xs
xsm
sm
md
lg

ประเดิมรอบสอง “ฝอยทอง” ผยอง / เกรียนมู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟันฝ่ารอบแรกกันมาอย่างถึงพริกถึงขิง ที่สุดแล้วก็ได้ 8 ทีมผ่านเข้ามาเล่นในรอบน็อกเอาต์ของยูโร 2008 โดยคืนวันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน เตรียมประเดิมกันด้วยคู่สุดมัน “ฝอยทอง” โปรตุเกส ฟาดแข้ง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ต้องมาติดตามดูกันว่าระหว่าง “ลูกสดกับความเก๋า” อะไรจะเด็ดดวงกว่ากัน

โปรตุเกส VS เยอรมนี ที่สนามเซนต์ ยาค็อบ พาร์ค ในเมืองบาเซิล

หลุยซ์ เฟลิเป สโคลารี พาทัพ “ฝอยทอง” โปรตุเกส ฉุยฉายเข้ารอบสบายเกือกหลังคว้าชัยในสองนัดแรก การเป็นแชมป์กลุ่มเอตั้งแต่หัววันทำให้กุนซือชาวบราซิเลียน เลือกพักผู้เล่นแกนหลักในนัดทิ้งทวนรอบแรกกับ สวิตเซอร์แลนด์ ส่งตัวสำรองลงไปยืดเส้นยืดสายถึง 8 ราย ก่อนพ่ายเจ้าภาพร่วม 0-2 ด้าน โยอาคิม เลิฟ กระเสือกกระสนพอสมควรกว่าจะเข็น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ผ่านเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มบี แต่ชัยชนะ 1-0 เหนือ ออสเตรีย เจ้าภาพร่วมแลกมาด้วยอาการบาดเจ็บของผู้เล่นกำลังสำคัญ

สภาพความพร้อม : ตรงจุดนี้ต้องถือว่า โปรตุเกส กุมความได้เปรียบเอาไว้ และในเกมคืนวันพฤหัสบดีนี้ “บิ๊กฟิล” เตรียมจัด 11 ผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามอีกครั้ง ริคาร์โด กลับมายืนเฝ้าเสา แบ็กโฟร์มี 3 นักเตะ “สิงห์บลูส์” เชลซี เป็นแกนหลักนำโดย โฮเซ โบซิงวา, เปาโล แฟร์ไรรา ฟูลแบ็กขวาซ้าย ขณะที่ ริคาร์โด คาร์วัลโญ ยืนประสานงานตรงกลางกับ เปเป้ ขยับมาแดนกลาง เจา มูตินโญ, เดโก ซูซา และ อาร์มันโด เปอตีต์ คอยขับเคลื่อนเกม อาศัยทีเด็ดทางกราบของ คริสเตียโน โรนัลโด กับ ซิเมา ซาโบรซา คอยหาจังหวะส่งให้ นูโน โกเมส ดาวยิงกัปตันทีมจบสกอร์

ทางด้านของ เยอรมนี โยอาคิม เลิฟ มีปัญหาให้คิดหนัก เมื่อ ทอร์สเทน ฟริงก์ส และ ลูคัส โพดอลสกี บาดเจ็บบริเวณซี่โครงกับน่องตามลำดับจากเกมกับ ออสเตรีย เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้บุนเดสเทรนเนอร์จำต้องมีการปรับหมาก หากทั้งคู่ไม่ผ่านความฟิต โดยในรายของ ฟริงก์ส อาจถูกแทนที่ด้วย ทิม โบรอฟสกี เพื่อช่วยตัดเกมแดนกลางร่วมกับ มิชาเอล บัลลัค กัปตันทีม ส่วน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่พ้นโทษแบนกลับมามีสิทธิเสียบขึ้นเกมทางซ้ายแทน “โพลดี้” ดาวซัลโวสามประตูของทีม ในแผงรับ อาร์เน ฟรีดริช ที่ถนัดเรื่องเกมรับคงได้ปักหลักเป็นแบ็กขวาต่อไปเพื่อสกัดกั้นปีกจอมเลื้อยโปรตุกีส ส่วนทางซ้าย ฟิลิปป์ ลาห์ม รับผิดชอบได้ดีอยู่แล้ว ขณะที่แดนหน้าดูเหมือน เลิฟ ยังไว้ใจ มาริโอ โกเมซ ให้จับคู่ล่าตาข่ายร่วมกับ มิโรสลาฟ โคลเซ ต่อไป

นักเตะติดคาดโทษใบเหลือง : สโคลารี เป็นกังวลไม่น้อยเมื่อ โปรตุเกส มีนักเตะติดคาดโทษอยู่ถึง 5 ราย มิเกล มอนเตโร, เฟอร์นานโด ไมรา และ จอร์จ ริเบโร ล้วนเป็นแค่สำรอง แต่การที่แบ็กสองข้างอย่าง โบซิงวา และ เฟอร์ไรรา มีใบเหลืองติดตัวทำให้การสกัดกั้นอาจไม่เฉียบขาดเท่าที่ควร ด้าน เยอรมนี มีติดคาดโทษสองราย ได้แก่นายทวาร เยนส์ เลห์มันน์ กับ บัลลัค ซึ่งถ้า ฟริงก์ส ลงสนามไม่ได้จริงๆ กัปตันทีม “อินทรีเหล็ก” เสี่ยงต่อการต้องตัดเกมมากขึ้นจนอาจพลาดการลงสนามในรอบตัดเชือกหากทีมไปถึงจุดนั้น

สถิติการพบกันในอดีต : ปะทะฝีเท้ากันมา 15 ครั้ง ปรากฏว่า เยอรมนี ชนะไป 7 หน ขณะที่ โปรตุเกส กำชัยมาได้แค่ 3 ครั้ง ที่ผ่านมา มีโอกาสวัดแข้งในยูโร 2 สมัย “ฝอยทอง” พิชิตชัยสวยงาม 3-0 เมื่อปี 2000 จากแฮตทริกของ เซอร์โจ คอนไซเซา พร้อมส่ง “อินทรีเหล็ก” ตกรอบแรก ขณะที่อีกครั้งเจอกันในยูโร 1984 เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ สำหรับการพบกันหนล่าสุดในแมตช์ชิงอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2006 ที่เมืองเบียร์ เจ้าภาพบี้ชนะ 3-1 ชไวน์สไตเกอร์ เบิลสกอร์ได้ด้วย โดยสถิติที่น่าสนใจยิ่ง คือ เมื่อ เยอรมนี เข้าถึงรอบน็อกเอาต์ในยูโร 11 สมัย พวกเขามีเฮถึง 9 ครั้ง ปราชัยแค่สองหนเท่านั้น ในปี 1992 โดนอภินิหาร เดนมาร์ก เล่นงานในนัดชิงชนะเลิศ อีกครั้งพ่ายรอบตัดเชือกให้แก่ เนเธอร์แลนด์

จุดเด่น-จุดด้อย : การที่สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) สั่งให้ปูหญ้าใหม่ที่สนามเซนต์ ยาค็อบ พาร์ค หลังชุ่มไปด้วยน้ำจากฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักทำให้ โปรตุเกส ซึ่งถนัดบอลบนพื้นสามารถขึ้นเกมได้สะดวกโยธิน จุดแข็งของ “ฝอยทอง” คือแดนกลางที่สอดประสานได้อย่างลงตัว เดโก มีทีเด็ดทีขาดในการจ่ายบอล โรนัลโด เรียกฟอร์มเก่งจากระดับสโมสรคืนมาได้แล้ว อย่างไรก็ตาม โปรตุเกส ก็มีจุดอ่อนเช่นกันในเรื่องการสกัดกั้นลูกโด่ง คาร์วัลโญ และ เปเป้ เคยมีปัญหาในนัดเจอกับ สาธารณรัฐเช็ก ริคาร์โด ยังออกมาตัดบอลไม่ดีเท่าที่ควร ขณะที่ โกเมส เก็บบอลได้ดีแต่ยังใช้โอกาสเปลืองเกินไปสำหรับการเบิกประตูแรกให้ตัวเอง

ด้าน เยอรมนี ชุดนี้ถือว่ามีเครื่องหมายคำถามอยู่หลายจุดทีเดียว เลห์มันน์ กลายเป็นผู้รักษาประตูที่หาความแน่นอนไม่ได้ คู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ คริสตอฟ เม็ตเซลเดอร์ กับ เพอร์ แมร์แตร์ซัคเกอร์ รูปร่างใหญ่ก็จริง แต่เชื่องช้า ส่วนการขึ้นเกมบุกทางกราบ เคลเมนส์ ฟริตซ์ ไม่มีทีเด็ดเท่าที่ควร หลายครั้งที่แบ็กต้องเติมขึ้นมาช่วย ในแนวรุก โคลเซ ยังหาประตูแรกในยูโรไม่เจอ ขณะที่ โกเมซ ขาดความมั่นใจ อย่างไรก็ตาม “อินทรีเหล็ก” ขึ้นชื่อเรื่องหัวจิตหัวใจมาแต่ไหนแต่ไร ด้วยประสบการณ์ทำให้ทุกทีมไม่สามารถประมาทได้เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาต์

ผลการแข่งขันที่คาดโดยเกรียนมู : เยอรมนี อาจเจอภาวะคับขันเหมือนนัดพบกับ โครเอเชีย เนื่องจาก โปรตุเกส คุมพื้นที่ไล่บอลสร้างความกดดันให้คู่แข่งได้ดี อีกทั้งจังหวะการเข้าทำตอนนี้ต้องยกให้ “ฝอยทอง” หลากหลายมีเด็ดที่สามารถเบียดเอาชนะ “อินทรีเหล็ก” 2-1
โรนัลโด ทีเด็ดฝอยทอง
เดโก จ่ายบอลเฉียบขาด
โพลดี้ ฟิตทันหรือไม่ ?
บัลลัค นำอินทรีเหล็กเฮ ?
กำลังโหลดความคิดเห็น