ราฟาเอล เบนิเตซ สุดเซ็งที่เชิ้ตดำทดเวลาบาดเจ็บนานเกินไปในครึ่งหลังทำให้ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลาดโดน “สิงห์บลูส์” เชลซี ตามตีเสมอ 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบตัดเชือก นัดแรก เมื่อคืนวาน
ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสเก็บชัยเหนือคู่แข่งร่วมเกาะอังกฤษไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เดิร์ก เคาท์ ซัดประตูให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 43 ทว่าช่วงวินาทีสุดท้ายของการต่อเวลาบาดเจ็บ 4 นาทีในครึ่งหลัง ยอห์น อาร์เน รีเซ ดันโหม่งสกัดบอลเข้าประตูตัวเองช่วยให้ เชลซี ได้อะเวย์โกล ก่อนกลับไปเล่นในถิ่นบ้างในสัปดาห์หน้า
ภายหลังการแข่งขัน ราฟาเอล เบนิเตซ ออกมาก่น คอนราด เพลาท์ซ เชิ้ตดำจากออสเตรียที่ตัดสินใจทดเวลาบาดเจ็บนานเกินไป “มันยากเกินเข้าใจ เขาทดเจ็บครึ่งแรกแค่นาทีเดียว แต่กลับทดไปนานถึง 4 นาทีในครึ่งหลัง ไม่รู้สิผมคิดว่าผู้ตัดสินทดเกินถึงนาทีที่ 5 ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม การทำเข้าประตูตัวเองคงไปโทษเขาไม่ได้”
“เมื่อเกมจบลงด้วยการทำเข้าประตูตัวเอง แน่นอนว่า ผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เรายังเหลืออีก 90 นาที ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปชนะให้ได้ในนัดที่สอง ตอนนี้เราต้องมองโลกในแง่ดีพยายามเคลียร์เรื่องกวนใจเหล่านี้ออกไป ถ้าทีมยังเล่นได้แบบนี้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในสัปดาห์หน้า เราก็ยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ” กุนซือชาวสเปนให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย
ด้าน อัฟราม แกรนท์ กุนซือ เชลซี ออกมากล่าวบ้าง “เราคู่ควรกับผลการแข่งขันในวันนี้ ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มีโอกาสแต่ทีมของผมก็มีโอกาสเช่นกัน แม้ในครึ่งหลังโอกาสมีไม่มากนักก็ตาม แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเกมในรอบรองชนะเลิศ ส่วนสองประตูที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่า ประตูทีมเยือนมีความสำคัญยิ่ง”
“การมาเล่นที่แอนฟิลด์ยากเสมอ เพราะลิเวอร์พูลมีแฟนๆ หนุนหลังจำนวนมาก ผลเสมอจึงน่าพอใจสำหรับเรา อย่างไรก็ตาม นัดที่สองก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย ผมจึงหวังเห็นแฟนๆ ของเราหนุนหลังทีมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เช่นกัน ตอนนี้เชลซีมีโอกาสแล้วสำหรับก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และเราก็เชื่อว่าสามารถทำกันได้” ผู้จัดการทีมชาวอิสราเอล ปิดท้าย
สำหรับนัดที่สองระหว่าง เชลซี-ลิเวอร์พูล จะมีขึ้นที่ลอนดอนในคืนวันพุธที่ 30 เมษายน โดยผู้ชนะของคู่นี้จะเข้าไปชิงจ้าวยุโรปกับผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษ หรือ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ของสเปน ในวันที่ 21 พฤษภาคม ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสเก็บชัยเหนือคู่แข่งร่วมเกาะอังกฤษไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ เดิร์ก เคาท์ ซัดประตูให้ทีมขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาทีที่ 43 ทว่าช่วงวินาทีสุดท้ายของการต่อเวลาบาดเจ็บ 4 นาทีในครึ่งหลัง ยอห์น อาร์เน รีเซ ดันโหม่งสกัดบอลเข้าประตูตัวเองช่วยให้ เชลซี ได้อะเวย์โกล ก่อนกลับไปเล่นในถิ่นบ้างในสัปดาห์หน้า
ภายหลังการแข่งขัน ราฟาเอล เบนิเตซ ออกมาก่น คอนราด เพลาท์ซ เชิ้ตดำจากออสเตรียที่ตัดสินใจทดเวลาบาดเจ็บนานเกินไป “มันยากเกินเข้าใจ เขาทดเจ็บครึ่งแรกแค่นาทีเดียว แต่กลับทดไปนานถึง 4 นาทีในครึ่งหลัง ไม่รู้สิผมคิดว่าผู้ตัดสินทดเกินถึงนาทีที่ 5 ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม การทำเข้าประตูตัวเองคงไปโทษเขาไม่ได้”
“เมื่อเกมจบลงด้วยการทำเข้าประตูตัวเอง แน่นอนว่า ผมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เรายังเหลืออีก 90 นาที ลิเวอร์พูล ต้องบุกไปชนะให้ได้ในนัดที่สอง ตอนนี้เราต้องมองโลกในแง่ดีพยายามเคลียร์เรื่องกวนใจเหล่านี้ออกไป ถ้าทีมยังเล่นได้แบบนี้ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในสัปดาห์หน้า เราก็ยังมีโอกาสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ” กุนซือชาวสเปนให้สัมภาษณ์ทิ้งท้าย
ด้าน อัฟราม แกรนท์ กุนซือ เชลซี ออกมากล่าวบ้าง “เราคู่ควรกับผลการแข่งขันในวันนี้ ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล มีโอกาสแต่ทีมของผมก็มีโอกาสเช่นกัน แม้ในครึ่งหลังโอกาสมีไม่มากนักก็ตาม แต่มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเกมในรอบรองชนะเลิศ ส่วนสองประตูที่เกิดขึ้นในวันนี้ ผมคิดว่ามันเป็นความผิดพลาดของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่า ประตูทีมเยือนมีความสำคัญยิ่ง”
“การมาเล่นที่แอนฟิลด์ยากเสมอ เพราะลิเวอร์พูลมีแฟนๆ หนุนหลังจำนวนมาก ผลเสมอจึงน่าพอใจสำหรับเรา อย่างไรก็ตาม นัดที่สองก็ยังไม่ใช่เรื่องง่าย ผมจึงหวังเห็นแฟนๆ ของเราหนุนหลังทีมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ เช่นกัน ตอนนี้เชลซีมีโอกาสแล้วสำหรับก้าวไปถึงรอบชิงชนะเลิศ และเราก็เชื่อว่าสามารถทำกันได้” ผู้จัดการทีมชาวอิสราเอล ปิดท้าย
สำหรับนัดที่สองระหว่าง เชลซี-ลิเวอร์พูล จะมีขึ้นที่ลอนดอนในคืนวันพุธที่ 30 เมษายน โดยผู้ชนะของคู่นี้จะเข้าไปชิงจ้าวยุโรปกับผู้ชนะระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งทีมจากอังกฤษ หรือ บาร์เซโลนา ยักษ์ใหญ่ของสเปน ในวันที่ 21 พฤษภาคม ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
