โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลกชาวสวิสฯ ยอมรับ ภูมิใจกับการคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพน และ วิมเบิลดัน รายการละ 5 สมัย ส่วนความผิดหวังจากความพ่ายแพ้ในรอบชิงชนะเลิศ เฟรนช์ โอเพน และ วิมเบิลดัน ตัวเขาได้ลืมไปหมดสิ้นแล้ว
เมื่อช่วงเช้าวันอังคารที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา เฟเดอเรอร์ กลายเป็นนักเทนนิสคนแรกในรอบ 84 ปีต่อจาก บิล ทิลเดน ชาวอเมริกันที่สามารถชูถ้วยแชมป์ ยูเอส โอเพนใบงามได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน หลังไล่สอนเชิงมวย แอนดี เมอร์เรย์ มือ 6 จากสกอตแลนด์ 3 เซตรวด 6-2,7-5,6-2
โดย เฟดเอ็กซ์ กล่าวถึงความสำเร็จสุดยอดของตัวเองว่า "มันสุดยอดมากหากเอาแชมป์วิมเบิลดัน 5 สมัยมาเปรียบเทียบกับแชมป์ ยูเอส โอเพน 5 สมัย ปกติแล้วคงไม่มีใครทำแบบนี้ง่ายๆแน่ ดังนั้นผมเลยภูมใจกับความสำเร็จของตัวเองเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมา ผมพยายามอย่างหนัก ต่อสู้ในทุกๆรายการที่ลงแข่ง"
ทั้งนี้ หนุ่มบาเซิล วัย 27 ปีเพิ่มสถิติชนะในรอบชิงฯแกรนด์สแลม 13 ครั้งแพ้ 4 ครั้ง อีกทั้งยังทำสถิติเป็นผู้เล่นแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้แชมป์วิมเบิลดัน 5 สมัยซ้อน(2003-07) และ ยูเอส โอเพน 5 สมัยติด(2004-2008)
แต่ในปีนี้ผลงานในแกรนด์สแลมของเฟดเอ็กซ์ไม่ดีเท่าที่ควร โดยนักหวดที่เข้าชิงฯแกรนด์สแลม 13 จาก 14 รายการหลังสุดผู้นี้แพ้ให้กับ โนวัค ยอโควิช ในรอบรองชนะเลิศออสเตรเลียน โอเพน และแพ้ในรอบชิงฯเฟรนช์ โอเพน และวิมเบิลดันให้กับ ราฟาเอล นาดาล
"ความพ่ายแพ้ในเฟรนช์ โอเพนมันเจ็บปวดมาก แต่ผมก็ผ่านพ้นมันมาไม่ยากเท่าไหร่ จากนั้นผมก็เล่นได้ดีบนคอร์ตหญ้า แต่สุดท้ายก็มาแพ้ในรอบชิงฯวิมเบิลดัน แม้มันจะเป็นแมตช์สุดยอดเข้าขั้นมหากาพย์(Epic)แต่มันก็ทำให้ผมเสียใจไม่น้อย" เฟดเอ็กซ์ เผยถึงความผิดหวังใน 2 แกรนด์สแลมกลางปี "บางทีผมอาจจะใฝ่ฝันมาตลอด แต่กลับทำมันไม่สำเร็จ"
ชัยชนะใน ยูเอส โอเพน 2008 สร้างสถิติใหม่ๆให้ตัว เฟเดอเรอร์ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์คนที่ 3 ในยุค โอเพน ที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมแห่งเมืองนิวยอร์ก 5 สมัย ต่อจาก พีต แซมพราส และ จิมมี คอนเนอร์ส 2 ตำนานมะกัน
นอกจากนี้ยังทำให้เขาสร้างสถิติคว้าแชมป์อย่างน้อย 1 แกรนด์สแลมเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งหากยังทำแบบนี้ได้อีก 2 ปีก็จะมีสถิติเทียบเท่า พีต แซมพราส(1993-2000)และ บียอร์น บอร์ก(1974-81) ซึ่งทำไว้ 8 ปีติด
"ผมพยายามคิดในแง่บวกมาตลอด รู้ว่าถ้าอะไรอะไรมันเข้าทางผลงานที่ออกมาก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก" เฟเดอเรอร์ที่ก่อนหน้านี้คว้าแชมป์ที่ เอสโตริล และ ฮัลเล พูดถึงฤดูกาลอันยากลำบาก" ผมแพ้ในหลายแมตช์ที่ไม่ควรแพ้ กับตอนนี้ที่คว้าแชมป์ ยูเอส โอเพน สมัยที่ 5 มันจึงให้ความหมายต่อตัวผมมาก ต้องขอบคุณแฟนๆทุกคนที่เอาใจช่วยมาตั้งแต่ต้นปี จนถึงช่วงที่ผมพลาดเสียมือ 1 โลกไป และมาถึงตอนนี้ที่ผมกลับมาเป็นแชมป์แกรนด์สแลมได้อีกครั้ง"