็ยกระดับขึ้นมาได้ดีในเกมยุโรปที่เสมอ บียาร์ริล แถมมีอาวุธหลากหลายทั้ง โรนัลโด และ เบอร์บาตอฟ ไม่แน่เกมนี้อาจมีเซอร์ไพรส์ให้เห็นก็เป็นได้

มีเกมอีกคู่ที่น่าสนใจเช่นกัน แมนฯซิตี ทีมเงินถุงเงินถังหน้าใหม่ประจำเกาะอังกฤษ ได้เล่นในรัง เดอะ ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดียม 2 นัดติดต่อกันรับมือ ปอร์ทสมัธ ผลงานทั้งคู่สุดสูสีมี 6 คะแนนจากการชนะ 2 และแพ้ 2 นัดเท่ากัน อีกทั้งไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบเพราะว่าต้องลงเล่นในศึก ยูฟา คัพ เหมือนกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

แมนฯซิตี ที่ขนแข้งใหม่อย่าง โรบินโญ และ โช ลงสนามสร้างความฮือฮาต่อหน้าเจ้าของใหม่จาก สหรัฐ อาหรับ เอมิเรตส์ เพิ่งแพ้ เชลซี 1-3 ปัญหาในเกมนั้นก็คือกุนซือ มาร์ค ฮิวจ์ส ที่เอาแต่โวยกรรมการจนไม่เป็นอันแก้เกม ซึ่งตรงจุดนี้อาจจะเสียเปรียบ แฮร์รี เรดแน็ปป์ นายใหญ่ระดับกระดูกขัดมันของ ปอร์ทสมัธ อย่างไรก็ตามเกมนี้ "เรือใบสีฟ้า" ยังหมดสิทธิใช้งานสองกองกลาง มาร์ติน เปตรอฟ และ ไมเคิล จอห์นสัน ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ

ปอร์ทสมัธ ผลงานถือว่าไม่ขี้เหร่ เพราะออกสตาร์ทแพ้ 2 นัดรวดเป็นการพ่ายต่อ เชลซี และ แมนฯยูไนเต็ด จากนั้นเอาชนะได้ทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ มิดเดิลสโบรช์ โดยเฉพาะคู่หน้าอย่าง เจอร์เมน เดโฟ ที่ซัดไปแล้ว 3 ประตูกับ ปีเตอร์ เคราช์ แต่เกมนี้ถือว่าเจองานหนักต้องบุกรัง แมนฯซิตี ที่เปลี่ยนรูปโฉมไปมาก แถมสถิติที่ผ่านมาตั้งแต่เป็น พรีเมียร์ชิป ก็ไม่เคยบุกชนะเลย ดูแล้วเกมสุดเบียดมีสิทธิที่จะออกเสมอได้

ฟันธง ตรงเผง โดย เซียนไก๋ เจริญกรุง
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ มิดเดิลสโบรช์ 1-0
เวสต์ แฮม ชนะ นิวคาสเซิล 2-1
แบล็คเบิร์น เสมอ ฟูแลม 1-1
ลิเวอร์พูล ชนะ สโต๊ค 3-0
โบลตัน แพ้ อาร์เซนอล 0-1
เวสต์ บรอม แพ้ วิลลา 0-1
เชลซี แพ้ แมนฯยู 1-2
ฮัลล์ เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1
แมนฯซิตี เสมอ ปอร์ทสมัธ 1-1
สเปอร์ส ชนะ วีแกน 2-0

โปรแกรมฟุตบอล พรีเมียร์ชิป สุดสัปดาห์นี้
วันเสาร์ที่ 20 กันยายนนี้ 2551
ซันเดอร์แลนด์ พบ มิดเดิลสโบรช์ เวลา 18.45น.
เวสต์ แฮม พบ นิวคาสเซิล เวลา 21.00น.
แบล็คเบิร์น พบ ฟูแลม เวลา 21.00น.
ลิเวอร์พูล พบ สโต๊ค เวลา 21.00น.
โบลตัน พบ อาร์เซนอล เวลา 23.30น.

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2551
เวสต์ บรอม พบ วิลลา เวลา 18.00น.
เชลซี พบ แมนฯยู เวลา 20.00น.
ฮัลล์ พบ เอฟเวอร์ตัน เวลา 21.00น.
แมนฯซิตี พบ ปอร์ทสมัธ เวลา 21.00น.
สเปอร์ส พบ วีแกน เวลา 21.00น.
แข้งผีต้องติดเครื่องด่วนจี๋
แลมพาร์ด ฟอร์มกำลังสด
เทอร์รี พ้นแบนลงคุมแนวรับ
กำลังโหลดความคิดเห็น