อนาคต "คิมี่" จุดเปลี่ยนม้าลำพอง

นับจากมิชาเอล ชูมัคเกอร์ นักขับตำนานแห่งค่ายเฟอร์รารีประกาศอำลาวงการหลังจบปี 2006 ในฤดูกาลถัดมาทีมแข่งจากอิตาลีก็มีคิมี ไรค์โคเนน ยอดนักขับชาวฟินน์แลนด์ ก้าวขึ้นมาสานต่อความสำเร็จ ด้วยการคว้าตำแหน่งแชมป์โลกมาครองได้ในทันที แต่ของอนาคตของแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งปี 2007 ทำท่าว่าจะปิดฉากลงด้วยรวดอันรวดเร็ว หลังเจ้าตัวเตรียมประกาศแขวนพวงมาลัยหลังจบปี 2009

"ดิไอซ์แมน" กลายเป็นความหวังใหม่ของทีมม้าลำพอง ในการสร้างตำนานนับขับคนใหม่ต่อจากอดีตแชมป์เอฟวัน 7 สมัยชาวเยอรมัน หลังจากซิวแชมป์โลกมาครองด้วยการมีคะแนนเหนือลูอิส แฮมิลตัน ยอดรุคกีจากแม็คลาเรน เพียง 1 แต้มในสนามสุดท้ายของปี 2007 และประกาศก่อนออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ว่า ขอคว้าแชมป์โลกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันให้จงได้

แต่จากความเร็วอันถดถอยรวมถึงฟอร์มการขับที่ตกลงไปอย่างเหลือเชื่อของคิมีในฤดูกาลนี้ ทำให้ก่อนศึกเอฟวันสนามที่ 11 จะเริ่มขึ้นนักซิ่งฟินน์ มีคะแนนตามหลังลูอิส แฮมิลตัน อยู่ 7 แต้ม รั้งในอันดับที่ 3 ของตารางสะสมประเภทนักขับ ตามหลังแม้กระทั้งเฟลิเป มาสซา เพื่อนร่วมทีม จนทำให้ "ทีมบอส" อย่างสเตฟาโน โดเมนิคาลี ถึงกับออกมายอมรับว่าฟอร์มของ ไรค์โคเนนเวลานี้ ไม่ใช่ฟอร์มของแชมป์โลกแต่อย่างใด

"เขาบอกกับผมว่ารถไม่มีความสมดุลอย่างที่เขาต้องการ ซึ่งหากดูจากการทดสอบรถของเราที่ผ่านมา เรามีรถที่เฟอร์เฟกมากกว่าทุกๆทีม ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา" โดเมนิคาลีเผยแบบสุดงง

หลังจากคิมี่คว้าชัยในการแข่งขันสนามที่ 4 ในศึกสแปนิช กรังด์ปรีซ์ ที่คาตาลุนญา ได้ในช่วงปลายเดือนเมษายน นักซิ่งฟินน์มีคะแนนทะยานขึ้นนำในตารางแชมเปียนชิปประเภทนักขับ เหนือทั้งเพื่อนร่วมทีมอย่างมาสซา และ แฮมิลตัน ของแม็คลาเรน จนมีข่าวลือสะพัดว่าเจ้าตัวกำลังอิ่มตัวกับการขับเอฟวัน และเตรียมที่จะประกาศอำลาวงการทันที หากสามารถคว้าแชมป์โลกมาครองได้อีกสมัย หลังจบฤดูกาลนี้

ซึ่งจากชัยชนะครั้งสุดท้ายที่สเปน อีก 6 สนามถัดมาอดีตนักขับแม็คลาเรนรก็ไม่สามารถเค้นฟอร์มสุดยอดออกมาได้อีกเลย มิหนำซ้ำยังทำคะแนนออกห่างการป้องกันแชมป์โลกเข้าไปทุกที ซึ่งแม้เจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธการอำลาวงการหลังจบฤดูกาลนี้ แต่กระนั้นก็ไม่ยืนยันว่าหลังหมดสัญญากับทีม"ม้าลำพอง"ในปี 2009 ตนเองจะยังคงโลดแล่นอยู่หลังพวงมาลัยรถเอฟวันต่อไปหรือไม่

"นี่ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะต้องรีบร้อนตัดสินใจ ผมยังเหลือสัญญากับทีมอีกปี(จนจบปี 2009) ซึ่งหวังจะอยู่ให้ครบสัญญา ส่วนปี 2010 จะเกิดอะไรขึ้นกับผม เราต้องรอดูกันต่อไป มันไม่ง่ายที่จะตัดสินใจ จริงๆแล้วผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ผมจะตัดสินใจเองเมื่อพร้อม และทีมเองก็ไม่ได้กดดันผมในเรื่องนี้ด้วย" นักขับทีมสคูเดเรีย เฟอร์รารียืนยัน

ก่อนการแข่งขันรายการฮังกาเรียน กรังด์ปรีซ์ (เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม) จะเริ่มขึ้น คิมีออกมายอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่ตนเองจะเบนเข็มไปสู่การแข่งขัน แรลลี ชิงแชมป์โลก หลังหมดสัญญากับต้นสังกัดในปี 2009

"บางช่วงเวลาผมก็คิดถึงการขับแข่งแรลลีเหมือนกัน มันเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจมากๆ คุณต้องใช้ความพยายามในการบังคบรถบนเส้นทางที่ยากจะคาดเดา ทั้งลุยป่า ขึ้นเขา และลุยน้ำแข็ง เป็นสิ่งที่พูดยากเหมือนกันว่านี่จะเป็นงานใหม่ของผมหรือไม่ แต่สำหรับผมแล้วผมคิดว่ามันเป็นการแข่งขันที่ท้าทายเอามากๆ" ดิไอซ์แมนเปรยถึงอนาคต

นอกจากเรื่องของผลงานที่ไม่สู้ดีในบนแทร็กแล้วนักขับเลือดร้อน ยังถูกคุยคุ้ยพฤติกรรมส่วนตัวจากบรรดานักข่าวสายมอเตอร์สปอร์ต อยู่หลายต่อหลายครั้ง โดยในฤดูกาลนี้"ดิไอซ์แมน" มีเรื่องเปิดศึกกับนักข่าวมาแล้ว เริ่มจากออกอาการฉุนขาด เมื่อถูกผู้สื่อข่าวชาวออสเตรเลีย ถามถึงเรื่องการมีภาพพจน์ที่เป็นนักดื่มตัวยง หลังมีรายงานว่านักซิ่งฟินน์ไปแอบฉลองกับเพื่อนก่อนที่การแข่งขันรอบฝึกซ้อมศึกออสเตรเลีย กรังด์ปรีซ์จะเริ่มต้นเพียง 1 วัน

ขณะที่ก่อนการแข่งขันเอฟวันสนามที่ 9 ที่ซิลเวอร์สโตน จะเริ่มขึ้น ไรค์โคเนน ก็ระเบิดอารมณ์ใส่ช่างภาพชาวฝรั่งเศส ด้วยการผลัก ปอล-อองรี คาเยห์ ช่างภาพชื่อดังล้มลงไปกองกับพื้น จนถูกสถานีโทรทัศน์ฟินแลนด์ จับภาพไว้ได้

แม้ความหวังของแฟนๆทีม"ม้าลำพอง"ที่จะเห็น ไรค์โคเนน สร้างตำนานความสำเร็จเทียบเท่า มิชาเอล ชูมัคเกอร์ คงเกิดขึ้นยากเต็มที แต่อีก 7 สนามที่เหลือของปีนี้ เป็นที่น่าสนใจว่า คิมีจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าตนเองมีดีพอที่จะใช้รถหมายเลข 1 ในฤดูกาลหน้าต่อไปได้หรือไม่ หรือจะยินดีเปิดทางให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง มาสซา ขึ้นมาเป็นมือหนึ่งในการแย่งแชมป์โลกกับทีมแม็คลาเรนแทน