xs
xsm
sm
md
lg

ถูกปล้น ไม่เล่นต่อให้แพ้เอง / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

ผมติดตามชม โอลิมปิค เกมส์ ทางโทรทัศน์ครั้งแรกตั้งแต่ปี 1972 ซึ่งปีนั้นเมืองมิวนิค ของเยอรมนีตะวันตกได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาลากกรรมการผู้ตัดสินมาสาบานกันด้วยว่าจะทำหน้าที่ตัดสินอย่างยุติธรรม ไม่มีการลำเอียงเข้าข้างใครเป็นพิเศษ และครั้งนั้นคณะกรรมการโอลิมปิคสากลก็ยังยอมรับ “ วาลดี ” ( Waldi ) สุนัขพันธุ์ไส้กรอกเป็นสัญลักษณ์นำโชค ( Mascot ) อย่างเป็นทางการตัวแรกของโอลิมปิคด้วย

โอลิมปิค เกมส์ครั้งนั้นมีกีฬาหลายชนิดที่สร้างความฮือฮา ทำให้เรารู้จักสุดยอดนักกีฬาอย่าง มาร์ค สปิทซ์ ( Mark Spitz ) นักว่ายน้ำหนวดงามจากสหรัฐอเมริกาที่คว้า 7 เหรียญทองจาก โอลิมปิค เกมส์ หนเดียว ซึ่งเป็นสถิติที่ยังไม่มีใครทำลายได้จนทุกวันนี้ ในขณะที่นักว่ายน้ำคนอื่นๆพยายามตะเกียกตะกายโกนหนดโกนเครา รวมทั้งขนตามตัว หวังลดแรงเสียดทานให้น้อยที่สุด ลำตัวจะได้เพรียว ไหลลื่น แหวกว่ายในน้ำได้รวดเร็ว ปราดเปรียวเยี่ยงปลา แต่หมอนี่ดันไว้หนวดซะเฟิ้มและซิวเหรียญทองเป็นว่าเล่น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขามีเชื้อสายยิว หลังเกิดเหตุการณ์สังหารนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมอิสราเอลตายไป 11 คนโดยขบวนการกันยายนทมิฬ ( Black September ) เขาจึงต้องรีบเผ่นกลับสหรัฐฯก่อนที่จะมีพิธีปิดการแข่งขัน เพราะหลายคนเชื่อว่า มาร์ค จะเป็นเหยื่อรายต่อไป

สาวน้อยวัย 17 ปียอดนักยิมนาสติคจากสหภาพโซเวียต โอลกา คอร์บุท ( Olga Korbut ) เจ้าของฉายา “ แม่นกกระจอกแห่งมินสค์ ” ก็เป็นดาวเด่นอีกคนหนึ่งในปี 1972 เธอคว้าไป 3 เหรียญทองกับ 1 เหรียญเงิน โดยเป็นคนแรกที่ทำลังกาหลังบนคานทรงตัว และบาร์ต่างระดับ แถมท่าจบของคานทรงตัวก็ยังทำลังกาหลังลงมาอีกด้วย จนกีฬายิมนาสติคทำการจารึกเกียรติด้วยการใช้ชื่อของเธอเป็นชื่อท่าดังกล่าวว่า “ คอร์บุท ฟลิพ ”( Korbut Flip )

ในปีเดียวกันนี้เอง เกมการแข่งขันที่เป็นปัญหาโต้แย้งกันไม่จบสิ้นก็เกิดขึ้นด้วย นั่นคือ บาสเก็ตบอลนัดชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมสหรัฐฯ กับ ทีมสหภาพโซเวียต โดยการแข่งขันล่วงเลยมาถึงช่วงท้ายเกม เหลือเวลาอีกเพียง 3 วินาที โซเวียต มีคะแนนนำอยู่ 49-48 แต่ดันไปทำฟาล์ว สหรัฐฯได้ชู้ตลูกโทษ 2 ลูก ซึ่ง ดัก คอลลินส์ ( Doug Collins ) ก็ไม่ทำให้แฟนๆทางบ้านผิดหวัง สหรัฐฯแซงกลับมานำ 50-49 ระหว่างที่ชู้ตลูกโทษนั้น โค้ชโซเวียตได้พยายามขอเวลานอก แต่แล้วเกมก็ยังดำเนินต่อไป เพราะโซเวียตรีบส่งบอลเปิดเกมและชู้ตไม่ลง เมื่อเวลาบนสกอร์บอร์ดลดลงเหลือเพียง 1 วินาที กรรมการชาวบราซิวเพิ่งจะเป่านกหวีดหยุดเกมและให้เวลานอกแก่ทีมโซเวียต

เมื่อกลับมาเล่นกันใหม่ โดยต้องตั้งเวลาสกอร์บอร์ดให้เป็น 3 วินาที ซึ่งเป็นเวลาที่เหลือขณะที่โค้ชโซเวียตขอเวลานอก ปรากฏว่าผู้เล่นโซเวียตส่งบอลและพยายามชู้ต นี่เป็นโอกาสครั้งที่ 2 แล้วครับ ก็ยังไม่ลง เวลาผ่านไปน่าจะครบ 3 วินาทีแล้ว เสียงออดหมดเวลาดังขึ้น ทั้งผู้เล่นและโค้ชสหรัฐฯต่างก็เฮกันสุดตัวเพราะคว้าชัยได้อย่างหวุดหวิดทีเดียว

แต่เหมือนนรกมาเยือน เวรแท้ๆ ไอ้นาฬิกาบนสกอร์บอร์ดที่เมื่อสักครู่ควรจะตั้งใหม่ให้เป็น 3 วินาทีนั้น ดันขึ้นเวลาผิด เป็น 50 วินาที ทำให้ รีเนโท วิลเลียม โจนส์ ( Renato William Jones ) เลขาธิการสหพันธ์บาสเก็ตบอลสมัครเล่นนานาชาติ ( Federation Internationale de Basketball Amateur - FIBA) เข้ามาโวยกับกรรมการว่า ต้องให้เล่นไอ้ 3 วินาทีสุดท้ายนั้นใหม่ และตั้งเวลาบนสกอร์บอร์ดให้ถูกต้องด้วย ใครๆก็รู้ว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่ร่วมก่อตั้ง FIBA และยังเป็นแรงสำคัญที่ผลักดันให้กีฬาบาสเก็ตบอลได้รับการบรรจุเข้าในโอลิมปิค เกมส์ หมอนี่มีอิทธิพลมาก ไม่มีใครกล้าหือหรอก

หนที่ 3 ที่กลับมาเล่น 3 วินาทีสุดท้ายกันใหม่ คราวนี้โซเวียตเปิดบอลให้ อเล็กซานเดอร์ เบลอฟ ( Alexander Belov ) เลย์อัพใต้แป้นชู้ตบอลลงห่วง ทีมโซเวียตเก็บ 2 คะแนนจนได้ พลิกกลับมาเอาชนะทีมสหรัฐฯไปด้วยสกอร์ 51-50 เฉยเลย ผู้เล่นสหรัฐฯอกหักอย่างแรง เพราะนี่เป็นความพ่ายแพ้ถึงกับชวดเหรียญทองเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว นับตั้งแต่บาสเก็ตบอลเข้าสู่โอลิมปิค เกมส์ในปี 1936 ทุกคนลงความเห็นว่า ไอ้ 3 วินาทีเวรนี่ มันปล้นกันชัดๆ จึงไม่ยอมขึ้นรับเหรียญเงิน และทำเรื่องประท้วง ซึ่งก็ไร้ผล เพราะตอนนั้นมันยุคสงครามเย็น คณะกรรมการผู้ทำหน้าที่พิจารณาการประท้วงที่มาจาก 5 ชาตินั้น ปูเอร์โต ริโก ( Puerto Rico ) กับอิตาลี เข้าข้างสหรัฐฯ แต่สำหรับ ฮังการี โปแลนด์ และ กูบา ( Cuba ) ซึ่งอยู่ใต้ปีกของโซเวียตก็โหวตไปทางลูกพี่ของตน

เหรียญเงินที่ถูกปฏิเสธคราวนั้น ปัจจุบันนี้ก็ยังถูกเก็บไว้ที่เมืองโลซาน สวิตเซอร์แลนด์ แม้ว่าหลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 30 ปี IOC เคยขอให้ผู้เล่นในทีมสหรัฐฯรับเหรียญดังกล่าว แต่ทุกคนก็ยังยืนยันเช่นเดิม ที่ร้ายหนักก็คือ เคนนี เดวิส ( Kenny Davis ) กัปตันทีมชุดนั้น ถึงกับเขียนพินัยกรรมเอาไว้เลยว่า ถ้าเขาตายไป ยังไงก็ห้ามลูกเมียรับเหรียญเงินแทนตัวเขาเด็ดขาด

ตั้งแต่ปี 1936 ทีมบาสเก็ตบอลสหรัฐฯได้เหรียญทอง โอลิมปิค เกมส์ มาตลอด ยกเว้นเพียง 4 หน ต่างปีต่างเหตุผลกันเลยครับ คือปี 1972 สหรัฐฯเขาถือว่าถูกปล้น พอถึงปี 1980 สหรัฐฯบอยคอตโอลิมปิค เกมส์ เพราะโซเวียตประเทศเจ้าภาพบุกอัฟกานิสถานในปีก่อนหน้านั้น ในปี 1988 สหรัฐฯวืดแชมป์อีก ได้แค่เหรียญบรอนซ์ แต่ก็ต้องถือว่า ต่อให้ เพราะทีมสหรัฐฯไม่สามารถใช้ผู้เล่นที่ดีที่สุดได้ เพราะต่างก็เล่นอาชีพใน NBA จนกลายมาเป็นจุดเปลี่ยน โดย IOC ยอมเปลี่ยนแปลงกฎให้ใช้ผู้เล่นอาชีพได้ เป็นผลให้เกิด “ ดรีมทีม ” ขึ้นในปี 1992 แต่โอลิมปิค เกมส์หนล่าสุดในปี 2004 นั้น แม้มีดารา NBA คับคั่ง ทีมสหรัฐฯก็ไปพลาดท่าพ่ายทีมอาร์เกนตินา แชมป์ปีนั้นเองในรอบรองชนะเลิศ อันนี้โทษใครไม่ได้ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น