"แฮร์ริงตัน" พัตต์แม่นช่วงท้ายคว้าแชมป์พีจีเอฯ

พาเดร็ก แฮร์ริงตัน ก้านเหล็กชาวไอริช โชว์การพัตต์อันแม่นยำใน 3 หลุมสุดท้าย เข้าป้ายคว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิป ไปครองอย่างยิ่งใหญ่ โดยนับเป็นการซิวแชมป์เมเจอร์ 2 รายการติดต่อกันต่อจาก ดิ โอเพ่น ที่ทำได้เมื่อเดือนก่อน

กอล์ฟเมเจอร์รายการสุดท้ายของฤดูกาล “พีจีเอ แชมเปียนชิป” ครั้งที่ 90 แข่งขันกันที่สนามโอคแลนด์ ฮิลส์ คันทรี คลับ เมืองบลูมฟิลด์ ทาวน์ชิป รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา พาร์ 70 ระยะ 7,395 หลา ชิงเงินรางวัล 7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 231 ล้านบาท) เข้าสู่การเล่นรอบสุดท้าย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา

การแข่งขันมาสนุกตื่นเต้นในช่วงท้าย เมื่อพัตเตอร์ของ พาเดร็ก แฮร์ริงตัน โปรชาวไอริชทำงานอย่างต่อเนื่องใน 3 หลุมสุดท้าย โดยหลุม 16 เซฟพาร์จากระยะ 12 ฟุต ทำให้สกอร์ขึ้นมานำร่วมกับ เซอร์คิโอ การ์เซีย ก้านเหล็กจากสเปน และ เบน เคอร์ติส สวิงเจ้าถิ่น ก่อนจะแซงนำจ่าฝูงเพียงผู้เดียวในหลุม 17 ที่ 3 อันเดอร์พาร์ หลังยิงเบอร์ดี้ในระยะ 8 ฟุต

กระทั่งหลุมสุดท้าย เจ้าของแชมป์ดิ โอเพ่น 2007 และ 2008 โชว์ความแม่นยำด้วยการพัตต์ระยะ 18 ฟุตลงไปอย่างหมดจด ปิดฉากด้วยการเซฟพาร์ ส่งผลให้ก้านหล็กจากเมืองดับลิน วัย 36 ปี คว้าแชมป์ไปครองในที่สุดด้วยสกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ เอาชนะ การ์เซีย ที่ออกโบกี้ในหลุม 18 และ เคอร์ติส ไป 2 สโตรก

ชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ แฮร์ริงตัน เป็นนักกอล์ฟจากยุโรปคนแรกในรอบ 78 ปีที่คว้าแชมป์พีจีเอ แชมเปียนชิป พร้อมทั้งเป็นโปรรายที่ 4 ต่อจาก วอลเตอร์ ฮาเกน, นิค ไพรซ์ และ ไทเกอร์ วูดส์ ที่ได้แชมป์เมเจอร์สองรายการสุดท้ายของปีติดต่อกันภายในปีเดียวกัน นอกจากนั้นยังเป็นแชมป์เมเจอร์หนที่ 3 ในชีวิตอีกด้วย

ด้าน ประหยัด มากแสง สวิงจอมเก๋าชาวไทย ฟอร์มหลุดในรอบสุดท้ายไปพอสมควร ตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ สกอร์รวม 4 วันจบที่ 7 โอเวอร์พาร์ ทว่ายังจบด้วยอันดับค่อนข้างน่าพอใจที่ 15 ร่วม เทียบเท่ากับโปรชั้นนำอย่าง พอล เคซีย์, สจ๊วร์ต อัพเพิลบี, แกรม แม็คดาวล์ และ เดวิด ทอมส์