คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง ปิดม่านลงอย่างยิ่งใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีนชาติเจ้าภาพประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ทั้งทัพนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองเป็นอันดับหนึ่งและความสามารถด้านการจัดการแข่งขัน ขณะทัพนักกีฬาของสหราชอาณาจักร ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งหน้าสหรัฐอเมริกาและรัสเซียต้องทำงานอย่างหนักเหมือนกัน
สำหรับทัพนักกีฬาไทย 2 เหรียญทองกับ 2 เหรียญเงิน เป็นการยืนยันอีกครั้งว่ากีฬาประเภทบุคคลที่แข่งขันโดยการแบ่งรุ่นและกำหนัก ยังคงเป็นกีฬาที่นักกีฬาสามารถต่อสู้นำเหรียญกลับประเทศได้ ทั้งมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด ส่วนยิงปืน กรีฑาและอื่น ๆ ยังห่างไกลเหรียญมากเหลือเกิน
ปักกิ่งเกมส์ครั้งนี้ เยาวชนผู้มีใจรักกีฬาสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง เยาวชนยังไม่จำเป็นต้องสนใจความขัดแย้งระหว่างกรรมการสมาคมกีฬากับกรรมการโอลิมปิกสากลชาวไทย เรื่องของผู้ใหญ่และการชิงการนำแม้จะมีมูล แต่มันยังไม่เกี่ยวกับการฝึกฝนกีฬาที่เราชอบ
เยาวชนที่มีใจรักกีฬาสามารถเรียนรู้หัวจิตหัวใจแท้ ๆ ของ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล , บุตรี เผือดผ่อง,สมจิตร จงจอหอ และ มนัส บุญจำนงค์ นักกีฬา 4 คนที่คว้าเหรียญกลับมาให้ชาวไทยชื่นชมได้ชื่นชมและภาคภูมิใจ
หลังคว้าเหรียญทองโดยพิชิตนักชกโคตรมวยชาวคิวบา สมจิตรให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยที่ปักกิ่งว่า เขาทนเจ็บมามากแล้ว และสี่ปีที่แล้วเขาเกือบแขวนนวม เมื่อเขาตัดสินใจสู้เขาจึงได้ลิ้มรสชัยชนะที่หอมหวาน และปิดชีวิตบนผืนผ้าใบอย่างงดงาม จะให้งดงามกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
คำว่า “ทนเจ็บมามากแล้ว” ของสมจิตร บอกให้รู้ว่ากีฬาที่เล่นคนเดียวและต้องชั่งน้ำหนัก กีฬาที่นักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้จากโอลิมปิก 4 สมัย ได้มาด้วยความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่มีเหรียญไหนได้มาง่าย ๆ ประภาวดีต้องอิ่ม ๆ อด ๆ เพื่อเพาะสร้างกล้ามเนื้อและควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลงแข่งยกน้ำหนักให้ได้มากที่สุดในรุ่นเดียวกัน เธอเคยยกลูกเหล็กจนข้อศอกหลุด เราไม่รู้หรอกว่าเวลาไหล่หรือข้อศอกหลุดมันเจ็บปวดทรมานเท่าไร บุตรีที่ถูกนักเทควันโดคู่แข่งเตะต่อยหรือถีบมันเจ็บลึกแค่ไหน
เยาวชนสามารถเรียนรู้จากมนัส บุญจำนงค์ ได้ทั้งสองด้าน ด้านมืดและด้านสว่าง เรียนรู้บนความเคารพและยอมรับว่ามนัสเป็นวีรบุรุษโอลิมปิกอย่างแท้จริง นักมวยสากลสมัครเล่นที่ฝ่าด่านหมัดคู่ต่อสู้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศถึง 2 สมัย ครั้งแรกมนัสคว้าเหรียญทองจากกรุงเอเธนส์ และต่อมาคว้าเหรียญเงินจากปักกิ่ง ยังไม่รู้อีกกี่ปีถึงจะมีนักกีฬาไทยที่สามารถคว้าเหรียญจากกีฬาโอลิมปิกสองสมัยอีกคน และถ้ามนัสยังไม่แขวนนวม เขาอาจเป็นนักกีฬาคนที่แรกของไทยที่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิก 3 สมัยเหมือนอย่าง เฟลิกซ์ ชาวอน ยอดนักมวยรุ่นใหญ่ชาวคิวบา
บทเรียนที่เยาวชนไม่ควรเอาอย่าง และมนัสเองก็ไม่ต้องการให้ใครเอาอย่าง นั่นคือ หลังประสบความสำเร็จจากกรุงเอเธนส์ เขาใช้เงินรางวัลไปกับการพนันจนและความสนุกสนานที่มีแต่จะบ่อนทำลายนักกีฬา แต่เมื่อได้กลับมาอีกครั้ง แม้จะช้าไปบ้าง เขาก็ทำได้ดีเพราะความเป็นยอดมวยพรสวรรค์ ผมคิดว่าตอนขึ้นรับเหรียญรางวัลพร้อมเฟลิกซ์ ดิอาซ นักชกชาวโดมินิกันที่เอาชนะเขา ต้องมีนักวินาทีที่มนัสหวนกลับมานึกถึงช่วงที่เขาใช้ชีวิตเสเพล เพราะถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เขาจะไม่มีวันพ่ายเด็ดขาด
สิ่งที่เยาวชนไทยควรชื่นชมต่อสมจิตรและมนัส ก็คือ ความเป็นยอดนักกีฬา สมจิตรแสดงความเป็นผู้ใหญ่ที่นอบน้อม ให้เกียรติ และเป็นมิตรกับเพื่อนนักมวยที่เคยต่อสู้กันมา เขาจัดฉากจบของเขาตอนถ่ายรูปหลังรับเหรียญรางวัลให้ตัวเองอย่างงดงาม เช่นเดียวกับมนัสแม้จะพ่ายแพ้ ผมไม่เห็นนักมวยคนไหนที่ยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองและชัยชนะของคนอื่นได้สวยเท่ามนัสเลย
แม้ข้างในของมนัสจะขมขื่นจนกล้ำกลืนแทบไม่ลงก็ตาม
กีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 29 ณ กรุงปักกิ่ง ปิดม่านลงอย่างยิ่งใหญ่ สาธารณรัฐประชาชนจีนชาติเจ้าภาพประสบความสำเร็จในทุก ๆ ด้าน ทั้งทัพนักกีฬาที่คว้าเหรียญทองเป็นอันดับหนึ่งและความสามารถด้านการจัดการแข่งขัน ขณะทัพนักกีฬาของสหราชอาณาจักร ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย ในฐานะเจ้าภาพโอลิมปิกครั้งหน้าสหรัฐอเมริกาและรัสเซียต้องทำงานอย่างหนักเหมือนกัน
สำหรับทัพนักกีฬาไทย 2 เหรียญทองกับ 2 เหรียญเงิน เป็นการยืนยันอีกครั้งว่ากีฬาประเภทบุคคลที่แข่งขันโดยการแบ่งรุ่นและกำหนัก ยังคงเป็นกีฬาที่นักกีฬาสามารถต่อสู้นำเหรียญกลับประเทศได้ ทั้งมวยสากลสมัครเล่น ยกน้ำหนัก และเทควันโด ส่วนยิงปืน กรีฑาและอื่น ๆ ยังห่างไกลเหรียญมากเหลือเกิน
ปักกิ่งเกมส์ครั้งนี้ เยาวชนผู้มีใจรักกีฬาสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง เยาวชนยังไม่จำเป็นต้องสนใจความขัดแย้งระหว่างกรรมการสมาคมกีฬากับกรรมการโอลิมปิกสากลชาวไทย เรื่องของผู้ใหญ่และการชิงการนำแม้จะมีมูล แต่มันยังไม่เกี่ยวกับการฝึกฝนกีฬาที่เราชอบ
เยาวชนที่มีใจรักกีฬาสามารถเรียนรู้หัวจิตหัวใจแท้ ๆ ของ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล , บุตรี เผือดผ่อง,สมจิตร จงจอหอ และ มนัส บุญจำนงค์ นักกีฬา 4 คนที่คว้าเหรียญกลับมาให้ชาวไทยชื่นชมได้ชื่นชมและภาคภูมิใจ
หลังคว้าเหรียญทองโดยพิชิตนักชกโคตรมวยชาวคิวบา สมจิตรให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไทยที่ปักกิ่งว่า เขาทนเจ็บมามากแล้ว และสี่ปีที่แล้วเขาเกือบแขวนนวม เมื่อเขาตัดสินใจสู้เขาจึงได้ลิ้มรสชัยชนะที่หอมหวาน และปิดชีวิตบนผืนผ้าใบอย่างงดงาม จะให้งดงามกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
คำว่า “ทนเจ็บมามากแล้ว” ของสมจิตร บอกให้รู้ว่ากีฬาที่เล่นคนเดียวและต้องชั่งน้ำหนัก กีฬาที่นักกีฬาไทยสามารถคว้ามาได้จากโอลิมปิก 4 สมัย ได้มาด้วยความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่มีเหรียญไหนได้มาง่าย ๆ ประภาวดีต้องอิ่ม ๆ อด ๆ เพื่อเพาะสร้างกล้ามเนื้อและควบคุมน้ำหนักตัว เพื่อลงแข่งยกน้ำหนักให้ได้มากที่สุดในรุ่นเดียวกัน เธอเคยยกลูกเหล็กจนข้อศอกหลุด เราไม่รู้หรอกว่าเวลาไหล่หรือข้อศอกหลุดมันเจ็บปวดทรมานเท่าไร บุตรีที่ถูกนักเทควันโดคู่แข่งเตะต่อยหรือถีบมันเจ็บลึกแค่ไหน
เยาวชนสามารถเรียนรู้จากมนัส บุญจำนงค์ ได้ทั้งสองด้าน ด้านมืดและด้านสว่าง เรียนรู้บนความเคารพและยอมรับว่ามนัสเป็นวีรบุรุษโอลิมปิกอย่างแท้จริง นักมวยสากลสมัครเล่นที่ฝ่าด่านหมัดคู่ต่อสู้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศถึง 2 สมัย ครั้งแรกมนัสคว้าเหรียญทองจากกรุงเอเธนส์ และต่อมาคว้าเหรียญเงินจากปักกิ่ง ยังไม่รู้อีกกี่ปีถึงจะมีนักกีฬาไทยที่สามารถคว้าเหรียญจากกีฬาโอลิมปิกสองสมัยอีกคน และถ้ามนัสยังไม่แขวนนวม เขาอาจเป็นนักกีฬาคนที่แรกของไทยที่สามารถคว้าเหรียญโอลิมปิก 3 สมัยเหมือนอย่าง เฟลิกซ์ ชาวอน ยอดนักมวยรุ่นใหญ่ชาวคิวบา
บทเรียนที่เยาวชนไม่ควรเอาอย่าง และมนัสเองก็ไม่ต้องการให้ใครเอาอย่าง นั่นคือ หลังประสบความสำเร็จจากกรุงเอเธนส์ เขาใช้เงินรางวัลไปกับการพนันจนและความสนุกสนานที่มีแต่จะบ่อนทำลายนักกีฬา แต่เมื่อได้กลับมาอีกครั้ง แม้จะช้าไปบ้าง เขาก็ทำได้ดีเพราะความเป็นยอดมวยพรสวรรค์ ผมคิดว่าตอนขึ้นรับเหรียญรางวัลพร้อมเฟลิกซ์ ดิอาซ นักชกชาวโดมินิกันที่เอาชนะเขา ต้องมีนักวินาทีที่มนัสหวนกลับมานึกถึงช่วงที่เขาใช้ชีวิตเสเพล เพราะถ้าไม่เป็นอย่างนั้น เขาจะไม่มีวันพ่ายเด็ดขาด
สิ่งที่เยาวชนไทยควรชื่นชมต่อสมจิตรและมนัส ก็คือ ความเป็นยอดนักกีฬา สมจิตรแสดงความเป็นผู้ใหญ่ที่นอบน้อม ให้เกียรติ และเป็นมิตรกับเพื่อนนักมวยที่เคยต่อสู้กันมา เขาจัดฉากจบของเขาตอนถ่ายรูปหลังรับเหรียญรางวัลให้ตัวเองอย่างงดงาม เช่นเดียวกับมนัสแม้จะพ่ายแพ้ ผมไม่เห็นนักมวยคนไหนที่ยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองและชัยชนะของคนอื่นได้สวยเท่ามนัสเลย
แม้ข้างในของมนัสจะขมขื่นจนกล้ำกลืนแทบไม่ลงก็ตาม