xs
xsm
sm
md
lg

“สิงห์บลู” ถล่มแหลก 4-0 , "เรือใบ"ล่ม ประเดิมซีซั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เชลซี แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของทีมตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล หลังจากเปิดบ้านถล่ม ปอร์ทสมัธ 4-0 ขณะที่ แอสตัน วิลลา เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 ในการแข่งขันศึกพรีเมียร์ ลีก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคมที่ผ่าน

ผลการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก
เชลซี 4-0 ปอร์ทสมัธ


เกมนัดประเดิมสนามของ เชลซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ปอร์ทสมัธ โดยในเกมนี้ หลุยส์ เฟลิเป สโคลารี กุนซือของทีมมีปัญหาเรื่องนักเตะกองหน้าบาดเจ็บทำให้เกมส่ง นิโกลาส์ อเนลกา เป็นศูนย์หน้าคนเดียว ขณะที่เกมในแดนกลาง แฟรงค์ แลมพาร์ด และ มิชาเอล บัลลัค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเกม ขณะที่ ปอมปีย์ ของกุนซือ แฮร์รี เรดแนปป์ ส่ง ยูเนส กาบูล และ ปีเตอร์ เคราช์ ผู้เล่นตัวใหม่ลงสนามในเกมนี้ด้วย
โจ โคล วิ่งดีใจหลังซัดประตู 1-0
เริ่มเกมครึ่งแรกหลังจากผ่านมาสองนาที ปอร์ทสมัธ ก็มีโอกาสได้ยิงก่อนจาก เดโฟ ที่ได้ซัดเต็มๆในเขตโทษเจ้าถิ่น แต่ ปีเตอร์ เชก ยืนปิดมุมอยู่พอดีจึงรับบอลเข้าซองสบาย เกมผ่านมาถึงนาที 9 เชลซี ได้ยิงเข้ากรอบครั้งแรกจาก แลมพาร์ด ที่ยิงไกลระยะ 30 หลาแต่บอลพุ่งตรงตัว เดวิด เจมส์ รับได้สบาย แต่แล้วเจ้าบ้านก็ทำประตูขึ้นนำจนได้ในอีกสามนาทีต่อมาจากจังหวะทำชิ่งกันของ อเนลกา และ บัลลัค ก่อนที่กองกลางเยอรมนีจะกระแทกบอลข้ามกองหลังปอมปีย์ ให้ โจ โคล หลุดเข้าไปยิงผ่าน เจมส์ เชลซีขึ้นนำ 1-0

เกมผ่าน 15 นาที หลังจากทำประตูขึ้นนำเจ้าบ้านเริ่มครองเกมได้มากกว่าและเมื่อมาถึงนาทีที่ 25 เชลซี ทำประตูหนีห่างออกไปอีกเมื่อ โฮเซ โบซิงวา ลุยขึ้นมาทางกราบขวาก่อนเปิดบอลเข้ากลางแม้ว่าบอลจะเลยหน้าประตูไปแล้วแต่ก็มีผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้ามาตวัดบอลกลับมายังกลางประตูอีกครั้ง รวมถึงก่อนหน้านี้ เดวิด เจมส์ ออกมาตัดบอลพลาดในจังหวะแรกด้วยทำให้เสียตำแหน่งไป อเนลกา ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูกระโดดเบียดกองหลังทีมเยือนโหม่งเข้าประตูที่ว่างอยู่ให้ เชลซี หนีห่าง 2-0

ผ่านครึ่งชั่วโมงแรก รูปเกมของ ปอร์ทสมัธ ยังไม่ดีขึ้นเนื่องจากตอนนี้ เชลซี เน้นการครองบอลมากขึ้นและจะทำเกมบุกเมื่อมีโอกาสเหมาะสม แต่ก่อนหมดครึ่งแรกสามนาที ทีมเยือนเกือบทำประตูไล่มาเมื่อ นิโก ครันชาร์ ยิงจากนอกกรอบ ปีเตอร์ เชก ทุบบอลทิ้งออกมาเข้าทาง เคราช์ ยิงซ้ำอีกครั้งแต่บอลก็ยังไม่ผ่านนายด่านเจ้าถิ่นอีก แต่ในช่วงทดเวลาครึ่งแรก เชลซี หนีห่างไปเป็น 3-0 จนได้ เมื่อ ดิสแตง กองหลังปอมปีย์ ทำแฮนด์บอลในเขตโทษและเป็น แลมพาร์ด รับหน้าที่สังหารเข้าไป หลังจากนั้นกรรมการจึงเป่านกหวีดหมดเวลาทำให้จบครึ่งแรก เชลซีนำ 3-0
ลูกโหม่ง 2-0 ของ นิโกลาส์ อเนกา
เริ่มเกมครึ่งหลัง เชลซี ทำเกมบุกเข้าใส่ทันทีและหลังจากผ่านมาสี่นาทีเป็น อเนลกา ได้ยิงในเขตโทษทีมเยือนก่อนเลยแต่บอลเหินข้ามคานไป หลังจากนั้นอีกสองนาที โจ โคล หลุดเข้ายิงบ้างแต่ก็ซัดบอลหลุดเสาออกไปอีก เจ้าบ้านยังคงบุกอย่างต่อเนื่องนาที 58 แลมพาร์ด ลองส่องไกลอีกครั้งแต่บอลก็เลียดเกินไป เดวิด เจมส์ รับเข้ามือสบาย

เกมผ่านหนึ่งชั่วโมง รูปเกมในช่วงนี้เป็น ปอร์ทสมัธ ที่สามารถทำเกมบุกมากขึ้น เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน ลุยขึ้นมาทางด้านซ้ายพยายามเลี้ยงบอลให้ผ่าน โบซิงวา แต่ก็ทำได้เพียงลูกเตะมุม หลังจากนั้นอีกห้านาที เดโฟ ได้บอลหน้าเขตโทษเจ้าถิ่นพยายามเลี้ยงบอลหลบกองหลังแต่ก็ไม่ผ่านเช่นก้น ส่วนทาง เชลซี ก็ทำเกมบุกไม่ลื่นไหลเหมือนเดิมและมักจะพลาดในจังหวะสุดท้าย

เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมเยือนเกือบทำประตูไล่ตามมาได้จากจังหวะที่เพื่อนเปิดบอลยาวมาให้ ปีเตอร์ เคราช์ อาศัยความสูงโหม่งบอลเช็ดให้ เดโฟ วิ่งมาเอาเท้าแหย่บอลแต่ยังไม่ตรงกรอบประตู ปอมปีย์ยังคงกดดันเจ้าถิ่นต่อไปแต่ก็ทำประตูไม่ได้ทำให้กลายเป็น สิงห์บลู ที่ทำประตูหนีห่างออกไปอีกก่อนหมดเวลา 4 นาที จากการยิงไกลระยะ 35 หลาของ เดโก ทำให้ เชลซี นำ 4-0 หลังจากนั้นทั้งสองทีมก็ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้อีกทำให้จบเกม เชลซี เอาชนะไป 4-0 เก็บสามแต้มแรกพร้อมขึ้นนำเป็นจ่าฝูงก่อน

ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ที่ลงเตะเวลา 21.00 น. ผลปรากฎว่า แอสตัน วิลลา ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 โดย สิงห์ผงาด ได้ประตูจาก ยอห์น คาริว นาที 47 และการทำแฮตทริกของ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ในนาที 68,74 แล 76 ขณะที่ เรือใบสีฟ้า ได้ประตูจาก เอลาโน นาที 64 จากการยิงลูกจุดโทษและอีกประตูช่วงท้ายเกมนาที 89 จาก เวดรัน คอร์ลูกา ส่งผลให้ แอสตัน วิลลา คว้าสามแต้มสำคัญในเกมนัดแรกของฤดูกาล
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี :
ปีเตอร์ เชก, ริคาร์โด คาร์วัลโญ, แอชลีย์ โคล, โฮเซ โบซิงวา, จอห์น เทอร์รี, แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น โอบี มิเกล, มิชาเอล บัลลัค, เดโก, โจ โคล, นิโคลาส์ อเนลกา
ปอร์ทสมัธ : เดวิด เจมส์, โซล แคมป์เบลล์, เฮอร์มันน์ ไฮร์ดาร์สสัน, เกลน จอห์นสัน, ยูเนส กาบูล, ซิลแวง ดิสแตง, ลาสซานา ดิยารา, ปาปา บูบา ดิยอฟ, นิโก ครันชาร์, ปีเตอร์ เคราช์, เจอร์เมน เดโฟ
กำลังโหลดความคิดเห็น