ผ่านพ้นวันที่ 5 ของการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2008 ปรากฏว่า โปรตุเกส ได้ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นทีมแรกในฐานะแชมป์กลุ่มเอ ขณะที่ สวิตเซอร์แลนด์ เจ้าภาพร่วม ก็ร่วงเป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนต์ และในคืนวันพฤหัสบดีที่ 12 มิ.ย. เยอรมนี อาจเป็นทีมที่สองที่ผ่านเข้ารอบต่อไป ขณะที่ ออสเตรีย มีสิทธิอกหักตามสวิส
เยอรมนี VS โครเอเชีย ที่เมืองคลาเกนเฟิร์ต (เวลา 23.00 น.ตามวัน-เวลาประเทศไทย)
การเปิดตัวอันยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะเหนือ โปแลนด์ อริแต่ช้านาน 2-0 ทำให้สื่อเมืองเบียร์พยายามกระพือโอกาสที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี จะบินไปจิกจ้าวยุโรปมาครองเหมือนกับเมื่อปี 1996 ซึ่งครั้งนั้น เยอรมนี เคยเฉือนชนะ โครเอเชีย มาแล้ว 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม บุนเดสเทรเนอร์ โยอาคิม เลิฟ ยอมรับว่า “ตราหมากรุก” ชุดยูโร 2008 ค่อนข้างแข็งแกร่งในเกมรับ และก็มีเกมบุกที่สวนกลับขึ้นมาน่ากลัว
ส่วนสภาพความพร้อมของ เยอรมนี ต้องถือว่าสมบูรณ์สุดขีด ทั้งพลังกายและกำลังใจทำให้ เลิฟ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อาจมีการปรับเปลี่ยน 11 ผู้เล่นตัวจริงหนึ่งตำแหน่ง โดย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่หลุดเป็นตัวสำรองนัดก่อน มีโอกาสคืนสนามลงยืนทำเกมรุกทางฝั่งขวาแทน เคลเมน ฟริตซ์ ส่วน ลูคัส โพดอลสกี ที่เบิลสกอร์ใส่ชาติบ้านเกิดจะได้ปักหลักทางกราบซ้ายต่อไปหลังทำผลงานสุดยอด ส่วนคู่หน้า มาริโอ โกเมซ น่าจะยังได้โอกาสล่าตาข่ายร่วมกับ มิโรสลาฟ โคลเซ โดยมี เควิน คูรานยี นั่งกดดันอยู่ข้างสนาม
ด้าน โครเอเชีย แม้เคยโค่น เยอรมนี ลงได้เพียงแค่หนเดียวจากการปะทะฝีเท้ากัน 7 ครั้ง แต่ชัยชนะถึง 3-0 เมื่อปี 1998 ก็ทำให้ “อินทรีเหล็ก” ปีกหักตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส มาคราวนี้กุนซือ สลาเวน บิลิช ขุนพลโครแอตในชุดนั้น หวังพาทีมสร้างปาฏิหาริย์ให้ได้อีกสักครั้ง ส่วนการจัดทัพอาจมีการปรับแทกติกจาก 4-4-2 มาเล่นระบบ 4-3-2-1 ห้อยทาง อิวิกา โอลิช เป็นหน้าตัวเป้าและอาจหยอด อีวาน ราคิติช ลงมาช่วยทำเกม ส่วน ลูกา โมดริช ที่บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายระหว่างฝึกซ้อมไม่น่ามีปัญหา สำหรับการลงมาบัญชาเกมแดนกลาง
ผลการแข่งขันที่คาด : โครเอเชีย ค่อนข้างโชคดีได้จุดโทษเฉือนชัยตั้งแต่ต้นเกมในนัดแรก หลังจากนั้น ลูกทีมของ บิลิช งัดเอาเกมรับอันแข็งแกร่งออกมาโชว์ อย่างไรก็ตาม เยอรมนี มีเกมบุกที่หลากหลาย และทรงประสิทธิผลกว่าโครเอเชีย หลายเท่า “อินทรีเหล็ก” น่าจะเก็บสามแต้มได้แบบเฉียดฉิว สกอร์ที่คาด 1-0
ออสเตรีย VS โปแลนด์ ที่กรุงเวียนนา (เวลา 01.45 น. ตามวัน-เวลาประเทศไทย)
โจเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ ค่อนข้างหัวเสียที่ ออสเตรีย ปราชัยในเกมประเดิมยูโร 2008 คาบ้านตัวเองทั้งๆ ที่ครองเกมบุกได้เกือบตลอดทั้งครึ่งหลัง การเจอกับ โปแลนด์ ในนัดที่สองถือเป็นแมตช์ชี้ชะตา ถ้าแพ้ก็บอกลาได้เลย อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 60 ปี เลือกเสี่ยงสั่งลูกทีมเปิดเกมบุกเต็มตัวเพื่อคว้าโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนัดนี้ทีมต้องลุ้นอาการเจ็บของ โรลันด์ ลินซ์ หัวหอกความหวังรวมถึง เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์ ปราการหลังจอมแกร่งซึ่งคาดว่าน่าจะฟิตลงสนามได้ทั้งคู่ ทว่า ออสเตรีย คงมีการปรับทัพ 11 คนแรก อูมิต คอร์คมาซ นักเตะเชื้อสายเติร์กเตรียมเดินเกมทางกราบซ้าย ขณะที่ เออร์วิน โฮฟเฟอร์ หรือ โรมัน คีนาสท์ จะถูกส่งไปช่วย ลินซ์ ลุ้นทำประตู
ด้าน ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ยังมีปัญหานักเตะโปลบาดเจ็บตามมาเรื่อยๆ ล่าสุด มาเซียจ ซูราฟสกี กองหน้ากัปตันทีมเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหมดสิทธิลงสนามแน่นอนแล้ว ทำให้กุนซือชาวดัตช์ต้องชั่งใจว่าจะให้ มาเร็ค ซากานอฟสกี ลงไปช่วยงาน เอบี สโมลาเร็ค หรือเลือกเล่นระบบหน้าตัวเดี่ยวโดยใส่ โรเจอร์ เกอร์เรโร นักเตะเชื้อสายบราซิเลียนลงเติมแดนกลางให้แน่น ส่วนในรายของ มาริอุสซ์ เลวานดอฟสกี มิดฟิลด์คนสำคัญก็มีปัญหาเจ็บข้อเท้าต้องลุ้นหนักพอสมควร แต่ที่ค่อนข้างแน่ โปแลนด์ เตรียมถอด พาเวล โกลันสกี ซึ่งก่อความผิดพลาดจนทีมเสียประตูที่สองให้ เยอรมนี ออกมาและก็ให้ ยาคุบ วาเวอร์ซีเนียค ลงยืนเป็นแบ็กซ้ายแทน
ผลการแข่งขันที่คาด : อันที่จริง โปแลนด์ เล่นกันได้ดีในเกมพ่าย เยอรมนี แต่ความผิดพลาดในบางจังหวะ ทำให้ทีมไม่มีคะแนนติดมือ สำหรับ ออสเตรีย ได้กำลังใจจากแฟนๆ เต็มสนามคงทำเกมบุกวูบวาบแต่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพ สกอร์ที่คาด 0-0
เยอรมนี VS โครเอเชีย ที่เมืองคลาเกนเฟิร์ต (เวลา 23.00 น.ตามวัน-เวลาประเทศไทย)
การเปิดตัวอันยอดเยี่ยมด้วยชัยชนะเหนือ โปแลนด์ อริแต่ช้านาน 2-0 ทำให้สื่อเมืองเบียร์พยายามกระพือโอกาสที่ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี จะบินไปจิกจ้าวยุโรปมาครองเหมือนกับเมื่อปี 1996 ซึ่งครั้งนั้น เยอรมนี เคยเฉือนชนะ โครเอเชีย มาแล้ว 2-1 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ อย่างไรก็ตาม บุนเดสเทรเนอร์ โยอาคิม เลิฟ ยอมรับว่า “ตราหมากรุก” ชุดยูโร 2008 ค่อนข้างแข็งแกร่งในเกมรับ และก็มีเกมบุกที่สวนกลับขึ้นมาน่ากลัว
ส่วนสภาพความพร้อมของ เยอรมนี ต้องถือว่าสมบูรณ์สุดขีด ทั้งพลังกายและกำลังใจทำให้ เลิฟ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อาจมีการปรับเปลี่ยน 11 ผู้เล่นตัวจริงหนึ่งตำแหน่ง โดย บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่หลุดเป็นตัวสำรองนัดก่อน มีโอกาสคืนสนามลงยืนทำเกมรุกทางฝั่งขวาแทน เคลเมน ฟริตซ์ ส่วน ลูคัส โพดอลสกี ที่เบิลสกอร์ใส่ชาติบ้านเกิดจะได้ปักหลักทางกราบซ้ายต่อไปหลังทำผลงานสุดยอด ส่วนคู่หน้า มาริโอ โกเมซ น่าจะยังได้โอกาสล่าตาข่ายร่วมกับ มิโรสลาฟ โคลเซ โดยมี เควิน คูรานยี นั่งกดดันอยู่ข้างสนาม
ด้าน โครเอเชีย แม้เคยโค่น เยอรมนี ลงได้เพียงแค่หนเดียวจากการปะทะฝีเท้ากัน 7 ครั้ง แต่ชัยชนะถึง 3-0 เมื่อปี 1998 ก็ทำให้ “อินทรีเหล็ก” ปีกหักตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลกที่ฝรั่งเศส มาคราวนี้กุนซือ สลาเวน บิลิช ขุนพลโครแอตในชุดนั้น หวังพาทีมสร้างปาฏิหาริย์ให้ได้อีกสักครั้ง ส่วนการจัดทัพอาจมีการปรับแทกติกจาก 4-4-2 มาเล่นระบบ 4-3-2-1 ห้อยทาง อิวิกา โอลิช เป็นหน้าตัวเป้าและอาจหยอด อีวาน ราคิติช ลงมาช่วยทำเกม ส่วน ลูกา โมดริช ที่บาดเจ็บเอ็นร้อยหวายระหว่างฝึกซ้อมไม่น่ามีปัญหา สำหรับการลงมาบัญชาเกมแดนกลาง
ผลการแข่งขันที่คาด : โครเอเชีย ค่อนข้างโชคดีได้จุดโทษเฉือนชัยตั้งแต่ต้นเกมในนัดแรก หลังจากนั้น ลูกทีมของ บิลิช งัดเอาเกมรับอันแข็งแกร่งออกมาโชว์ อย่างไรก็ตาม เยอรมนี มีเกมบุกที่หลากหลาย และทรงประสิทธิผลกว่าโครเอเชีย หลายเท่า “อินทรีเหล็ก” น่าจะเก็บสามแต้มได้แบบเฉียดฉิว สกอร์ที่คาด 1-0
ออสเตรีย VS โปแลนด์ ที่กรุงเวียนนา (เวลา 01.45 น. ตามวัน-เวลาประเทศไทย)
โจเซฟ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ ค่อนข้างหัวเสียที่ ออสเตรีย ปราชัยในเกมประเดิมยูโร 2008 คาบ้านตัวเองทั้งๆ ที่ครองเกมบุกได้เกือบตลอดทั้งครึ่งหลัง การเจอกับ โปแลนด์ ในนัดที่สองถือเป็นแมตช์ชี้ชะตา ถ้าแพ้ก็บอกลาได้เลย อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 60 ปี เลือกเสี่ยงสั่งลูกทีมเปิดเกมบุกเต็มตัวเพื่อคว้าโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยนัดนี้ทีมต้องลุ้นอาการเจ็บของ โรลันด์ ลินซ์ หัวหอกความหวังรวมถึง เอ็มมานูเอล โปกาเตทซ์ ปราการหลังจอมแกร่งซึ่งคาดว่าน่าจะฟิตลงสนามได้ทั้งคู่ ทว่า ออสเตรีย คงมีการปรับทัพ 11 คนแรก อูมิต คอร์คมาซ นักเตะเชื้อสายเติร์กเตรียมเดินเกมทางกราบซ้าย ขณะที่ เออร์วิน โฮฟเฟอร์ หรือ โรมัน คีนาสท์ จะถูกส่งไปช่วย ลินซ์ ลุ้นทำประตู
ด้าน ลีโอ บีนฮัคเกอร์ ยังมีปัญหานักเตะโปลบาดเจ็บตามมาเรื่อยๆ ล่าสุด มาเซียจ ซูราฟสกี กองหน้ากัปตันทีมเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาหมดสิทธิลงสนามแน่นอนแล้ว ทำให้กุนซือชาวดัตช์ต้องชั่งใจว่าจะให้ มาเร็ค ซากานอฟสกี ลงไปช่วยงาน เอบี สโมลาเร็ค หรือเลือกเล่นระบบหน้าตัวเดี่ยวโดยใส่ โรเจอร์ เกอร์เรโร นักเตะเชื้อสายบราซิเลียนลงเติมแดนกลางให้แน่น ส่วนในรายของ มาริอุสซ์ เลวานดอฟสกี มิดฟิลด์คนสำคัญก็มีปัญหาเจ็บข้อเท้าต้องลุ้นหนักพอสมควร แต่ที่ค่อนข้างแน่ โปแลนด์ เตรียมถอด พาเวล โกลันสกี ซึ่งก่อความผิดพลาดจนทีมเสียประตูที่สองให้ เยอรมนี ออกมาและก็ให้ ยาคุบ วาเวอร์ซีเนียค ลงยืนเป็นแบ็กซ้ายแทน
ผลการแข่งขันที่คาด : อันที่จริง โปแลนด์ เล่นกันได้ดีในเกมพ่าย เยอรมนี แต่ความผิดพลาดในบางจังหวะ ทำให้ทีมไม่มีคะแนนติดมือ สำหรับ ออสเตรีย ได้กำลังใจจากแฟนๆ เต็มสนามคงทำเกมบุกวูบวาบแต่ไร้ซึ่งประสิทธิภาพ สกอร์ที่คาด 0-0