ศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2008 โม่แข้งกันอย่างดุเดือดจนผ่านมาถึงรอบรองชนะเลิศอย่างรวดเร็ว ซึ่งบรรดานักเตะต่างก็สำแดงฝีเท้าให้แฟนบอลได้ประจักษ์กันไปไม่น้อย ที่น่าสนใจอีกประการสำหรับทัวร์นาเม้นท์ใหญ่ขนาดนี้ย่อมมีดาวเด่นแจ้งเกิด และ ดาวดับที่อาจโดนปรับลดค่าตัว ส่วนจะมีใครบ้างนั้นติดตามได้ในบรรทัดต่อจากนี้
- ดาวเด่น
ลูคัส โพดอลสกี้ (เยอรมนี)
ไม่มีใครคิดว่า “โพลดี้” ซึ่งเข้าๆ ออกๆ จาก 11 คนแรกใน บาเยิร์น มิวนิค จะกลายเป็นคีย์แมนที่อินทรีเหล็กขาดไม่ได้ ทว่าเขาอาจเกิดมาเพื่อรายการใหญ่โดยเฉพาะ ซึ่งในฟุตบอลโลก 2006 ก็ฉายแววเด่นจนซิวรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม มาครั้งนี้ก็จัดการกดไป 3 เม็ดในรอบแรก ก่อนถวายพานให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เบิกร่องในเกมบี้ โปรตุเกส แบบเร้าใจ 3-2 ลิ่วรอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ความเร็ว, ความทุ่มเท, การหาจังหวะทำประตู และการสับไกอันคมกริบของเขาถือเป็นทีเด็ดที่ เยอรมนี จำเป็นต้องพึ่งพาในการเบิกทางสู่ตำแหน่งแชมป์
ดาวิด บีญ่า (สเปน)
ขโมยซีนจาก เฟอร์นานโด ตอร์เรส คู่หูในแดนหน้าที่ถูกเก็งไว้ว่าจะเปล่งรัศมีดาวยิงก่อนเริ่มรายการไปจนหมด ซึ่งเพียงแค่นัดแรก บีญ่า ก็รัวสนั่นซัดแฮตทริกใส่ รัสเซีย แล้ว ตามมาด้วยการฉกบอลเข้าไปปิดบัญชีอย่างเยือกเย็นช่วยให้กระทิงดุเฉือน สวีเดน ในช่วงทดเจ็บ และยังสังหารจุดโทษเปิดหัวให้ สเปน บด อิตาลี ในช่วงดวลเป้าตัดสินพาทีมเข้ารอบตัดเชือกอีกด้วย บางทีเขาอาจเป็นดาวซัลโวของศึกยูโรที่ลงเอยด้วยตำแหน่งแชมป์เป็นคนแรกต่อจาก มาร์โก แวน บาสเท่น ที่เคยทำได้กับ ฮอลแลนด์ เมื่อปี 1988 ก็เป็นได้
อังเดร อาร์ชาวิน (รัสเซีย)
หลังถูก สเปน ทะลวงยับมาในแมตช์ประเดิมสนาม เหล่าเกจิพากันออกมาฟันธงว่าหมีขาวคงจอดป้ายเพียงรอบแรกเท่านั้น แต่การพ้นโทษแบนของจอมทัพร่างเล็กในนัดทุบ สวีเดน 2-0 เหมือนเป็นอัศวินขี่ม้าขาวที่ชุบชีวิตให้ รัสเซีย พลิกชะตาเข้ารอบควอเตอร์ไฟนัลมาได้สำเร็จ และในเกมโค่น ฮอลแลนด์ 3-1 อาร์ชาวิน ก็ร่ายลีลาเป็นพระเอกอีกครั้งโดยระเบิดฟอร์มทั้งยิงทั้งจ่าย และยังป่วนแนวรับกังหันลมจนหัวปั่นไปหมดด้วยพลังขับเคลื่อนที่มีอยู่เหลือเฟือ
- ดาวดับ
ปีเตอร์ เช็ก (สาธารณรัฐเช็ก)
พกพาดีกรีนายทวารระดับโลกติดตัวมาร่วมทัวร์นาเม้นท์ซึ่งใน 2 เกมแรกก็ยังคงทำหน้าที่ป้องกันประตูได้อย่างเหนียวแน่นตามมาตรฐาน และมีสถิติเซฟในรอบแรกสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ที่ 18 ครั้ง แต่ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงในจังหวะออกมาตัดลูกโด่งหลุดมือจนถูก นิฮัต คาห์เวชี่ ยิงตีเสมอให้ ตุรกี แบบส้มหล่นก่อนโดนแซง 3-2 ทั้งที่ขึ้นนำก่อนถึง 2 ลูก ส่งผลให้ทีมต้องกลับบ้านชนิดน้ำตาตกใน และบั่นทอนเครดิตของ เช็ก ไปไม่น้อยเลย
มาริโอ โกเมซ (เยอรมนี)
ถูกคาดหมายว่า ยูโร 2008 จะเป็นเวทีอวดฝีเท้าของศูนย์หน้าผู้มีเชื้อสายสแปนิช เจ้าของตำแหน่งรองดาวซัลโวบุนเดสลีกา 19 ประตูรายนี้ แต่เอาเข้าจริง โกเมซ กลับสอบตกโดยสิ้นเชิง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังใส่สกอร์ไม่ได้เลย แม้อินทรีเหล็กจะทะยานเข้าถึงรอบตัดเชือกได้ก็ตาม โดยชอตที่ตอกย้ำความล้มเหลวคือจังหวะที่ได้ยิงโล่งๆ ชนิดไร้คนคุมในเกมเฉือน ออสเตรีย 1-0 แต่เขากลับแปไม่ดี บอลทะลักผ่านหน้าประตูแบบเหลือเชื่อ
ปาทริค วิเอร่า (ฝรั่งเศส)
อันที่จริง เธียร์รี่ อองรี, ฟรองค์ ริเบรี่, นิโกลาส์ อเนลก้า หรือ คาริม เบนเซม่า ถือว่าเข้าข่ายดาวดับได้เช่นกัน แต่รายของ “ปั๊ต” นั้นถือว่าล้มเหลวสุดๆ ในทุกรูปแบบ ทั้งเรื่องของความฟิตที่ต้องคอยลุ้นตัวโก่งทุกนัดจนสุดท้ายก็ไม่ได้ลงแม้แต่เกมเดียว ถือว่า เรย์มงด์ โดเมเน็ค เสียโควตาไป 1 รายฟรีๆ ที่สำคัญยังทำลายสปิริตของทีมก่อนกลับบ้านด้วยการหวิดตะบันหน้า ปาทริซ เอฟร่า เพื่อนร่วมทีมในอุโมงค์หลังเกมพ่าย อิตาลี 0-2 อีกด้วย
ลูก้า โทนี่ (อิตาลี)
ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มลุ้นคว้าตำแหน่งดาวยิงสูงสุดของยูโรหนนี้ ทว่าในความเป็นจริงหัวหอกร่างโย่งจาก บาเยิร์น มิวนิค กลับทำผลงานได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยแม้แต่น้อย โดยตลอด 4 นัดที่ลงสนาม โทนี่ มีโอกาสบันทึกชื่อตัวเองขึ้นสกอร์บอร์ดมากมาย แต่กลับยิงทิ้งขว้างไปเองทั้งหมด ก่อนกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมอัซซูรี่ด้วยน้ำมือของ สเปน ในสภาพเท้าบอด เสียราคาดาวซัลโวบุนเดสลีกาปีล่าสุดและอดีตดาวยิงรองเท้าทองคำของยุโรปอย่างแท้จริง