มาร์ก ฮิวจ์ส ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี ยอมรับว่า ตัวเองไม่ได้ตกถังข้าวสาร พร้อมทั้งออกมาแตะเบรกแฟนบอลว่าอย่าเพิ่งวาดฝันที่จะได้เห็นซูเปอร์สตาร์ลูกหนังเดินว่อนเต็มทีม แม้เจ้าของสโมสรรายใหม่จะให้การหนุนหลังด้านการเงินอย่างเต็มที่ก็ตาม
อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (เอดียูจี) กลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างความตื่นตะลึงให้กับศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ด้วยการเข้าเทกโอเวอร์ “เรือใบสีฟ้า” พร้อมทั้งกระชาก โรบินโญ มาร่วมทัพด้วยค่าตัวสถิติสูงสุด โดยใช้เวลาดำเนินการภายในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาเพียงวันเดียว
เท่านั้นไม่พอ ซุไลมาน อัล-ฟาห์อิม แกนนำนายทุนยูเออี ยังเผยถึงโครงการสร้างทีมในฝันด้วยงบ 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 31,500 ล้านบาท) เพื่อคว้า คริสเตียโน โรนัลโด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, เชส ฟาเบรกาส, ลิโอเนล เมสซี, ริคาร์โด กาก้า และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รวมถึงแผนเสริมทัพโดยมีลิสต์รายชื่อมากถึง 18 ราย
ทำให้สาวกทีมดังย่านอีสต์แลนด์ส เริ่มตั้งเป้าหมายไปไกลว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำในระยะเวลาอันสั้น ทว่า “สปาร์กี้” กุนซือชาวเวลส์ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมาว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ต้นสังกัดของผู้เล่นเหล่านั้นจะยอมขายให้ บางทีสถานการณ์ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมอาจจะยากกว่าที่คิด”
“เราควรมองหาผู้เล่นที่สามารถคว้าตัวเข้ามาได้ตามหลักความเป็นจริง ซึ่งรายชื่อที่กำลังถูกกล่าวถึงล้วนอยู่ในสโมสรที่ลงเล่นในรายการสโมสรยุโรป แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่อยากเสียกำลังสำคัญในช่วงกลางฤดูกาล”
ในส่วนของความกดดันในการทำทีมที่มีเป้าหมายสูงขึ้นตามขนาดของสโมสรที่เติบโตขึ้น ฮิวจ์ส กล่าวว่า “เป้าหมายเป็นสิ่งที่ต้องพยายามไขว่คว้าไปให้ถึง รวมทั้งแข่งขันกับบรรดาทีมชั้นนำ แม้เวลาจะเปลี่ยนแต่เป้าหมายไม่เคยเปลี่ยน ซึ่งเราต้องต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์มาครองให้ได้”
ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี ใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้นราว 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) ในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ โดยได้นักเตะใหม่เข้ามา 7 คน ประกอบด้วย ทาล เบน-ฮาอิม, โจ, แว็งซ็องต์ กอมปานี, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ปาโบล ซาบาเลตา, เกลาแบร์ แบร์ติ และ โรบินโญ
อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (เอดียูจี) กลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สร้างความตื่นตะลึงให้กับศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ด้วยการเข้าเทกโอเวอร์ “เรือใบสีฟ้า” พร้อมทั้งกระชาก โรบินโญ มาร่วมทัพด้วยค่าตัวสถิติสูงสุด โดยใช้เวลาดำเนินการภายในวันจันทร์ที่ 1 กันยายนที่ผ่านมาเพียงวันเดียว
เท่านั้นไม่พอ ซุไลมาน อัล-ฟาห์อิม แกนนำนายทุนยูเออี ยังเผยถึงโครงการสร้างทีมในฝันด้วยงบ 500 ล้านปอนด์ (ประมาณ 31,500 ล้านบาท) เพื่อคว้า คริสเตียโน โรนัลโด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, เชส ฟาเบรกาส, ลิโอเนล เมสซี, ริคาร์โด กาก้า และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ รวมถึงแผนเสริมทัพโดยมีลิสต์รายชื่อมากถึง 18 ราย
ทำให้สาวกทีมดังย่านอีสต์แลนด์ส เริ่มตั้งเป้าหมายไปไกลว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นทีมชั้นนำในระยะเวลาอันสั้น ทว่า “สปาร์กี้” กุนซือชาวเวลส์ ออกมาให้สัมภาษณ์แบบตรงไปตรงมาว่า “มันเป็นเรื่องยากที่ต้นสังกัดของผู้เล่นเหล่านั้นจะยอมขายให้ บางทีสถานการณ์ในตลาดนักเตะเดือนมกราคมอาจจะยากกว่าที่คิด”
“เราควรมองหาผู้เล่นที่สามารถคว้าตัวเข้ามาได้ตามหลักความเป็นจริง ซึ่งรายชื่อที่กำลังถูกกล่าวถึงล้วนอยู่ในสโมสรที่ลงเล่นในรายการสโมสรยุโรป แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่อยากเสียกำลังสำคัญในช่วงกลางฤดูกาล”
ในส่วนของความกดดันในการทำทีมที่มีเป้าหมายสูงขึ้นตามขนาดของสโมสรที่เติบโตขึ้น ฮิวจ์ส กล่าวว่า “เป้าหมายเป็นสิ่งที่ต้องพยายามไขว่คว้าไปให้ถึง รวมทั้งแข่งขันกับบรรดาทีมชั้นนำ แม้เวลาจะเปลี่ยนแต่เป้าหมายไม่เคยเปลี่ยน ซึ่งเราต้องต่อสู้เพื่อคว้าแชมป์มาครองให้ได้”
ทั้งนี้ แมนฯ ซิตี ใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้นราว 60 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) ในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ โดยได้นักเตะใหม่เข้ามา 7 คน ประกอบด้วย ทาล เบน-ฮาอิม, โจ, แว็งซ็องต์ กอมปานี, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ปาโบล ซาบาเลตา, เกลาแบร์ แบร์ติ และ โรบินโญ