คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟรอบชิงแชมป์สายทั้งตะวันออก-ตะวันตกกำลังสนุกสูสี แต่ด้วยการเบียดกันยังไม่รู้ออกหมู่หรือจ่า ซีรีส์ระหว่าง ดีทรอยต์ พิสตันส์-บอสตัน เซลติกส์ รวมถึง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส-แอลเอ เลเกอร์ส อาจต้องใช้เกมฎีกาตัดสินกัน ดังนั้นวันนี้พอมีเวลาขออนุญาตโยกจากสนามในร่มเหยียบผืนหญ้าสู่สังเวียนลูกหนัง
แม้ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ยังไม่สามารถแทรกตัวเองขึ้นสู่หน้าหลักตามเว็บไซต์กีฬาต่างๆ ของชาวอเมริกัน ทว่าดูเหมือนความสนใจในกีฬาลูกกลมๆ มีเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์นักเตะทีมชาติอังกฤษเก็บกระเป๋ามาค้าแข้งกับ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี เมื่อฤดูกาลก่อน อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง MLS ก็ยังได้รับความนิยมจากคอมะกันน้อยกว่า เมเจอร์ลีก เบสบอล (MLB), NBA, อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่ยังอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล หรือแม้แต่ ฮ็อกกี้น้ำแข็ง NHL ซึ่งกำลังชิงแชมป์ “สแตนลีย์ คัพ” กันอยู่ระหว่าง ดีทรอยต์ เรดวิงส์ กับ พิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์
อย่างไรก็ดี ช่วงสัปดาห์นี้มีชาวเมืองลุงแซมอยู่ไม่น้อยที่หันมาสนใจในเกมลูกหนังมากขึ้น สืบเนื่องจากคืนวันพุธนี้ “พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา อดีตเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1994 มีคิวบินไปอุ่นเครื่องกับ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ต้นตำรับแห่งวงการฟุตบอลที่สนามเวมบลีย์ ในมหานครลอนดอน และเดวิด เบ็คแฮม ก็ช่วยพรีวิวให้แมตช์ดังกล่าวมีสีสันมากขึ้นด้วยการซัลโวจากระยะ 70 หลาส่งลูกหนังลอยข้ามหัวผู้เล่น แคนซัส ซิตี วิซาร์ดส ช่วยให้ แอลเอ แกแล็กซี คว้าชัย 3-1 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมถีบตัวเองขึ้นเก้าอี้จ่าฝูงฝั่งตะวันตก
หากยังจำกันได้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “เบ็คส์” มิดฟิลด์จอมวางบอลส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายในลักษณะดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน เด็กหนุ่มหน้าใสหัวใจ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดจากครึ่งสนามข้ามหัว นีล ซัลลิแวน นายทวารวิมเบิลดัน พร้อมแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ติดตาตรึงใจ ฝีเท้าอันยอดเยี่ยมจากบทพิสูจน์ให้เห็นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และรีล มาดริด เบ็คแฮม ถือเป็นทูตลูกหนังชั้นดีที่ MLS ดึงมาปลุกกระแสซอคเกอร์อีกครั้ง ซึ่งถ้า ฟาบิโอ คาเปลโล นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษรู้คิวหน่อย เบ็คส์ ไม่แคล้วลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมทำศึกกับสหรัฐฯ
พูดถึงเกมดังกล่าวมีนักเตะมะกันที่ค้าแข้งในลีกผู้ดีถึง 8 ชีวิต ทิม ฮาวเวิร์ด (เอฟเวอร์ตัน) คาร์ลอส โบคาเนกรา, คลินซ์ เดมซีย์, เอ็ดดี จอห์นสัน สามประสานของฟูแลม รวมถึง โจนาธาน สเป็คเตอร์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) หรือว่า เอ็ดดี ลูอิส (ดาร์บี เคาน์ตี) เชื่อว่าคุ้นกันดีสำหรับคอพรีเมียร์ลีก และอีกไม่ช้าไม่นานชื่อของ เฟรดดี อาดู (เบนฟิกา) และไมเคิล แบรดลีย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ ฮีเรนวีน มีโอกาสประกาศก้องในลีกลูกหนังซึ่งมีมูลค่ามหาศาลที่สุดของโลก เมื่อทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และเอฟเวอร์ตัน ยังเทียวส่งแมวมองเดินทางไปกลับอังกฤษ-โปรตุเกส / อังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ อยู่เนืองๆ
ในทางกลับกันบุคลากรที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกมีโอกาสเจริญรอยตาม สตีฟ นิโคล ตำนานแบ็กซ้ายเท้าหนัก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันคุมบังเหียน นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชันส์, รุด กุลลิท “หัวงูเก็งก็อง” ผู้เล่น / ผู้จัดการทีม “สิงห์บลูส์” เชลซี ซึ่งมานั่งแท่นหัวหน้าโค้ชแกแล็กซี , แดนนี ดิคิโอ อดีตศูนย์หน้า “ทหารเสือราชินี” ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส, โรฮัน ริกเกตต์ส ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่ง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หรือว่าจะเป็น อาเบล ซาเวียร์ กองหลังเจ้าของฉายาฤาษีที่เปลี่ยนรสนิยมจากเงินปอนด์มาโกยเงินดอลลาร์ได้พักใหญ่แล้ว
ส่วนรูปแบบการเล่นความเป็นไปของเกมการแข่งขันคอบอลคงได้สัมผัสอรรถรสกันไปแล้ว แต่ไม่ว่าผลของแมตช์กระชับมิตรระหว่าง อังกฤษ กับ สหรัฐฯ ปรากฏโฉมออกมาในรูปแบบใด ทั้งสองประเทศก็ยังคงเกี่ยวก้อยทำธุรกิจ (กีฬา) กันต่อไปไม่ว่าในภาคส่วนของพรีเมียร์ชิป, เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ หรือแม้แต่ลีกคนชนคน NFL ที่ตอนนี้รุกคืบสู่ผืนแผ่นดินผู้ดีอย่างเต็มตัว
ศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟรอบชิงแชมป์สายทั้งตะวันออก-ตะวันตกกำลังสนุกสูสี แต่ด้วยการเบียดกันยังไม่รู้ออกหมู่หรือจ่า ซีรีส์ระหว่าง ดีทรอยต์ พิสตันส์-บอสตัน เซลติกส์ รวมถึง ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส-แอลเอ เลเกอร์ส อาจต้องใช้เกมฎีกาตัดสินกัน ดังนั้นวันนี้พอมีเวลาขออนุญาตโยกจากสนามในร่มเหยียบผืนหญ้าสู่สังเวียนลูกหนัง
แม้ เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ (MLS) ยังไม่สามารถแทรกตัวเองขึ้นสู่หน้าหลักตามเว็บไซต์กีฬาต่างๆ ของชาวอเมริกัน ทว่าดูเหมือนความสนใจในกีฬาลูกกลมๆ มีเพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่ เดวิด เบ็คแฮม ซูเปอร์สตาร์นักเตะทีมชาติอังกฤษเก็บกระเป๋ามาค้าแข้งกับ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี เมื่อฤดูกาลก่อน อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งความเป็นจริง MLS ก็ยังได้รับความนิยมจากคอมะกันน้อยกว่า เมเจอร์ลีก เบสบอล (MLB), NBA, อเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ที่ยังอยู่ในช่วงปิดฤดูกาล หรือแม้แต่ ฮ็อกกี้น้ำแข็ง NHL ซึ่งกำลังชิงแชมป์ “สแตนลีย์ คัพ” กันอยู่ระหว่าง ดีทรอยต์ เรดวิงส์ กับ พิตต์สเบิร์ก เพนกวินส์
อย่างไรก็ดี ช่วงสัปดาห์นี้มีชาวเมืองลุงแซมอยู่ไม่น้อยที่หันมาสนใจในเกมลูกหนังมากขึ้น สืบเนื่องจากคืนวันพุธนี้ “พญาอินทรี” สหรัฐอเมริกา อดีตเจ้าภาพฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายปี 1994 มีคิวบินไปอุ่นเครื่องกับ “สิงโตคำราม” ทีมชาติอังกฤษ ต้นตำรับแห่งวงการฟุตบอลที่สนามเวมบลีย์ ในมหานครลอนดอน และเดวิด เบ็คแฮม ก็ช่วยพรีวิวให้แมตช์ดังกล่าวมีสีสันมากขึ้นด้วยการซัลโวจากระยะ 70 หลาส่งลูกหนังลอยข้ามหัวผู้เล่น แคนซัส ซิตี วิซาร์ดส ช่วยให้ แอลเอ แกแล็กซี คว้าชัย 3-1 สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพร้อมถีบตัวเองขึ้นเก้าอี้จ่าฝูงฝั่งตะวันตก
หากยังจำกันได้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “เบ็คส์” มิดฟิลด์จอมวางบอลส่งลูกหนังซุกก้นตาข่ายในลักษณะดังกล่าว ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีก่อน เด็กหนุ่มหน้าใสหัวใจ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซัดจากครึ่งสนามข้ามหัว นีล ซัลลิแวน นายทวารวิมเบิลดัน พร้อมแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวจนถึงทุกวันนี้ ด้วยภาพลักษณ์ที่ติดตาตรึงใจ ฝีเท้าอันยอดเยี่ยมจากบทพิสูจน์ให้เห็นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และรีล มาดริด เบ็คแฮม ถือเป็นทูตลูกหนังชั้นดีที่ MLS ดึงมาปลุกกระแสซอคเกอร์อีกครั้ง ซึ่งถ้า ฟาบิโอ คาเปลโล นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษรู้คิวหน่อย เบ็คส์ ไม่แคล้วลงสนามเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมทำศึกกับสหรัฐฯ
พูดถึงเกมดังกล่าวมีนักเตะมะกันที่ค้าแข้งในลีกผู้ดีถึง 8 ชีวิต ทิม ฮาวเวิร์ด (เอฟเวอร์ตัน) คาร์ลอส โบคาเนกรา, คลินซ์ เดมซีย์, เอ็ดดี จอห์นสัน สามประสานของฟูแลม รวมถึง โจนาธาน สเป็คเตอร์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด) หรือว่า เอ็ดดี ลูอิส (ดาร์บี เคาน์ตี) เชื่อว่าคุ้นกันดีสำหรับคอพรีเมียร์ลีก และอีกไม่ช้าไม่นานชื่อของ เฟรดดี อาดู (เบนฟิกา) และไมเคิล แบรดลีย์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งของ ฮีเรนวีน มีโอกาสประกาศก้องในลีกลูกหนังซึ่งมีมูลค่ามหาศาลที่สุดของโลก เมื่อทั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี และเอฟเวอร์ตัน ยังเทียวส่งแมวมองเดินทางไปกลับอังกฤษ-โปรตุเกส / อังกฤษ-เนเธอร์แลนด์ อยู่เนืองๆ
ในทางกลับกันบุคลากรที่เคยค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกมีโอกาสเจริญรอยตาม สตีฟ นิโคล ตำนานแบ็กซ้ายเท้าหนัก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ปัจจุบันคุมบังเหียน นิวอิงแลนด์ เรฟโวลูชันส์, รุด กุลลิท “หัวงูเก็งก็อง” ผู้เล่น / ผู้จัดการทีม “สิงห์บลูส์” เชลซี ซึ่งมานั่งแท่นหัวหน้าโค้ชแกแล็กซี , แดนนี ดิคิโอ อดีตศูนย์หน้า “ทหารเสือราชินี” ควีนปาร์ค เรนเจอร์ส, โรฮัน ริกเกตต์ส ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่ง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หรือว่าจะเป็น อาเบล ซาเวียร์ กองหลังเจ้าของฉายาฤาษีที่เปลี่ยนรสนิยมจากเงินปอนด์มาโกยเงินดอลลาร์ได้พักใหญ่แล้ว
ส่วนรูปแบบการเล่นความเป็นไปของเกมการแข่งขันคอบอลคงได้สัมผัสอรรถรสกันไปแล้ว แต่ไม่ว่าผลของแมตช์กระชับมิตรระหว่าง อังกฤษ กับ สหรัฐฯ ปรากฏโฉมออกมาในรูปแบบใด ทั้งสองประเทศก็ยังคงเกี่ยวก้อยทำธุรกิจ (กีฬา) กันต่อไปไม่ว่าในภาคส่วนของพรีเมียร์ชิป, เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ หรือแม้แต่ลีกคนชนคน NFL ที่ตอนนี้รุกคืบสู่ผืนแผ่นดินผู้ดีอย่างเต็มตัว