คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ ทอม โดนัคฮี กรรมการผู้อื้อฉาวแห่งศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) เตรียมก้าวขึ้นสู่ศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษาจากคดีประพฤติมิชอบในหน้าที่ลักลอบเล่นการพนันและให้ข้อมูลการแข่งขันแก่บรรดานักเสี่ยงโชคเพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทน ซึ่งโทษทัณฑ์สูงสุดที่เชิ้ตเทาวัย 41 ปีพึงได้รับคือการถูกสั่งจำคุกนานถึง 33 ปี
แต่นี่อาจไม่ใช่ผู้ตัดสินคนสุดท้ายที่ต้องรับผลกรรมเพราะดูเหมือนยังมีอีกไม่น้อยที่พัวพันคดีฉาวล็อกผลการแข่งขัน ด้วยความเป็น Worldwide ไม่แพ้วงการลูกหนังโลก บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายจึงมีการออกอัตราพนันขันต่อ NBA เพื่อล่อตาล่อใจพวกชอบเสี่ยงโชคให้มาเดิมพันแต้มต่อหรือสกอร์สูง-ต่ำในแต่ละเกม ทว่านับตั้งแต่ที่ ทิม โดนัคฮี โดนรวบเมื่อปีก่อนโทษฐานปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม นักลงทุนในบ่อนอาจต้องวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกเพิ่มเติมในส่วนของรายชื่อกรรมการที่ลงทำการตัดสินในเกมนั้นๆ ศึกษาหาประวัติกันให้ดีว่าเชียร์ทีมใดหมั่นไส้ใครเป็นพิเศษหรือเคยมีประวัติด่างพลอยหรือไม่ มิเช่นนั้นคุณอาจรู้เท่าไม่ทันเล่ห์การโกงกันเป็นขบวนการ
หลังจากโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจไต่สวนมาได้พักใหญ่ คำสารภาพต่างๆ ค่อยๆ หลุดมาจากปากของโจรกลับใจ (ไม่ทันเสียแล้ว) อย่างโดนัคฮี ล่าสุดมีรายงานว่ามีกรรมการอีก 2 รายทำการล็อกผลการแข่งขันเพลย์ออฟเมื่อปี 2002 จากพฤติกรรมที่ว่าผู้ตัดสินในวันนั้นต้องการเป่าฟาว์ลใส่ทีมสมมติเป็น “ทีม 5” เพื่อให้ “ทีม 6” ได้ชู้ตฟรีโทรล์เยอะๆ ก่อนพลิกกลับชนะเกมที่ 6 และก็ไปชนะซีรีส์ในเกมที่ 7 ต่อไป
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับนักข่าวมะกันในการตามแกะรอยฉาวที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน เพราะโพสต์ซีซั่น 2001/02 มีเพียงซีรีส์เดียวที่ต้องเล่นกันถึง 7 เกมนั่นก็คือ “เกมชิงแชมป์สายตะวันตก” ระหว่าง ซาคราเมนโต คิงส์ กับทีมมหาชนอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส
โดย คิงส์ ถูกสมมติให้เป็น “ทีม 5” ซึ่งขึ้นนำซีรีส์ 3-2 เกม และก็ขึ้นนำ เลเกอร์ส อยู่ 56-51 คะแนนเมื่อจบครึ่งแรก แต่เชื่อหรือไม่ว่าควอเตอร์ 4 ควอเตอร์เดียว “ทีม 6” หรือถูกสมมติให้เป็น เลเกอร์ส ได้ชู้ตฟรีโทรล์ถึง 27 ครั้งลงไป 21 หน ขณะที่ทีมเยือนได้ชู้ตควอเตอร์นี้แค่ 9 ลงห่วง 7 ครั้ง มิหนำซ้ำยังมีการไล่ วลาดี ดิวาช กับ สกอต พอลลาร์ด ของคิงส์ออกจากสนามไปอีก ในที่สุด เลเกอร์ส กลับมาคว้าชัย 106-102 คะแนน จากนั้นก็บุกไปเล่นงาน คิงส์ ถึงถิ่น 112-106 คะแนน พลิกคว้าแชมป์กลุ่มเข้าไปถลุง นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ในเกมชิงแชมป์ประเทศ 4-0 เกม สมความประสงค์ของใครหรือกลุ่มคนกลุ่มใดในการผลักดันครั้งนี้
จากกลิ่นตุๆ ที่ออกมาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีคิวตระเวนเคาะประตูบ้าน ดิค บาเตตา, เท็ด เบิร์นฮาร์ดท์ และบ็อบ เดลานีย์ ทีมงานผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวเพื่อสืบสาวราวเรื่องเอาว่า 2 ในสามคนนี้ใครกันมีส่วนได้ส่วนเสียกับการล็อกผลการแข่งขันในเพลย์ออฟปี 2002
อีกกรณีที่ถูกหยิบยกมาคุยกันคือเพลย์ออฟปี 2005 เมื่อ “ทีม 3” ซึ่งสื่อในสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็น ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ที่ตกเป็นรอง ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ไปก่อน 0-2 เกม จนทำให้ มาร์ค คิวบาน เจ้าของทีมต้องออกมาโวยวายการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ก่อนที่ซีรีส์ดังกล่าวลงเอยด้วย “แมฟส์แมน” พลิกสถานการณ์กลับมาชนะในเกมที่ 7
จากทั้งสอง Case ที่เกิดขึ้นทำให้ฉุกคิดนำมาเทียบกับ “ซีรีส์ชิงแชมป์” ประจำปีนี้ เมื่อ เลเกอร์ส ตกเป็นรอง เซลติกส์ ไป 0-2 เกม และเกมสองที่บอสตันเจ้าถิ่นได้ชู้ตลูกโทษถึ 38 ครั้งขณะที่ผู้มาเยือนมีโอกาสส่องเหน่งๆ แค่ 10 หน ซึ่งเรื่องนี้ ฟิล แจ็คสัน หัวหน้าโค้ชเลเกอร์ส ผู้ตามหาแหวนแชมป์วงที่ 10 ในฐานะโค้ชออกมาโวยเรื่องดังกล่าวแล้ว
ถ้าไม่มีอะไรผิดแผกไปจากพอทเรื่องเดิมมากนัก เลเกอร์ส คงครองแชมป์ประจำปี 2008 ด้วยการเก็บซีรีส์ 4-3 เกม เพื่อให้บทสวยหรูเป็นที่น่าจดจำ เลเกอร์ส จะกลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่คัมแบ็กจากเป็นรอง 0-2 เกมกลับมาคว้าแชมป์ประเทศ หลังจากที่เคยโดน เซลติกส์ อริสำคัญทำใส่พวกเขามาแล้วเมื่อซีซั่น 1968/69
นี่จึงเป็นคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบจาก “เดวิด สเติร์น” ประธานลีกเกี่ยวกับมาตรฐาน-ความมีจิตสำนึกของกรรมการ และถ้าฝากได้ก็อยากถามประเด็นคาใจที่ว่า “ลีกอยู่เบื้องหลัง” ในการหาทีมเข้ามาชิงแชมป์กันหรือไม่ เพราะถ้าปีนี้ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หลุดมาเจอกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ เรตติ้งการถ่ายทอดสด “รีแมตช์คู่ชิงปี 2005” คงเทียบไม่ได้กับการห้ำหั่นกันมายาวนานระหว่าง “เซลติกส์-เลเกอร์ส”
ยิ่งประมวลหลายเรื่องเข้าด้วยกันชักคล้อยตามแล้วว่า NBA มีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างที่ใครหลายคนเคยกระซิบบอกเอาไว้ เพราะปัจจุบันมันไม่ใช่เรื่องของผลการแข่งขันในเกมกีฬาเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว แต่มีผลประโยชน์ในเรื่องของธุรกิจและการพนันพัวพันมาทับซ้อนกันให้วุ่น
ในวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ ทอม โดนัคฮี กรรมการผู้อื้อฉาวแห่งศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) เตรียมก้าวขึ้นสู่ศาลเพื่อรับฟังคำพิพากษาจากคดีประพฤติมิชอบในหน้าที่ลักลอบเล่นการพนันและให้ข้อมูลการแข่งขันแก่บรรดานักเสี่ยงโชคเพื่อแลกกับเงินค่าตอบแทน ซึ่งโทษทัณฑ์สูงสุดที่เชิ้ตเทาวัย 41 ปีพึงได้รับคือการถูกสั่งจำคุกนานถึง 33 ปี
แต่นี่อาจไม่ใช่ผู้ตัดสินคนสุดท้ายที่ต้องรับผลกรรมเพราะดูเหมือนยังมีอีกไม่น้อยที่พัวพันคดีฉาวล็อกผลการแข่งขัน ด้วยความเป็น Worldwide ไม่แพ้วงการลูกหนังโลก บริษัทรับพนันอย่างถูกกฎหมายจึงมีการออกอัตราพนันขันต่อ NBA เพื่อล่อตาล่อใจพวกชอบเสี่ยงโชคให้มาเดิมพันแต้มต่อหรือสกอร์สูง-ต่ำในแต่ละเกม ทว่านับตั้งแต่ที่ ทิม โดนัคฮี โดนรวบเมื่อปีก่อนโทษฐานปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม นักลงทุนในบ่อนอาจต้องวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกเพิ่มเติมในส่วนของรายชื่อกรรมการที่ลงทำการตัดสินในเกมนั้นๆ ศึกษาหาประวัติกันให้ดีว่าเชียร์ทีมใดหมั่นไส้ใครเป็นพิเศษหรือเคยมีประวัติด่างพลอยหรือไม่ มิเช่นนั้นคุณอาจรู้เท่าไม่ทันเล่ห์การโกงกันเป็นขบวนการ
หลังจากโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจไต่สวนมาได้พักใหญ่ คำสารภาพต่างๆ ค่อยๆ หลุดมาจากปากของโจรกลับใจ (ไม่ทันเสียแล้ว) อย่างโดนัคฮี ล่าสุดมีรายงานว่ามีกรรมการอีก 2 รายทำการล็อกผลการแข่งขันเพลย์ออฟเมื่อปี 2002 จากพฤติกรรมที่ว่าผู้ตัดสินในวันนั้นต้องการเป่าฟาว์ลใส่ทีมสมมติเป็น “ทีม 5” เพื่อให้ “ทีม 6” ได้ชู้ตฟรีโทรล์เยอะๆ ก่อนพลิกกลับชนะเกมที่ 6 และก็ไปชนะซีรีส์ในเกมที่ 7 ต่อไป
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรสำหรับนักข่าวมะกันในการตามแกะรอยฉาวที่เกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน เพราะโพสต์ซีซั่น 2001/02 มีเพียงซีรีส์เดียวที่ต้องเล่นกันถึง 7 เกมนั่นก็คือ “เกมชิงแชมป์สายตะวันตก” ระหว่าง ซาคราเมนโต คิงส์ กับทีมมหาชนอย่าง แอลเอ เลเกอร์ส
โดย คิงส์ ถูกสมมติให้เป็น “ทีม 5” ซึ่งขึ้นนำซีรีส์ 3-2 เกม และก็ขึ้นนำ เลเกอร์ส อยู่ 56-51 คะแนนเมื่อจบครึ่งแรก แต่เชื่อหรือไม่ว่าควอเตอร์ 4 ควอเตอร์เดียว “ทีม 6” หรือถูกสมมติให้เป็น เลเกอร์ส ได้ชู้ตฟรีโทรล์ถึง 27 ครั้งลงไป 21 หน ขณะที่ทีมเยือนได้ชู้ตควอเตอร์นี้แค่ 9 ลงห่วง 7 ครั้ง มิหนำซ้ำยังมีการไล่ วลาดี ดิวาช กับ สกอต พอลลาร์ด ของคิงส์ออกจากสนามไปอีก ในที่สุด เลเกอร์ส กลับมาคว้าชัย 106-102 คะแนน จากนั้นก็บุกไปเล่นงาน คิงส์ ถึงถิ่น 112-106 คะแนน พลิกคว้าแชมป์กลุ่มเข้าไปถลุง นิวเจอร์ซีย์ เน็ตส์ ในเกมชิงแชมป์ประเทศ 4-0 เกม สมความประสงค์ของใครหรือกลุ่มคนกลุ่มใดในการผลักดันครั้งนี้
จากกลิ่นตุๆ ที่ออกมาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีคิวตระเวนเคาะประตูบ้าน ดิค บาเตตา, เท็ด เบิร์นฮาร์ดท์ และบ็อบ เดลานีย์ ทีมงานผู้ตัดสินในเกมดังกล่าวเพื่อสืบสาวราวเรื่องเอาว่า 2 ในสามคนนี้ใครกันมีส่วนได้ส่วนเสียกับการล็อกผลการแข่งขันในเพลย์ออฟปี 2002
อีกกรณีที่ถูกหยิบยกมาคุยกันคือเพลย์ออฟปี 2005 เมื่อ “ทีม 3” ซึ่งสื่อในสหรัฐฯ เชื่อว่าเป็น ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ที่ตกเป็นรอง ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ไปก่อน 0-2 เกม จนทำให้ มาร์ค คิวบาน เจ้าของทีมต้องออกมาโวยวายการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ก่อนที่ซีรีส์ดังกล่าวลงเอยด้วย “แมฟส์แมน” พลิกสถานการณ์กลับมาชนะในเกมที่ 7
จากทั้งสอง Case ที่เกิดขึ้นทำให้ฉุกคิดนำมาเทียบกับ “ซีรีส์ชิงแชมป์” ประจำปีนี้ เมื่อ เลเกอร์ส ตกเป็นรอง เซลติกส์ ไป 0-2 เกม และเกมสองที่บอสตันเจ้าถิ่นได้ชู้ตลูกโทษถึ 38 ครั้งขณะที่ผู้มาเยือนมีโอกาสส่องเหน่งๆ แค่ 10 หน ซึ่งเรื่องนี้ ฟิล แจ็คสัน หัวหน้าโค้ชเลเกอร์ส ผู้ตามหาแหวนแชมป์วงที่ 10 ในฐานะโค้ชออกมาโวยเรื่องดังกล่าวแล้ว
ถ้าไม่มีอะไรผิดแผกไปจากพอทเรื่องเดิมมากนัก เลเกอร์ส คงครองแชมป์ประจำปี 2008 ด้วยการเก็บซีรีส์ 4-3 เกม เพื่อให้บทสวยหรูเป็นที่น่าจดจำ เลเกอร์ส จะกลายเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่คัมแบ็กจากเป็นรอง 0-2 เกมกลับมาคว้าแชมป์ประเทศ หลังจากที่เคยโดน เซลติกส์ อริสำคัญทำใส่พวกเขามาแล้วเมื่อซีซั่น 1968/69
นี่จึงเป็นคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบจาก “เดวิด สเติร์น” ประธานลีกเกี่ยวกับมาตรฐาน-ความมีจิตสำนึกของกรรมการ และถ้าฝากได้ก็อยากถามประเด็นคาใจที่ว่า “ลีกอยู่เบื้องหลัง” ในการหาทีมเข้ามาชิงแชมป์กันหรือไม่ เพราะถ้าปีนี้ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส หลุดมาเจอกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ เรตติ้งการถ่ายทอดสด “รีแมตช์คู่ชิงปี 2005” คงเทียบไม่ได้กับการห้ำหั่นกันมายาวนานระหว่าง “เซลติกส์-เลเกอร์ส”
ยิ่งประมวลหลายเรื่องเข้าด้วยกันชักคล้อยตามแล้วว่า NBA มีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างที่ใครหลายคนเคยกระซิบบอกเอาไว้ เพราะปัจจุบันมันไม่ใช่เรื่องของผลการแข่งขันในเกมกีฬาเพียงอย่างเดียวเสียแล้ว แต่มีผลประโยชน์ในเรื่องของธุรกิจและการพนันพัวพันมาทับซ้อนกันให้วุ่น