ประชัน ‘บิ๊กทรี’ เอ็นบีเอเพลย์ออฟ

ยังไม่มีเหตุการณ์พลิกล็อกเกิดขึ้นสำหรับศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟประจำฤดูกาล 2007/08 เมื่อ “ท็อปโฟร์” ของทั้งฝั่งตะวันออก-ตะวันตกต่างกรุยทางเข้ามาเล่นในรอบสองได้ทั้งหมด การปะทะฝีมือกันของบรรดายอดผู้เล่นกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นและการดวลกันระหว่าง “บิ๊กทรี” ของแต่ละทีมก็ได้รับการจับตามองมากขึ้นทุกขณะ

( 4) คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส - บอสตัน เซลติกส์ (1)

นับตั้งแต่ยุค แลร์รี เบิร์ด, เควิน แม็คเฮล และโรเบิร์ต แพริช บอสตัน เซลติกส์ ต้องรอร่วม 20 ปีกว่า “บิ๊กทรี” รุ่นที่สองจะมารวมตัวกันได้ เควิน การ์เนตต์, พอล เพียร์ซ และเรย์ อัลเลน ได้รับการยกย่องว่าเป็นสามประสานที่ลงตัวมากที่สุดทั้งฝีมือและประสบการณ์ของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ชัยชนะในฤดูกาลปกติถึง 66 เกม (จากทั้งหมด 82 เกม) อาจเป็นภาพลวงตาหากทีมไปไม่ถึงการลุ้นแชมป์สมัยที่ 17 ในประวัติศาสตร์

สำหรับ คลีฟแลนด์ แคฟวาเลียร์ส ปัจจุบันกลายเป็นทีมชั้นนำของฝั่งตะวันออกไปแล้ว ต้องยกเครดิตให้พรสวรรค์อันสูงส่งของ เลอบรอน เจมส์ แต่ “เดอะ สเปเชียล วัน” คนเดียวคงนำแชมป์มาสู่เฟรนไชส์ไม่ได้ ทีมจึงต้องหากำลังเสริมเทรดเอา เบน วอลเลซ มาเสริมหลังบ้านให้แน่น ซีดรูนาส อิเกาส์คาส ดุดันมากขึ้นในเกมใต้แป้น ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องให้เวลากับ “บิ๊กทรี” กลุ่มนี้ในการประสานงานกันให้ลงตัวกว่าที่เป็นอยู่

(3) ออร์แลนโด เมจิก - ดีทรอยต์ พิสตันส์ (2)

ในแต่ละฤดูกาล ออร์แลนโด เมจิก มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องจนสามารถพาตัวเองเข้ารอบเพลย์ออฟในฐานะแชมป์เซาธ์อีสต์ ดิวิชั่น ความยอดเยี่ยมตรงนี้ต้องยกความดีความชอบให้ ดไวท์ ฮาวเวิร์ด ผู้เล่นซึ่งกำลังจะชี้อนาคตของเฟรนไชส์ อย่างไรก็ตาม Mr.20-20 (ทำคะแนนและรีบาวด์หลัก 20 ขึ้นไป) จำเป็นต้องมีตัวช่วยและเผอิญว่า เฮโด เทอร์โกกลู ผุดฟอร์มขึ้นมาจนได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นพัฒนาฝีมือยอดเยี่ยมแห่งปี 2008 ราชาร์ด ลูอิส แม้ยังไม่โดดเด่นเมื่อเทียบกับเม็ดเงินมหาศาลที่ทีมทุ่มลงไป แต่ “บิ๊กทรี” ของเมจิกมีตอนต่อไปให้ติดตาม

ด้านของ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ไม่ใช่ทีมที่หวือหวาแต่มากด้วยประสบการณ์การลุ้นแชมป์ นี่เป็นทีมซึ่งอาจมีมากกว่า “บิ๊กทรี” ด้วยซ้ำ การเล่นด้วยกันมานานจนเข้าขาของ ริชาร์ด แฮมิลตัน, ชอนซีย์ บิลล์อัพส์, เทรชอน ปรินซ์ และราชีด วอลเลซ เรียกว่ามองตาก็รู้ใจ “Fantastic 4” มีลุ้นเข้าสู่เกมชิงแชมป์สายสมัยที่ 6 ติดต่อกัน และถ้าหลุดไปถึงจุดนั้นลูกทีมของ ฟลิป ซอนเดอร์ส คงไม่ต้องการผิดหวังสามปีซ้อน

(4) ยูทาห์ แจซซ์ - แอลเอ เลเกอร์ส (1)

หากจำกันได้ครั้งหนึ่ง ยูทาห์ แจซซ์ เคยมี “บิ๊กทรี” ซึ่งได้รับการยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของลีก แต่ทั้ง คาร์ล มาโลน, จอห์น สตอคตัน และเจฟฟ์ ฮอร์นาเซค ไม่มีวาสนาขึ้นไปสัมผัสแชมป์เอ็นบีเอ เนื่องจากดันไปเกิดในยุคของ “กระทิงเปลี่ยว” ชิคาโก บูลส์ ที่ประกอบไปด้วย ไมเคิล จอร์แดน, สกอตตี พิพเพน และโทนี กูโคช อย่างไรก็ดี ณ วันนี้แฟนๆ ชาวเมืองยังมีหวังจาก เดอรอน วิลเลียมส์, เมห์เมต โอคัว และคาร์ลอส บูเซอร์ สามประสานสายเลือดใหม่ที่ได้ลองสัมผัสเกมชิงแชมป์สายตะวันตกมาแล้วเมื่อปีก่อน แม้จะจบลงด้วยความผิดหวังพ่ายให้ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส แบบหมดรูปก็ตาม

ส่วน แอลเอ เลเกอร์ส การปล่อยวางความเห็นแก่ตัวของ โคบี ไบรอันท์ ทำให้ “บิ๊กทรี” ซึ่งเติมเต็มด้วย พาว กาซอล และดีเรค ฟิชเชอร์ ทรงประสิทธิภาพมากขึ้น การกลับมาอีกครั้งของ ฟิชเชอร์ ทำให้อดีตแชมป์สามสมัยติดต่อกัน (ระหว่างปี 2000-02) ครองบอลและจ่ายบอลกันได้เฉียบขาดมากขึ้น แต่จิ๊กซอว์ที่ผู้สันทัดกรณีเชื่อว่าจะส่ง เลเกอร์ส กลับสู่บัลลังก์แชมป์คือการเทรด กาซอล เซ็นเตอร์จอมแกร่งทีมชาติสเปนมาช่วยเก็บกวาดลูกใต้แป้น

(3) ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส - นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ (2)

หมดยุค “ทวิน ทาวเวอร์” เดวิด โรบินสัน และทิม ดันแคน ทว่าแชมป์ของ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส ไม่ได้ลดน้อยลงไปตรงกันข้ามกลับเพิ่มขึ้นเรียกว่าฉลองกันแบบปีเว้นปี (2003, 2005, 2007) นโยบายการดึงนักบาสฯ นำเข้าฝีมือเยี่ยมจากยุโรปและอเมริกาใต้สัมฤทธิ์ผลเกินคาด โทนี พาร์เกอร์ และมานู จิโนบิลี สอดประสานกับ ดันแคน ได้อย่างลงตัว ตั้งแต่เปลี่ยนสหัสวรรษใหม่คงไม่มี “บิ๊กทรี” กลุ่มไหนได้รับเครดิตไปมากกว่านี้แล้ว

อย่างไรก็ตาม “แชมป์เก่า” กำลังโดนท้าทายจาก “บิ๊กทรี” สายเลือดใหม่ของ นิวออร์ลีนส์ ฮอร์เนตส์ เมื่อ “CP3” คริส พอล ควงคู่ เดวิด เวสต์ โชว์ฟอร์มสมราคาผู้เล่นระดับทีมรวมดารา (ออล-สตาร์) ประกอบกับมี เพยา สโตยาโควิช จอมเก๋าคอยส่องสามแต้มอย่างแม่นยำ แม้อาจเร็วเกินไปสำหรับการพูดถึงตำแหน่งแชมป์ในปีนี้ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ทำให้คราบน้ำตาของชาวเมือง (จากการโดน “เฮอร์ริเคน แคทรีนา” ซัดกระหน่ำเมื่อสามปีก่อน) เลือนหายไปพร้อมกับมีรอยยิ้มแห่งความหวังที่พรั่งพรูขึ้นมาแทน