แข้งไทยทำใจไร้อนาคตกับ “เรือใบ”

3 แข้งไทยที่ไปร่วมทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ยังคงไร้อนาคตกับต้นสังกัดต่อไป ยอมรับยังไม่รู้จะถูกส่งไปค้าแข้งที่ไหน

หลังจากเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550 ทีม “เรือใบสีฟ้า” ที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทยเป็นเจ้าของ ได้ทำการเซ็นสัญญาซื้อตัว 3 นักเตะทีมชาติไทยไปร่วมทีมด้วยสัญญา 3 ปี ประกอบด้วย “คาร์” เกียรติประวุฒิ สายแวว, “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา และ “เปรม” สุรีย์ สุขะ

ทว่า ด้วยปัญหาเรื่องใบอนุญาตทำงานในเมืองผู้ดี จึงทำให้ทาง แมนฯซิตี ตัดสินใจส่ง 3 แข้งจากแดนสยาม ไปให้กับพันธมิตรลูกหนังยืมตัว โดย เกียรติประวุฒิ ถูกจับไปเล่นให้ คลับ บรูซ ในประเทศเบลเยียม ส่วน ธีรศิลป์ กับ สุรีย์ ปล่อยให้สโมสร กราสฮอปเปอร์ ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ยืมตัวจนกระทั่งจบฤดูกาล

ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา นักเตะไทยสังกัดทีม “เรือใบสีฟ้า” ทั้ง 3 รายได้เดินทางไปร่วมงานแถลงข่าวโครงการ “คู่หู ดูบอลอังกฤษ” กับทีมแมนฯ ซิตี ที่ร้านขายของที่ระลึกทีม “เรือใบ” ภายในตึกชินวัตร 3 โดยได้พูดถึงอนาคตของตัวเองหลังหมดสัญญายืมตัว ว่ากำลังรอคำตอบจากผู้ใหญ่ในสมาคมฟุตบอลฯ และทีมเรือใบสีฟ้า ว่าจะส่งพวกเขาไปเล่นที่ไหนต่อไป

โดย “เจ้าคาร์” อดีตปราการหลังทีม “ฉลามชล” ชลบุรี กล่าวว่า “แม้จะมีอุปสรรคบ้างในเรื่องภาษา เนื่องจากที่เบลเยียมไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ พวกเขาพูดภาษาดัตช์ อีกทั้งตัวเองยังต้องอยู่คนเดียวอีกต่างหาก 2 คนนั้นได้อยู่ด้วยกันยังมีเพื่อน แต่ตอนนี้ก็กำลังเร่งเข้าคอร์สเรียนภาษาเพิ่มเติมอยู่ เช่นเดียวกับเรื่องความฟิตที่แม้จะไม่ได้ซ้อมแต่ก็พยายามเข้าฟิตเนสอยู่ตลอด หากผู้ใหญ่เรียกให้ไปเล่นที่ไหนเมื่อไหร่ เราก็จะได้พร้อมไปได้ทันที”

ขณะที่ แบ็กขวาจอมบุกทีมชาติไทย ก็ให้เหตุผลถึงการที่ฟอร์มการเล่นในทีมชาติตกลงไปว่าคงไม่เกี่ยวกับการไปเล่นอยู่ในยุโรป “สาเหตุที่ช่วงหลังฟอร์มการเล่นในทีมชาติตกลงไป น่าจะมาจากเรื่องของสภาพจิตใจ พอเราเล่นไม่ดี บางครั้งก็เสียความมั่นใจไปเอง ส่วนอนาคตของตนเองนั้นถึงตอนนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ใหญ่กำลังติดต่อกับสโมสรใดอยู่บ้าง”

ด้าน ธีรศิลป์ อดีตศูนย์หน้าทีมเมืองทอง หนองจอก กล่าวว่า “คงต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ว่าจะติดต่อให้ไปเล่นที่ไหน ส่วนตัวไม่มีปัญหา เนื่องจากการไปเล่นในลีกยุโรปถือเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้อยู่แล้ว แม้จะเป็นเพียงแค่ทีมสำรองก็ตาม นักเตะไทยหลายคนอยากไปอย่างเราแต่ไม่มีโอกาส”

ทั้งนี้ คาดว่า ภายใน 1-2 เดือนนี้ นักเตะทั้ง 3 คนน่าจะทราบว่าในฤดูกาลหน้าจะถูกส่งตัวไปเล่นที่ประเทศใด ส่วนตอนนี้กลับมาที่เมืองไทย เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดฤดูกาลของฟุตบอลยุโรป โดยแต่ละคนจะแยกย้ายกันไปซ้อมกับต้นสังกัดเดิมของตนเอง ตลอดจนจ้างเทรนเนอร์มาดูแลในส่วนของการเข้าฟิตเนส เพื่อรักษาสภาพความฟิต รวมทั้งเข้าคอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วย