ไทเกอร์ วูดส์ โปรมือหนึ่งของโลกชาวอเมริกัน คว้าแชมป์รายการเมเจอร์ที่ 14 ของตนเองได้สำเร็จ หลังดวลเพลย์ออฟเอาชนะ รอคโค่ มีดิเอท ก้านเหล็กเพื่อนร่วมชาติในศึกเมเจอร์ "ยูเอส โอเพ่น" เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
ศึกดวลวงสวิง ยูเอส โอเพ่น กอล์ฟเมเจอร์รายการที่สองของปีระหว่างวันที่ 12-15 มิถุนายน ชิงเงินรางวัลรวม 7 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 230 ล้านบาท) ที่สนามทอร์เรย์ ไพนส์ (เซาธ์ คอร์ส) ระยะ 7,643 หลา พาร์ 71 ในเมืองซานดิอาโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นการแข่งรอบเพลย์ออฟ เมื่อวันจันทร์ที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา
ก้านเหล็กมือ 1 ของโลกเริ่มต้นได้ดีด้วยการออกนำ รอคโค่ มิดิเอท สามสโตรกหลังจากผ่านการเพลย์ออฟ 10 หลุมแรก ก่อนถูกไล่ตีเสมอในหลุม 14 จนโดนแซง 1 สโตรกที่หลุม 15 จนกระทั่งในหลุม 18 มีดิเอท พลาดท่าได้แค่เซฟพาร์ ทำให้ วูดส์ ซึ่งยิงเบอร์ดี้ได้ทำสกอร์มาเท่ากันที่อีเวนพาร์ จนต้องไปเล่นซัดเดนเดธต่อ
เพียงแค่หลุมแรกในการดวลที่หลุม 7 พาร์ 4 ไทเกอร์ ก็จัดการพัตต์ระยะ 25 ฟุตจ่อปากหลุม ก่อนแทป-อินลงไปเป็นการเซฟพาร์ ส่วน มีดิเอท กลับหลุดออกโบกี้ ส่งผลให้ "พญาเสือ" คว้าแชมป์ยูเอส โอเพ่น ได้เป็นหนที่ 3 พร้อมทั้งเป็นการคว้าแชมป์เมเจอร์ครั้งที่ 14 ของเขาด้วย
นอกจากนั้น การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้ วูดส์ สะสมถ้วยรางวัลในพีจีเอทัวร์เพิ่มเป็น 65 รายการ แซงหน้า เบน โฮแกน ขึ้นไปรั้งสถิติสูงสุดตลอดกาลในอันดับ 3 แต่เพียงผู้เดียว และยังทำสถิติคว้าแชมป์เมเจอร์ตามหลัง แจ๊ค นิกคลอส เหลือเพียง 4 ครั้งเท่านั้น
หลังการคว้าแชมป์ พญาเสือกล่าวว่า "ผมคิดว่านี่อาจเป็นการแข่งที่ดีที่สุด แม้ว่าจะได้บทสรุปแล้ว แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคว้าแชมป์มาได้อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ไม่น่าเชื่อว่าจริงๆ แต่ละคนต่างผลัดกันทำคะแนนขึ้นนำ วันนี้เขาสร้างความกดดันให้ผมมาก แต่ผมคิดว่าผมโชคดีมากจริงๆ ที่สามารถเล่นได้ถึง 91 หลุมและกลายมาเป็นผู้ชนะ"
ขณะที่ มีดิเอท ผู้แพ้ให้สัมภาษณ์ว่า "มันเป็นเกมที่น่าทึ่งมาก หลังผ่านไป 10 หลุมผมตามหลังเขาสามสโตรก ก่อนจะกลับขึ้นมานำอีกครั้ง แต่ในหลุมสุดท้ายเขาก็มาทำเบอร์ดี้ได้จนคะแนนเสมอกัน เขาเป็นคนที่เอาชนะยากจริงๆ ผมทำเต็มความสามารถแล้ว แต่สุดท้ายก็แพ้เขาอยู่ดี"
(ขออภัยในความผิดพลาด ทางทีมงานได้ตรวจสอบและแก้ไขข่าวให้ถูกต้องแล้ว)