คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
จากสัปดาห์ที่แล้วผมได้เล่าให้ฟังถึงปัญหาของ ออสการ์ ปิสโตริอุส กับเส้นทางการเป็นนักวิ่งขาเทียมของเขา มาถึงฉบับนี้ผมของเล่าถึงช่วงเวลาที่นักวิ่งไร้ขาคนนี้ได้รับเชิญจาก สหพันธ์กรีฑานานาชาติ ( International Association of Athletics Federations - IAAF ) ได้เชิญ ออสการ์ เข้าร่วมแข่งขันวิ่ง 400 เมตรชายกับนักกรีฑาคนปกติเป็นครั้งแรกในรายการ อายเอเอเอ็ฟ กร็อง ปรี ( IAAF Grand Prix ) ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2005 แต่คราวนั้น เขายังมีพันธะกับทางโรงเรียน จึงไม่ได้ร่วมแข่งด้วย จนมาถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2007 เขาเข้าร่วมแข่งในรายการ โกลเดน กาลา ( Golden Gala ) ที่กรุงโรมา ประเทศอิตาลี ซึ่งเขาเข้าเส้นชัยอันดับ 2 ในกลุ่ม B ด้วยเวลา 46.90 วินาที และอีก 2 วันต่อมาก็เข้าร่วมแข่งรายการ นอริช ยูเนียน บริทิช กร็อง ปรี ( Norwich Union British Grand Prix ) ที่เมืองเชฟฟีลด์ คราวนี้ฝนตก พื้นเฉอะแฉะ ออสการ์เข้าที่ 7 ด้วยเวลา 47.65 วินาที แต่ก็ถูกตัดสิทธิ์ ดิสควอลิฟายด์ เพราะวิ่งออกนอกช่องวิ่งของตนเอง
การเข้าร่วมแข่งขันกรีฑากับคนปกติโดยใช้ขาเทียมดังกล่าวของออสการ์ ยังมีหลายคนไม่เห็นด้วย โดยพวกเขาบอกว่า ขาเทียมได้เปรียบ เพราะมันมีความยืดหยุ่นเหมือนสปริง เวลาวิ่งจะได้แรงส่ง เหนื่อยน้อยกว่าการวิ่งของคนปกติ และเจ้าชีตานั้น ก็มีความยาวเกินจำเป็น ทำให้ก้าวได้ยาวกว่าคนธรรมดาอีกด้วย แต่ ออสการ์ กับ โค้ช ช่วยกันเถียงว่า ขาเทียมต่างหากที่เป็นตัวถ่วง เพราะต้องใช้แรงตอนออกสตาร์ทมากกว่าคนปกติ และตอนวิ่งถ้ามีแรงลมมาปะทะ ขาจะแกว่งออกข้างอยู่เรื่อย ยิ่งถ้าเจอฝนก็เสร็จกัน อย่างไรก็ตาม จากผลการทดสอบของ แกร์ท-เพ็ทเทอร์ บรุกเกอมาน ( Gert-Peter Bruggemann ) ศาสตราจารย์ชาวเยอรมนีเมื่อปลายปี 2007 พบว่ามันมีส่วนทำให้ได้เปรียบนักกรีฑาคนปกติไม่น้อยเลย ไม่ใช่เพียง 2-3 เปอร์เซนต์อย่างที่พูดกัน
หลังจากที่คำให้สัมภาษณ์ของโปรเฟสเซอร์ท่านนี้ถูกตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ เดือนมกราคม 2008 ทาง อายเอเอเอ็ฟ ก็สั่งห้าม ออสการ์ ร่วมแข่งกับคนปกติ ซึ่ง ออสการ์ อุทธรณ์ ร้อนถึงศาลอนุญาโตตุลาการทางกีฬา ( Court of Arbitration for Sport - CAS ) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิส ต้องเข้ามาตัดสินเรื่องนี้ และในที่สุด เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซีเอเอส ได้พิจารณากลับคำตัดสินของ อายเอเอเอ็ฟ โดยให้เหตุผลว่า การทดสอบนั้น ยังไม่ครบถ้วน ไม่ได้นำความเสียเปรียบของ ออสการ์ มาเปรียบเทียบด้วย ดังนั้นถือว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดเพียงพอว่า การใช้ขาเทียมแข่งขันจะทำให้ได้เปรียบคนปกติ
เป็นอันว่า เส้นทางของ ออสการ์ ปิสโตริอุส สำหรับ โอลิมปิค เกมส์ 2008 เปิดกว้างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงทำสถิติของตนเองให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโอลิมปิคให้ได้เท่านั้น นั่นคือ อย่างน้อยในรายการวิ่ง 400 เมตรชายที่เขาหวังเข้าร่วมแข่งมากที่สุด ต้องไม่ช้ากว่ามาตรฐาน B ที่ 45.95 วินาที
จากสัปดาห์ที่แล้วผมได้เล่าให้ฟังถึงปัญหาของ ออสการ์ ปิสโตริอุส กับเส้นทางการเป็นนักวิ่งขาเทียมของเขา มาถึงฉบับนี้ผมของเล่าถึงช่วงเวลาที่นักวิ่งไร้ขาคนนี้ได้รับเชิญจาก สหพันธ์กรีฑานานาชาติ ( International Association of Athletics Federations - IAAF ) ได้เชิญ ออสการ์ เข้าร่วมแข่งขันวิ่ง 400 เมตรชายกับนักกรีฑาคนปกติเป็นครั้งแรกในรายการ อายเอเอเอ็ฟ กร็อง ปรี ( IAAF Grand Prix ) ที่กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2005 แต่คราวนั้น เขายังมีพันธะกับทางโรงเรียน จึงไม่ได้ร่วมแข่งด้วย จนมาถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2007 เขาเข้าร่วมแข่งในรายการ โกลเดน กาลา ( Golden Gala ) ที่กรุงโรมา ประเทศอิตาลี ซึ่งเขาเข้าเส้นชัยอันดับ 2 ในกลุ่ม B ด้วยเวลา 46.90 วินาที และอีก 2 วันต่อมาก็เข้าร่วมแข่งรายการ นอริช ยูเนียน บริทิช กร็อง ปรี ( Norwich Union British Grand Prix ) ที่เมืองเชฟฟีลด์ คราวนี้ฝนตก พื้นเฉอะแฉะ ออสการ์เข้าที่ 7 ด้วยเวลา 47.65 วินาที แต่ก็ถูกตัดสิทธิ์ ดิสควอลิฟายด์ เพราะวิ่งออกนอกช่องวิ่งของตนเอง
การเข้าร่วมแข่งขันกรีฑากับคนปกติโดยใช้ขาเทียมดังกล่าวของออสการ์ ยังมีหลายคนไม่เห็นด้วย โดยพวกเขาบอกว่า ขาเทียมได้เปรียบ เพราะมันมีความยืดหยุ่นเหมือนสปริง เวลาวิ่งจะได้แรงส่ง เหนื่อยน้อยกว่าการวิ่งของคนปกติ และเจ้าชีตานั้น ก็มีความยาวเกินจำเป็น ทำให้ก้าวได้ยาวกว่าคนธรรมดาอีกด้วย แต่ ออสการ์ กับ โค้ช ช่วยกันเถียงว่า ขาเทียมต่างหากที่เป็นตัวถ่วง เพราะต้องใช้แรงตอนออกสตาร์ทมากกว่าคนปกติ และตอนวิ่งถ้ามีแรงลมมาปะทะ ขาจะแกว่งออกข้างอยู่เรื่อย ยิ่งถ้าเจอฝนก็เสร็จกัน อย่างไรก็ตาม จากผลการทดสอบของ แกร์ท-เพ็ทเทอร์ บรุกเกอมาน ( Gert-Peter Bruggemann ) ศาสตราจารย์ชาวเยอรมนีเมื่อปลายปี 2007 พบว่ามันมีส่วนทำให้ได้เปรียบนักกรีฑาคนปกติไม่น้อยเลย ไม่ใช่เพียง 2-3 เปอร์เซนต์อย่างที่พูดกัน
หลังจากที่คำให้สัมภาษณ์ของโปรเฟสเซอร์ท่านนี้ถูกตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ เดือนมกราคม 2008 ทาง อายเอเอเอ็ฟ ก็สั่งห้าม ออสการ์ ร่วมแข่งกับคนปกติ ซึ่ง ออสการ์ อุทธรณ์ ร้อนถึงศาลอนุญาโตตุลาการทางกีฬา ( Court of Arbitration for Sport - CAS ) ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิส ต้องเข้ามาตัดสินเรื่องนี้ และในที่สุด เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซีเอเอส ได้พิจารณากลับคำตัดสินของ อายเอเอเอ็ฟ โดยให้เหตุผลว่า การทดสอบนั้น ยังไม่ครบถ้วน ไม่ได้นำความเสียเปรียบของ ออสการ์ มาเปรียบเทียบด้วย ดังนั้นถือว่าไม่มีหลักฐานชี้ชัดเพียงพอว่า การใช้ขาเทียมแข่งขันจะทำให้ได้เปรียบคนปกติ
เป็นอันว่า เส้นทางของ ออสการ์ ปิสโตริอุส สำหรับ โอลิมปิค เกมส์ 2008 เปิดกว้างแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงทำสถิติของตนเองให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานโอลิมปิคให้ได้เท่านั้น นั่นคือ อย่างน้อยในรายการวิ่ง 400 เมตรชายที่เขาหวังเข้าร่วมแข่งมากที่สุด ต้องไม่ช้ากว่ามาตรฐาน B ที่ 45.95 วินาที
