คอลัมน์ "ผจญภัยแดนมังกร" โดย "ภู่ หว่า เฮง"
ความฝันที่เราชาวไทยจะได้เห็น “ทีวีกีฬา” ไม่รู้พับแผนเก็บไปหรือยัง หลังจากมีรัฐมนตรีบางท่านปิ๊งไอเดียขึ้นมาแต่มิทราบได้ว่าถักทอความหวังของคอกีฬาบ้านเราไปแล้วมากน้อยแค่ไหน
เมื่อวานที่ผ่านมา “ภู่ หว่า เฮง” จำเป็นต้องประจำการอยู่ในที่พำนักเพื่อรับข่าวด่วนจาก “เจ๊โอ๋” ที่ตะลุยตามสนามต่างๆ ในกีฬาโอลิมปิก เพื่อคาบข่าวเชิงลึกมาฝากแฟนๆ MGR Sport ให้ฉับไวตามบรรทัดฐานที่เราวางเอาไว้ จึงได้แต่นั่งตาละห้อยเห็น “เฮียยุทธ” เดินควง “น้องตุ้ม” ดูโอหน้าจีนไปสำรวจ “ตลาดรัสเซีย” แหล่งช็อปปิ้งขั้นนำของจีน
ตื่นมาในช่วงสาย ต้องโทษฟ้าที่มืดครึ้มคลุมทั่วกรุงปักกิ่งมาได้สักวันสองวันแล้ว จนผมคิดว่ายังไม่เช้า เมื่อสะดุ้งขึ้นจากเตียง สิ่งแรกที่ต้องทำสำหรับนักข่าวที่มาเกาะกระแสโอลิมปิกคือ การเปิดโทรทัศน์เพื่อเช็คข่าวสารตามช่องต่างๆ ถึงแม้ร้อยกว่าช่องไม่สามารถทำความเข้าใจกับมันได้ เนื่องจากเป็นภาษาจีนล้วนๆ แต่ยังดีที่เรามี CCTV 9 ช่องภาษาอังกฤษหนึ่งเดียวที่ทำให้ผมพอเข้าใจได้บ้างว่าเนื้อหาสาระของข่าวนั้นมีอะไรในกอไผ่
นับตั้งแต่ใกล้วันเปิดฉาก “ปักกิ่งเกมส์” กระแสตามช่องต่างๆ ของ CCTV เข้าสู่ Theme กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ข่าวสารความเคลื่อนไหวไม่ว่าทั้งในและนอกสนามเป็นเช่นไร เราสามารถเช็คได้จากช่องทางนี้ นอกเหนือจากการเปิดอินเตอร์เน็ต ดังนั้นเมื่อมีคิวปักหลักทำงานในที่พัก ผมจึงมีเวลาเสพสื่อกีฬาผ่านช่อง CCTV อย่างจุใจ
เริ่มตั้งแต่การดูกระโดดน้ำ ได้เห็นฝีไม้ลายมือของ กัว จิงจิง สาวหน้าหยกที่ควงคู่ หวู มิ่นเซีย คว้าเหรียญทองในการแข่งขันสปริงบอร์ด กดไล่เรียงไปยัง CCTV 1, 2 และ 5 ก็ได้พบกับการถ่ายสดโอลิมปิกเกมส์ ในหลากหลายชนิดกีฬา อีกทั้งยังมีการตัดเข้าสู่ข่าวทำนองเบรกกิ้งนิวส์ และสรุปข่าวประจำชั่วโมง ทำให้ต้องนึกย้อนสมัยอยู่เมืองไทยว่าเราเคยได้ดูกีฬาทัวร์นาเมนต์สำคัญใดๆ แบบเต็มอิ่มขนาดนี้หรือไม่
การมีถึงสามช่องสำหรับเผยแพร่โอลิมปิก ทำให้ชาวต่างชาติมีโอกาสได้ติดตามผลงานของนักกีฬาชาติตัวเองเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เปิดมาวันๆ หนึ่งเห็นแต่อาตี๋-อาหมวย ลงไล่ล่าเหรียญรางวัล เมื่อเป็นเช่นนั้นผมจึงได้ร่วมเชียร์ ประภาวดี เจริญรัตนธารากูล แข่งยกน้ำหนักในรุ่น 53 กิโลกรัม ไปพร้อมกับแฟนๆ ชาวไทย แม้ไม่มีจอมพลังสาวจากจีนลงชิงชัยด้วยก็ตาม
ผลการแข่งขันออกมาอย่างที่ทราบกัน “น้องเก๋” ประภาวดี อาศัยเคล็ดลับความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น คว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ หลังจากเมื่อสี่ปีก่อนเธอพลาดโอกาสไปโชว์ศักยภาพใน “เอเธนส์เกมส์” นี่ถือเป็นเหรียญประเดิมเอาฤกษ์เอาชัยของไทย ซึ่งเราก็หวังว่าทัพนักกีฬาแดนสยามจะสวมหัวใจสิงห์ผนวกสปิริตนักกีฬานำพาเหรียญรางวัลอื่นๆ มาสู่มาตุภูมิมากขึ้นเรื่อยๆ
จบจากยกน้ำหนัก กดรีโมตเปลี่ยนไปมาจนไปมีโอกาสได้เห็นการแข่งขันเป้าบิน อืม…ก็สนุกไปอีกแบบ ผมค่อนข้างทึ่งกับนักกีฬาประเภทนี้ แค่เป้าวางอยู่เฉยๆ เรายังยิงโดนมั้งไม่โดนมั้ง แต่นี่เป้าบินออกมาอย่างไม่รู้ทิศทาง คุณพี่ ดาวิด คอสเทเลคกี ยังอุตสาห์ซิวเหรียญทองที่สองให้กับ สาธารณรัฐเช็ก จากที่ก่อนหน้านี้ คาเทรินา เอ็มมอนส์ นั่งแม่นปืนสาวเพิ่งคว้าเหรียญทองแรกใน “ปักกิ่งเกมส์” ไปเมื่อเสาร์ที่ผ่านมา
ตกเย็นมีโอกาสเอาใจช่วยฟุตบอลชายทีมชาติจีนเพราะไม่อยากให้งานกร่อยเจ้าภาพตกตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม แต่แรงใจจากบ้านพี่เมืองน้องไม่สามารถช่วยให้ขุนพลแข้ง “มังกร” ที่เหลือผู้เล่นแค่ 9 คนรอดพ้นเงื้อมือ “ปิศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม พ่ายไป 0-2 ทำให้ จีน คงหมดโอกาสเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว จากการมีเพียงหนึ่งแต้มแถมนัดสุดท้ายต้องชน “แซมบ้า” บราซิล ที่เพิ่งยำใหญ่ นิวซีแลนด์ 5 เม็ด
โปรแกรมสุดท้ายก่อนเข้านอนของผมคือ “บิ๊กแมตช์” สหรัฐอเมริกา ยัดห่วง จีน ซึ่งก่อนเกมยัดห่วงที่หลายคนรอคอยจะเริ่มขึ้นประมาณ 15 นาที (22.15 น. ตามวัน-เวลาท้องถิ่น) ทางช่อง CCTV 2 ทำเป็นลักษณะรายงานสถานการณ์สดๆ ก่อนแข่งมาจากสนาม ทั้งยังนำลีลาเจ๋งๆ ของ อี้ เจียนเหลียน มือขวาของ เหยา หมิง มาเรียกน้ำย่อย ก่อนกระตุกต่อมฮึกเฮิมของแฟนๆ ด้วยการขุดช็อตเด็ด Top 10 ของทีมยัดห่วงชายจีนในโอลิมปิกมาให้ดูกัน
ทว่านั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ จีน รอดพ้นจากความปราชัยต่อ “ดรีมทีม” ไปอย่างยับเยิน 70-101 คะแนน นี่เป็นการส่งสัญญาณเตือนว่านอกจาก อี้ เจียนเหลียน ผู้เล่นคนอื่นๆ ต้อง Support “อาเหยา” ให้มากกว่านี้ เนื่องจากวิเคราะห์ดูแล้วหากเล่นกันได้แค่นี้ จีน ดีพอที่จะข่มเอาชนะ แองโกลา ในบ้านตนเอง แต่นั่นอาจไม่เพียงพอสำหรับการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายตามเป้า ในเมื่อทั้ง “แชมป์โลก” สเปน, เยอรมนี หรือว่า กรีซ ไม่มีอะไรที่เป็นรอง จีน เลยนอกจากเสียงเชียร์ ปัจจัยที่หาใช่สร้างความได้เปรียบได้อย่างเห็นผลเสมอไป
