บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสร เอฟเวอร์ตัน ประกาศยกธงขาวยอมศิโรราบให้กับความมั่งคั่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี ที่เพิ่งได้นายทุนจากอาหรับเข้ามาบริหาร พร้อมเปิดทางให้เศรษฐีพันล้านรายอื่นเข้ามาซื้อกิจการด้วยความยินดี
แรงสั่นสะเทือนของ “อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป” หรือ เอดียูจี กลุ่มนักลงทุนจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จัดการฮุบหุ้น “เรือใบสีฟ้า” ด้วยวงเงิน 150 ล้านปอนด์ (ประมาณ 9,750 ล้านบาท) ส่งผลต่อเนื่องไปยังทีมร่วมศึกพรีเมียร์ชิป อังกฤษ อย่างไม่หยุดยั้ง
เริ่มด้วยการตัดหน้า เชลซี ทีมเงินถังแห่งกรุงลอนดอน คว้าตัว โรบินโญ ด้วยค่าตัวแพงที่สุดของเมืองผู้ดี 32.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,112 ล้านบาท) และยังมีแผนล่า 6 แข้งทองของโลก อย่าง คริสเตียโน โรนัลโด, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, เชส ฟาเบรกาส, ริคาร์โด้ กาก้า, ลิโอเนล เมสซี และ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ในอนาคต
ล่าสุด บิ๊กบอส “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ก็แสดงอาการประหวั่นพรั่นพรึงต่อการเข้ามาของ เอดียูจี โดยยินดีอ้าแขนรับข้อเสนอจากเศรษฐีพันล้านที่สนใจซื้อสโมสร เพื่อให้ทีมดังย่านเมอร์ซีย์ไซด์มีศักยภาพในการยืนหยัดสู้บนเวทีพรีเมียร์ลีกที่ยิ่งนับวันยิ่งมีเงินสะพัด รวมถึงการย้ายจาก กูดิสัน ปาร์ค ไปยังสนามเหย้าแห่งใหม่ที่ เคิร์กบี
โดย เคนไรท์ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมวาระพิเศษของสโมสร ว่า “ผมต้องการให้ เอฟเวอร์ตัน มีเศรษฐีพันล้านคนใหม่ที่ไม่ใช่ผมมาบริหารงาน การซื้อกิจการ แมนเชสเตอร์ ซิตี ของนักลงทุนชาวอาหรับ ทำให้ เอฟเวอร์ตัน ตกที่นั่งลำบากมากยิ่งขึ้น”
“ผมทนเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้ เราต้องเร่งหาเจ้าของสโมสรรายใหม่โดยเร็วที่สุด ตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์นี้นับเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายและยากลำบากที่สุดเท่าที่ผมจำความได้ ซึ่งดูเหมือนว่าในแต่ละปีการระดมทุนจะยิ่งทำได้ยากขึ้นเรื่อยๆ”