xs
xsm
sm
md
lg

"กังหันสีส้ม" วัดคม "หมีขาว" / เกรียนมู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มาถึงวันที่สามสำหรับการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกยูโร 2008 ปรากฏว่า “ทีมอันดับ 1” ของกลุ่มทั้ง โปรตุเกส และโครเอเชีย ต่างพากันเสียท่าให้ “รองบ่อน” อย่าง เยอรมนี กับ ตุรกี ซึ่งในคืนวันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน ต้องมาลุ้นกันว่า “กังหันสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ จะผ่านด่าน “หมีขาว” รัสเซีย ไปได้หรือไม่

เนเธอร์แลนด์ VS รัสเซีย ที่สนามเซนต์ ยาค็อบ พาร์ค ในเมืองบาเซิล

มาร์โก แวน บาสเทน นำทัพ “กังหันสีส้ม” เนเธอร์แลนด์ ประกาศศักดาคว้าแชมป์กลุ่มซี หรือที่ถูกขนานนามว่า “กรุ๊ป ออฟ เดธ” อย่างเต็มภาคภูมิ ด้วยการล้มทั้ง “แชมป์โลก” อิตาลี, ฝรั่งเศส (รองแชมป์โลก) และโชว์สปิริตอัด “ผีดิบ” โรมาเนีย เก็บ 9 คะแนนเต็ม ด้าน รัสเซีย แม้ออกตัวบู่โดน “กระทิงดุ” สเปน ขวิดไส้ไหล แต่ กุส ฮิดดิงก์ กุนซือชาวดัตช์พร้อม “โจ๊กเกอร์” อังเดร อาร์ชาวิน สามารถนำ “หมีขาว” คว้าอันดับ 2 กลุ่มดี เข้ารอบมาได้อย่างหวุดหวิด
รุด-บรองค์ฮอร์สท กำลังสำคัญดัตช์
สภาพความพร้อม : แม้ทำผลงานในรอบแรกได้อย่างเลิศหรูส่งลูกหนังเข้าไปตุงตาข่ายได้ถึง 9 ครั้ง เสียให้คู่แข่งแค่ 1 ประตู แต่ มาร์โก แวน บาสเทน กำชับให้ลูกทีมให้กลับมานับหนึ่งกันใหม่เมื่อเข้าสู่รอบน็อกเอาท์แบบแพ้คัดออก โดยเกมคืนนี้ “น้าแวน” ไม่มีปัญหาในการจัดทัพและก็เตรียมกลับมาใช้ 11 ขุนพลตัวจริงแบบเต็มสูบ หลังปล่อยให้สตาร์หลายคนได้พักจากเกมส่งท้ายรอบแรก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ คืนเสาดังเดิม คาลิด บูลาห์รุซ ซึ่งเพิ่งเสียลูกสาวไปเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ใจเด็ดกลับมายืนประสานงานร่วมกับ อังเดร ออยเยอร์, ยอริส มาไธจ์เซน และโจวานนี ฟาน บรองก์ฮอร์สท ในแผงรับ โดยมี ไนเจล เดอ ยอง กับ ออร์แลนโด อันเจลาร์ ช่วยตัดเกมแดนกลาง ส่วนแนวรุก เวสลีย์ ชไนจ์เดอร์ สร้างสรรค์เกมร่วมกับ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และอาร์เยน ร็อบเบน ในการปั้นแต่งให้ รุด ฟาน นิสเตลรอย เบิกสกอร์

ด้าน ฮิดดิงก์ เตรียมเผชิญหน้ากับทีมบ้านเกิดและตอนนี้ดูเหมือนกุนซือวัย 61 ปีค้นเจอ 11 ผู้เล่นตัวจริงในดวงใจได้แล้วหลังควานหามา 3 นัดจากรอบแรก โดย อีกอร์ อคินเฟเยฟ จอมหนึบดาวรุ่งเฝ้าเสาเหมือนเดิม ขณะที่แผงแบ็กโฟร์ อเล็กซานเดอร์ อันยูคอฟ และยูริ เชียร์คอฟ เด่นทั้งรุกและรับ เดนิส โกโลดิน เข้าคู่ได้ดีกับ เซอร์เก อิกนาเชวิช ส่วนแดนกลาง อีกอร์ เซมชอฟ กับ เซอร์เก เซมัค กัปตันทีมคอยตัดเกม คอนสแตนติน ซีรียานอฟ กระชากวูบวาบทางกราบขวา ดินิยาร์ บิลยาเลตดินอฟ น่าจะฟิตมากขึ้นได้ปักหลักทางกราบซ้ายอีกครั้ง คู่หัวหอก โรมัน พาฟลูเชนโก เฉียบคมขึ้นเป็นลำดับเมื่อได้ อังเดร อาร์ชาวิน ดึงตัวเองลงมาปั่นป่วนเกมรับคู่แข่งคอยแจกจ่ายบอลให้

นักเตะที่ติดคาดโทษใบเหลือง : เดอ ยอง ต้องระมัดระวังให้ดีสำหรับการตัดเกมแดนกลาง ขณะที่ ออยเยอร์ การเข้าเสียบสกัดช้าเพียงนิดเดียวมีสิทธิเจอใบเหลืองจาก ลูบอส มิเชล เชิ้ตดำชาวสโลวัก พลาดการเล่นในรอบตัดเชือกได้หาก “กังหันสีส้ม” พัดไปถึง ด้าน “หมีขาว” ตัวจริงอย่าง โกโลดิน, เซมัค และอาร์ชาวิน ทะเล่อทะล่าไม่ได้เช่นกัน ส่วน ดมิทรี ทอร์บินสกี และอีวาน ซาเอนโก สองตัวสำรองจะถูกยูฟ่าลบใบเหลืองออกไปหาก รัสเซีย พลิกล็อกเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ
อาร์ชาวิน ความหวังหมีขาว
สถิติการพบกันในอดีต : เจอกันมา 8 ครั้ง เนเธอร์แลนด์ กำชัยได้ถึงครึ่งหนึ่ง ขณะที่ รัสเซีย พิชิตไปได้แค่ 2 หนหนึ่งในนั้นเป็นนัดประเดิมสนามยูโร 1988 (1-0) ที่เยอรมนี ก่อนที่ขุนพลแข้งดัตช์ทวงคืนทั้งต้นทั้งดอกในรอบชิงชนะเลิศ 2-0 ซึ่ง “แวน บาสเทน’ ก็สร้างชื่อให้ตัวเองด้วยการยิงลูกใบไม้ร่วงมุมแคบผ่านมือ ไรนาท ดาซาเยฟ ในส่วนของ ฮิดดิงก์ คุมทีมปะทะแข้งเพื่อนร่วมชาติ 2 หนในเกมกระชับมิตรที่ ออสเตรเลีย ยันเสมอ เนเธอร์แลนด์ 1-1 เมื่อมิถุนายนปี 2006 และรัสเซีย เคยโดน “กังหันสีส้ม” ฉีกวิ่นมาแล้ว 1-4 เมื่อต้นปี 2007

จุดเด่น-จุดด้อย : แฟนๆ น่าจะสนุกไปกับการเปิดแลกกันเนื่องจากทั้งสองทีมมีจุดเด่นในการเดินเกมรุก โดย เนเธอร์แลนด์ อาศัย ฟาน เดอร์ ฟาร์ท จ่ายบอลเฉียบคม ร็อบเบน กระชากลากเลื้อยสุดสะเด่า ชไนจ์เดอร์ ยังมีทีเด็ดจากลูกฟรีคิก ส่วนการเข้าฮอร์สของ ฟาน นิสเตลรอย ไม่เป็นสองรองใคร ด้าน รัสเซีย ซีรียานอฟ สตาร์เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวแม้อายุอานามเข้าหลัก 30 ปี ขณะที่ อาร์ชาวิน โชว์ให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว และพาฟลูเชนโก พักบอลดีพอฝากผีฝากไข้ได้ยามที่ทีมต้องการประตู อย่างไรก็ตาม ทั้งสองฝ่ายยังมีคำถามในเรื่องเกมรับ ซึ่ง “กังหันสีส้ม” ในรอบแรกเจอคู่แข่งที่เดินเกมค่อนข้างช้า แต่มาคราวนี้เตรียมเผชิญจังหวะเกมที่เร็วขึ้น ส่วน “หมีขาว” กองหลังปั่นป่วน (อย่างเกมพ่าย สเปน 1-4) เมื่อต้องดวลกับแนวรุกที่มีความสามารถเฉพาะตัวสูง

ผลการแข่งขันที่คาด : “เต็ง 1” เนเธอร์แลนด์ เดินลงสนามโดยมีความกดดันอยู่บนบ่า ขณะที่ รัสเซีย ได้รับการจับตามองให้เป็นหนึ่งใน “ม้ามืด” ของยูโร 2008 อย่างไรก็ตาม เมื่อแลกกันหมัดต่อหมัด “กังหันสีส้ม” มีโอกาสน็อก “หมีขาว” ลงได้สกอร์ที่คาด 3-1
กำลังโหลดความคิดเห็น