“เสี่ยแม้ว” พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสร แมนฯ ซิตี ออกมาเผยว่ารู้สึกพอใจผลงานของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีมชาวสวีดิช หลังก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าเจ้าของทีมชาวไทยพร้อมปลดกุนซือรายนี้ออกจากตำแหน่ง
เมื่อเวลา 10.30 น.ของวันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม 2551 ที่อาคารชินวัตร 3 ถนนวิภาวดี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี มาเป็นประธานเปิด “แมนฯ ซิตี สโตร์” แห่งแรกของเมืองไทย
โดยมี สเวน โกรัน อีริคส์สัน ผู้จัดการทีมชาวสวีเดน นำทัพเหล่านักเตะของทีม อาทิ ดีทมาร์ ฮามันน์, ซุน จี ไห่, โจวานนี, มาร์ติน เปตอฟ, ดาร์ริอุส วาสเซลล์ รวมทั้งยังมี 2 นักเตะไทย คือ “คาร์” เกียรติประวุฒิ สายแวว และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา มาร่วมงานด้วย ขาดเพียง “เปรม” สุรีย์ สุขะ ที่มีรายงานว่าติดภาระกิจไม่สามารถมาร่วมงานได้
ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประธานสโมสร “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ขึ้นกล่าวเปิดใจถึงสาเหตุการเป็น “แมนฯ ซิตี สโตร์” ว่า “ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะเปิดชอปในเมืองไทย เพราะทราบดีว่าสินค้าลิขสิทธิ์นั้นมีราคาแพง แต่ทว่าแฟนฟุตบอลก็ได้รบเร้าว่าอยากให้มีร้านขายของที่ระลึกของสโมสร จึงได้บอกกับ ลูกชาย และลูกสาว ที่เป็นบอร์ดบริหารของทีมให้หาทำเล และนำของมาจำหน่ายให้กับแฟนฟุตบอลชาวไทย”
นอกจากนี้ “เสี่ยแม้ว” ยังได้กล่าวต่อไปถึงผลงานของ สเวน โกรัน อีริคส์สัน ต่อสโมสรด้วยว่า “ก่อนหน้าที่จะซื้อทีม แมนฯ ซิตี ก็เกือบจะซื้อสโมสรหนึ่งในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว แต่ตอนนั้นผมยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และติดขัดบางอย่าง พอช่วงที่ต้องไปอยู่อังกฤษก็มีหลายทีมมาเสนอขาย ซึ่งมองว่า แมนฯ ซิตี เป็นทีมที่น่าสนใจลงทุน ถือเป็นยักษ์หลับในวงการฟุตบอลอังกฤษ เนื่องจากในเมืองแมนเชสเตอร์ ถือว่ามีแฟนฟุตบอลมากกว่าแมนฯ ยูไนเต็ดเสียอีก นอกจากนี้ ยังมีสัญญาเช่าสนามเหย้าไปอีกถึง 250 ปี ซึ่งถือว่ามีความมั่นคงมาก สุดท้ายก็ได้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน มาร่วมงานในฐานะผู้จัดการทีม ผมยอมรับเลยว่าเขาทำผลงานได้เป็นอย่างดี พาทีมเลื่อนจากอันดับที่ 14 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว มาจบที่อันดับ 9 ในฤดูกาลนี้ โดยเราต้องการประสบความสำเร็จในฤดูกาลหน้า ผมคิดว่าเราคงต้องหาผู้เล่นมาเสริมทีมเพิ่มขึ้นไปอีก”
ขณะเดียวกัน ประธานสโมสรแมนฯ ซิตี ได้กล่าวต่อไปว่า “ตอนนี้ผมได้ร่วมงานกับ แกรี คุก ที่เขามาทำงานในตำแหน่งประธานฝ่ายบริหารของทีม ซึ่งเชื่อว่าเขาจะนำพาทีมขึ้นสู่การเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลก เนื่องจากคนคนนี้เคยสร้างแบรนด์ของ ไมเคิล จอร์แดน ให้ติดตลาดมาแล้ว”
“ผมมีความหวังว่าสักวันหนึ่งทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี จะกลายเป็นสโมสรระดับโลก เราต้องการขยายฐานแฟนฟุตบอลออกไปทั่วโลก แต่ตอนนี้ต้องเน้นเป้าหมายมาที่ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะที่ จีน, ญี่ปุ่น และ อินเดีย เป็นลำดับแรก”
