คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
ผ่านหกเดือนอันแสนสาหัสในฤดูกาลปกติ (82 เกม) กับอีกหนึ่งเดือนหฤโหดของเพลย์ออฟ ที่สุดแล้วตอนนี้เหลือเพียง 4 ทีมที่จะเข้าไปแย่งชิงการเป็นตัวแทนฝั่งตะวันออก-ตะวันตก ก่อนประลองความแม่นในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ซีรีส์ชิงชนะเลิศกันในเดือนหน้า
ตั้งแต่เกมแรกของโพสต์ซีซั่นมาจนจบรอบแรกไม่ปรากฏการพลิกล็อกขึ้นแต่อย่างใด เมื่อทีมที่มีสถิติดีกว่าในอันดับ 1-4 สามารถผ่านด่านทีมอันดับที่ 5-8 เข้ารอบกันถ้วนหน้า แต่ฝั่งตะวันออก บอสตัน เซลติกส์ ที่ใครต่อใครยกให้เป็นเต็งแชมป์ประจำฤดูกาล 2007/08 โชว์ฟอร์มไม่สมราคาเอาเสียเลยกว่าจะเขี่ย “เหยี่ยวน้อย” แอตแลนตา ฮอว์คส ทีมที่แพ้มากกว่าชนะในฤดูกาลปกติตกขอบไปต้องให้แฟนๆ ลุ้นเหนื่อยถึงเกม 7
ในส่วนของฝั่งตะวันตก ยูทาห์ แจซซ์ (อันดับ 4) ไม่ถือว่าพลิกในการเล่นงาน ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ (อันดับ 5) แม้ต้องเล่นเกมเยือนมากกว่าจากการมีสถิติในเรคกูลา ซีซั่น ที่ด้อยกว่า แต่การขาดหายไปของ เหยา หมิง เซ็นเตอร์ทีมชาติจีนทำให้ “จรวด” ได้แค่พวยพุ่งขึ้นมาลุ้นก่อนตกลงเมื่อยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ตัดมาในรอบที่สองฝั่งตะวันออกยังดำเนินไปตามครรลองเมื่อทีมที่เหนือกว่าอย่าง บอสตัน เซลติกส์ และดีทรอยต์ พิสตันส์ เข้าไปประจันหน้ากันในเกมชิงแชมป์สาย แต่ฝ่ายแรกอาการยังคงน่าเป็นห่วง แม้มี “บิ๊กทรี” เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ และเรย์ อัลเลน เป็นตัวชูโรง แต่กว่าจะบดเอาชนะ “เดอะ สเปเชียล วัน” เลอบรอน เจมส์ และคลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ไปได้ต้องเล่นเกมที่ 7 (อีกแล้ว) และเซลติกส์ ก็มามุกเดิมคือชนะนอกบ้านไม่เป็น ซึ่งมันไม่เป็นผลดีแน่เนื่องจากยิ่งเล่นไปเจอกับทีมที่เก่งขึ้น ความกดดันจะตกอยู่กับเจ้าถิ่นเสียเอง
แม้ได้สิทธิการเล่นในบ้านเหนือคู่แข่งตลอดเพลย์ออฟ (Home Field Advantage) หลังทำผลงานที่สุดในฤดูกาลปกติ ชนะถึง 66 แพ้แค่ 16 เกม ทว่าดูทรงแล้ว เซลติกส์ ยิ่งเล่นยิ่งทำให้คำเยินยอต่างๆ ลดน้อยถอยลงไป ถ้าลูกทีมของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส กรุยทางขึ้นไปเป็นแชมป์จริงๆ โดยไม่ชนะนอกบ้านเลยสักเกมเดียว ประวัติศาสตร์คงต้องจารึกเอาไว้ แต่ให้ฝันถึงวันนั้นต้องเลี้ยวหลังมามองโลกแห่งความเป็นจริง ณ วันนี้เสียก่อน เมื่อ ดีทรอยต์ พิสตันส์ กระดูกขัดมันซึ่งผ่าน ออร์แลนโด เมจิก เข้าชิงแชมป์สายเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันยืนรออยู่
ถ้าถามว่าคู่นี้ผมเชียร์ใคร ก็ขอบอกตามตรงว่า “บอสตัน เซลติกส์” การห่างหายจากแชมป์ไปนานกว่า 20 ปี (ครั้งสุดท้ายปี 1986 ในยุคของ “บิ๊กทรี” ลาร์รี เบิร์ด, เควิน แม็คเฮล, โรเบิร์ต แพริช) ทำให้ผมแอบส่งใจเชียร์อยู่เล็กๆ อีกทั้งยอมรับตามตรงว่าเบื่อสไตล์การเล่นของ พิสตันส์ เต็มแก่ แต่ก็ยอมรับในฝีไม้ลายมือของ “Fantastic 4” การเล่นด้วยกันมานานเรียกว่ามองตาก็รู้ใจของ ริป แฮมิลตัน, เทรชอน ปรินซ์, ราชีด วอลเลซ และชอนซีย์ บิลล์อัพส์ ทำให้อดห่วงไม่ได้จริงๆ สำหรับ “บิ๊กทรี” ความหวังใหม่ของ เซลติกส์ ที่เพิ่งรวมตัวกันไม่นาน
ไปดูทางฝั่งตะวันตกกันบ้าง ใจละลายไปเหมือนกันเมื่อทีมที่แอบเชียร์อย่างจริงจังในเพลย์ออฟอย่าง นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ มาบ้อท่าแพ้ความเก๋าของ “แชมป์เก่า” ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส คาบ้านในเกมที่ 7 ทั้งๆ ที่ตามทรงและสถิติที่เจอกันมาที่บ้านเป็น ฮอร์เนตส์ กระหน่ำชนะไปขาดลอยทุกคราไปในปีนี้ แต่ให้ทีมเก๋าอย่าง สเปอร์ส ยื้อมาได้ถึงเกมตัดสิน ให้หัวหน้าโค้ชจอมแท็คติกอย่าง เกร็ก โพโพวิช ได้ศึกษาเกมมากขึ้น CP3 คริส พอล ก็โดนจับทางได้เหมือนกัน ขณะที่สภาพร่างกายที่ไม่ดีนักทำให้ เดวิด เวสต์ ช่วยทีมได้ไม่มากพอ
ด่านต่อไปของ สเปอร์ส คือการพบกับ แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งกำลังห้าวจัด โคบี ไบรอันท์ ได้อาวุธครบมือเข้ามาเสริมทั้ง ดีเร็ค ฟิชเชอร์, พาว กาซอล ประกอบกับคู่หูเก่าอย่าง ลามาร์ โอดอม ทำให้ซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันตกน่าติดตามถึงหยดสุดท้าย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบ้านเราจะได้ดูเกมถ่ายทอดสดมันๆ แบบนี้สักกี่เกม
สำหรับ เอ็นบีเอ Final Four ปีนี้พูดถึงชื่อชั้นแล้วทุกทีมคู่ควรกับการเป็นแชมป์ทั้งนั้น แต่ถ้าถามใจคอยัดห่วงเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนอยากเห็นเกมชิงแชมป์ประเทศระหว่าง เซลติกส์ และเลเกอร์ส ที่คว้าแชมป์รวมกันมากที่สุด (30 สมัย) แต่ถ้า “บิ๊กทรี” ของเซลติกส์ กระโดดเข้าไปลุ้นแชมป์กับ “บิ๊กทรี” สเปอร์ส ที่ประกอบด้วย ทิม ดันแคน, โทนี พาร์เกอร์, มานู จิโนบิลี ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าเป็นรีแมตช์เมื่อสามปีก่อน พิสตันส์ จ้ะเอ๋กับ สเปอร์ส ก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกันครับ
ผ่านหกเดือนอันแสนสาหัสในฤดูกาลปกติ (82 เกม) กับอีกหนึ่งเดือนหฤโหดของเพลย์ออฟ ที่สุดแล้วตอนนี้เหลือเพียง 4 ทีมที่จะเข้าไปแย่งชิงการเป็นตัวแทนฝั่งตะวันออก-ตะวันตก ก่อนประลองความแม่นในศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ซีรีส์ชิงชนะเลิศกันในเดือนหน้า
ตั้งแต่เกมแรกของโพสต์ซีซั่นมาจนจบรอบแรกไม่ปรากฏการพลิกล็อกขึ้นแต่อย่างใด เมื่อทีมที่มีสถิติดีกว่าในอันดับ 1-4 สามารถผ่านด่านทีมอันดับที่ 5-8 เข้ารอบกันถ้วนหน้า แต่ฝั่งตะวันออก บอสตัน เซลติกส์ ที่ใครต่อใครยกให้เป็นเต็งแชมป์ประจำฤดูกาล 2007/08 โชว์ฟอร์มไม่สมราคาเอาเสียเลยกว่าจะเขี่ย “เหยี่ยวน้อย” แอตแลนตา ฮอว์คส ทีมที่แพ้มากกว่าชนะในฤดูกาลปกติตกขอบไปต้องให้แฟนๆ ลุ้นเหนื่อยถึงเกม 7
ในส่วนของฝั่งตะวันตก ยูทาห์ แจซซ์ (อันดับ 4) ไม่ถือว่าพลิกในการเล่นงาน ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ (อันดับ 5) แม้ต้องเล่นเกมเยือนมากกว่าจากการมีสถิติในเรคกูลา ซีซั่น ที่ด้อยกว่า แต่การขาดหายไปของ เหยา หมิง เซ็นเตอร์ทีมชาติจีนทำให้ “จรวด” ได้แค่พวยพุ่งขึ้นมาลุ้นก่อนตกลงเมื่อยังไม่ถึงจุดสูงสุด
ตัดมาในรอบที่สองฝั่งตะวันออกยังดำเนินไปตามครรลองเมื่อทีมที่เหนือกว่าอย่าง บอสตัน เซลติกส์ และดีทรอยต์ พิสตันส์ เข้าไปประจันหน้ากันในเกมชิงแชมป์สาย แต่ฝ่ายแรกอาการยังคงน่าเป็นห่วง แม้มี “บิ๊กทรี” เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ และเรย์ อัลเลน เป็นตัวชูโรง แต่กว่าจะบดเอาชนะ “เดอะ สเปเชียล วัน” เลอบรอน เจมส์ และคลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ไปได้ต้องเล่นเกมที่ 7 (อีกแล้ว) และเซลติกส์ ก็มามุกเดิมคือชนะนอกบ้านไม่เป็น ซึ่งมันไม่เป็นผลดีแน่เนื่องจากยิ่งเล่นไปเจอกับทีมที่เก่งขึ้น ความกดดันจะตกอยู่กับเจ้าถิ่นเสียเอง
แม้ได้สิทธิการเล่นในบ้านเหนือคู่แข่งตลอดเพลย์ออฟ (Home Field Advantage) หลังทำผลงานที่สุดในฤดูกาลปกติ ชนะถึง 66 แพ้แค่ 16 เกม ทว่าดูทรงแล้ว เซลติกส์ ยิ่งเล่นยิ่งทำให้คำเยินยอต่างๆ ลดน้อยถอยลงไป ถ้าลูกทีมของ ด็อกซ์ ริเวอร์ส กรุยทางขึ้นไปเป็นแชมป์จริงๆ โดยไม่ชนะนอกบ้านเลยสักเกมเดียว ประวัติศาสตร์คงต้องจารึกเอาไว้ แต่ให้ฝันถึงวันนั้นต้องเลี้ยวหลังมามองโลกแห่งความเป็นจริง ณ วันนี้เสียก่อน เมื่อ ดีทรอยต์ พิสตันส์ กระดูกขัดมันซึ่งผ่าน ออร์แลนโด เมจิก เข้าชิงแชมป์สายเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันยืนรออยู่
ถ้าถามว่าคู่นี้ผมเชียร์ใคร ก็ขอบอกตามตรงว่า “บอสตัน เซลติกส์” การห่างหายจากแชมป์ไปนานกว่า 20 ปี (ครั้งสุดท้ายปี 1986 ในยุคของ “บิ๊กทรี” ลาร์รี เบิร์ด, เควิน แม็คเฮล, โรเบิร์ต แพริช) ทำให้ผมแอบส่งใจเชียร์อยู่เล็กๆ อีกทั้งยอมรับตามตรงว่าเบื่อสไตล์การเล่นของ พิสตันส์ เต็มแก่ แต่ก็ยอมรับในฝีไม้ลายมือของ “Fantastic 4” การเล่นด้วยกันมานานเรียกว่ามองตาก็รู้ใจของ ริป แฮมิลตัน, เทรชอน ปรินซ์, ราชีด วอลเลซ และชอนซีย์ บิลล์อัพส์ ทำให้อดห่วงไม่ได้จริงๆ สำหรับ “บิ๊กทรี” ความหวังใหม่ของ เซลติกส์ ที่เพิ่งรวมตัวกันไม่นาน
ไปดูทางฝั่งตะวันตกกันบ้าง ใจละลายไปเหมือนกันเมื่อทีมที่แอบเชียร์อย่างจริงจังในเพลย์ออฟอย่าง นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ มาบ้อท่าแพ้ความเก๋าของ “แชมป์เก่า” ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส คาบ้านในเกมที่ 7 ทั้งๆ ที่ตามทรงและสถิติที่เจอกันมาที่บ้านเป็น ฮอร์เนตส์ กระหน่ำชนะไปขาดลอยทุกคราไปในปีนี้ แต่ให้ทีมเก๋าอย่าง สเปอร์ส ยื้อมาได้ถึงเกมตัดสิน ให้หัวหน้าโค้ชจอมแท็คติกอย่าง เกร็ก โพโพวิช ได้ศึกษาเกมมากขึ้น CP3 คริส พอล ก็โดนจับทางได้เหมือนกัน ขณะที่สภาพร่างกายที่ไม่ดีนักทำให้ เดวิด เวสต์ ช่วยทีมได้ไม่มากพอ
ด่านต่อไปของ สเปอร์ส คือการพบกับ แอลเอ เลเกอร์ส ซึ่งกำลังห้าวจัด โคบี ไบรอันท์ ได้อาวุธครบมือเข้ามาเสริมทั้ง ดีเร็ค ฟิชเชอร์, พาว กาซอล ประกอบกับคู่หูเก่าอย่าง ลามาร์ โอดอม ทำให้ซีรีส์ชิงแชมป์สายตะวันตกน่าติดตามถึงหยดสุดท้าย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าบ้านเราจะได้ดูเกมถ่ายทอดสดมันๆ แบบนี้สักกี่เกม
สำหรับ เอ็นบีเอ Final Four ปีนี้พูดถึงชื่อชั้นแล้วทุกทีมคู่ควรกับการเป็นแชมป์ทั้งนั้น แต่ถ้าถามใจคอยัดห่วงเชื่อเหลือเกินว่าหลายคนอยากเห็นเกมชิงแชมป์ประเทศระหว่าง เซลติกส์ และเลเกอร์ส ที่คว้าแชมป์รวมกันมากที่สุด (30 สมัย) แต่ถ้า “บิ๊กทรี” ของเซลติกส์ กระโดดเข้าไปลุ้นแชมป์กับ “บิ๊กทรี” สเปอร์ส ที่ประกอบด้วย ทิม ดันแคน, โทนี พาร์เกอร์, มานู จิโนบิลี ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าเป็นรีแมตช์เมื่อสามปีก่อน พิสตันส์ จ้ะเอ๋กับ สเปอร์ส ก็ตัวใครตัวมันก็แล้วกันครับ