“ตำนานผี” จวกพรีเมียร์ลีกยับจัดโปรแกรมชุ่ย

แพดดี ครีแรนด์ ตำนานแข้ง “ปิศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด ออกมาโวยการจัดโปรแกรมลีกผู้ดีของ “พรีเมียร์ลีก” หลังทีมรักต้องออกไปเยือนคู่แข่งตลอด หลังฟาดแข้งในศึกแชมเปียนส์ลีก

แม้ว่า “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมแชมป์เก่า จะได้เปิดสนามในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2008-09 พบกับ “สาลิกาดง” นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมที่ดูเหมือนจะแพ้ทางกันมาตลอด ทว่า โปรแกรมการแข่งขันฤดูกาลหน้านั้น นับว่าหนักหนาเอาการ เมื่อ “ยูไนเต็ด” ต้องกลายเป็นทีมเยือนในรายการพรีเมียร์ลีกตลอด หลังจากการแข่งขันในศึกแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทั้ง 6 นัด

ขณะที่คู่แข่งแย่งแชมป์ลีกอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก็หนักหนาไม่แพ้กัน เมื่อต้องเป็นทีมเยือนในลีก 5 นัด หลังศึกแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ต่างกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่จะได้เล่นเป็นเจ้าถิ่นถึง 4 นัด หลังศึกฟุตบอลถ้วยยุโรป

โดย แพดดี ครีแรนด์ ตำนานนักเตะของ “ปิศาจแดง” ชุดแชมป์ยุโรปปี 1968 กล่าวว่า “การจัดโปรแกรมฟุตบอลลีกภายในประเทศอื่น เขามีแต่ทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้ทีมของพวกเขาประสบความสำเร็จในเวทียุโรป แต่ พรีเมียร์ลีก กลับตรงข้ามกัน ผมว่ามันทุเรศมาก เพราะ ยูไนเต็ด คือ ตัวแทนของประเทศนี้ ในรายการระดับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แต่การจัดโปรแกรมแบบนี้ไม่ช่วยให้เราได้เปรียบเลย”

ทั้งนี้ การเปิดศึกยูฟาแชมเปียนส์ลีกนัดแรกของ “ปิศาจแดง” จะคั่นกลางระหว่างเกมเยือน ลิเวอร์พูล และ เชลซี ส่วนโปรแกรมของสนามอื่นๆ อีก 5 นัดที่เหลือ คือ การบุกไปเยือน แบล็dเบิร์น โรเวอร์ส, เอฟเวอร์ตัน, อาร์เซนอล, แมนเชสเตอร์ ซิตี และ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งอาจจะเลวร้ายกว่านั้น หากการแข่งขันพรีเมียร์ลีกโดนขยับเวลาให้เร็วขึ้นมาหวดกันในเวลา 12.45 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยอาจมีบางครั้งที่ ยูไนเต็ด กลับมาจากเกมยุโรปในเช้าวันพฤหัสบดี แล้วเล่นเกมลีกนัดเยือนช่วงเวลากลางวันนั่นเอง

“สำหรับการจับสลากบอลยุโรป อาจทำให้คุณมีโปรแกรมไปเล่นที่ยุโรปตะวันออก และกลับไม่ถึงบ้านจนกว่าจะตีสี่ของวันพฤหัสบดี จากนั้นคุณก็ต้องเตรียมตัวลงสนามสำหรับเกมเยือนของพรีเมียร์ลีก ต่อทันที” อดีตนักเตะของทีมปิศาจแดงกล่าว

นอกจากนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีโปรแกรมโหดรออยู่ เมื่อต้องฟาดแข้งในลีกกับ ฟูแลม วันที่ 30 สิงหาคม ก่อนไปฟาดแข้งกับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์เบิร์ก แชมป์ยูฟาคัพ ในศึกยูโรเปียน ซูเปอร์ คัพ ที่โมนาโก อีกทั้งยังมีโปรแกรมที่ต้องไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลกที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนธันวาคมนี้อีกด้วย