xs
xsm
sm
md
lg

‘รีเซ’ โหม่งประตูตัวเองหงส์เจ๊าเชลซี 1-1 ตัดยูซีแอลนัดแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ยอห์น อาร์เน รีเซ ผิดพลาดโหม่งสกัดเข้าประตูตัวเองในวินาทีสุดท้ายของการแข่งขัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จึงทำได้แค่เปิดรังเสมอ “สิงห์บลูส์” เชลซี 1-1 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ประจำคืนวันอังคาร

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 1-1 เชลซี (อังกฤษ)

เคาท์ ยิงบอลลอดขา เช็ก ให้หงส์บินนำก่อน
ราฟาเอล เบนิเตซ จัดทัพ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ชุดใหญ่ลงสนามหลังพักผู้เล่นตัวหลักในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ไปหลายคน โดยเกมนี้ สตีเวน เจอร์ราร์ด หายจากอาการคอเคล็ดกลับมาบัญชาเกมในแดนกลาง ส่วน เฟอร์นานโด ตอร์เรส ลุ้นล่าตาข่ายให้เจ้าถิ่น ด้าน อัฟราม แกรนท์ ไม่สามารถใช้งาน มิคาเอล เอสเซียง มิดฟิลด์พันธุ์ดุที่ติดโทษแบน แต่ “สิงห์บลูส์” ก็ได้ แฟรงค์ แลมพาร์ด กลับมาจากการเฝ้าไข้คุณแม่ รวมทั้ง มิชาเอล บัลลัค และดิดิเยร์ ดร็อกบา ที่หายเจ็บกลับมาทั้งคู่
รีเซ กองกับพื้นหลังโหม่งประตูตัวเอง
เริ่มเกมการแข่งขันเป็น เชลซี ที่สามารถครองเกมบุกกดดันใส่เจ้าบ้าน แต่โอกาสลุ้นทำประตูเป็นของ ลิเวอร์พูล ก่อนเมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด ลองสับไกด้วยขวาจากนอกกรอบแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารจอมหนึบ นาทีที่ 12 “หงส์แดง” ได้ลุ้นอีกครั้งจากบอลยาวของ ชาบี อลอนโซ ไปให้ เดิร์ค เคาท์ หลุดถึงเขตโทษกำลังจะง้างยิงแต่ ริคาร์โด คาร์วัลโญ ตามมาเกี่ยวสกัดบอลออกไปได้หวุดหวิด ผ่าน 20 นาทีแรกเกมยังดำเนินไปอย่างสูสี ทีมเยือนได้ลุ้นเหมือนกัน แฟรงค์ แลมพาร์ด ตักบอลให้ โจ โคล พยายามดีดเร็วแต่เบาเกินไปเข้ามือ โฮเซ เรนา ง่ายๆ

อีกห้านาทีถัดมาแฟนๆ เชลซี ร้องเรียกจุดโทษเมื่อเห็น ดิดิเยร์ ดร็อกบา โดนทาง เจมี คาร์ราเกอร์ เบียดล้มในเขตโทษแต่ คอนราด เพลาท์ซ เชิ้ตดำจากออสเตรียมองว่ากองหน้าทีมเยือนล้มง่ายเกินไป ครึ่งชั่วโมงพอดี ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย เจอร์ราร์ด แทงทะลุให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส หลุดเข้ากรอบโทษแต่ดาวยิงขวัญใจเจ้าถิ่นซัดบอลไปติดเซฟ เช็ก ที่ล้มตัวป้องกันเอาไว้ได้ แต่ถึงนาทีที่ 43 “หงส์แดง” จิกนำ 1-0 จนได้เมื่อ แลมพาร์ด เสียบอลในแดนตัวเอง ฮาเวียร์ มาสเชราโน ยิงบอลแฉลบไปให้ เคาท์ ทิ่มบอลลอดขา เช็ก เข้าไปทำให้จบ 45 นาทีแรก เจ้าถิ่นถือความได้เปรียบเอาไว้

ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง “สิงห์บลูส์” ที่ต้องการประตูคืนกลับเป็นฝ่ายโดน ลิเวอร์พูล โหมบุกใส่อย่างหนัก ไรอัน บาเบล ลากผ่าน เปาโล แฟร์ไรรา ก่อนเปิดเข้ากลางให้ เคาท์ แตะคืน อลอนโซ วิ่งเข้ามาหวดเต็มๆ แต่บอลแฉลบเท้า แอชลีย์ โคล ออกไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไปเกมของทีมเยือนยังไม่ดีขึ้น เกือบจะโดนบวกเพิ่มอีกยังดีที่ลูกซัดไกลของ บาเบล ถากเสาออกไป แต่ “หงส์แดง” ก็ต้องเสีย ฟาบิโอ ออเรลิโอ ให้กับอาการบาดเจ็บ ยอห์น อาร์เน รีเซ แบ็กซ้ายจอมบุกได้โอกาสลงสนามมาเล่นแทน

เมื่อเกมดูไม่ดี อัฟราม แกรนท์ ขยับส่ง ซาโลมอน คาลู ลงมาขึ้นเกมทางกราบแทน โจ โคล ซึ่งค่อนข้างเงียบในเกมนี้ นาทีที่ 67 เชลซี ได้ฟรีคิก แลมพาร์ด เปิดเข้ามาให้ มิชาเอล บัลลัค กระโดดขึ้นขวิดบอลไปตรงตัว เรนา โอกาสเป็นของทีมเยือนติดๆ กัน แลมพ์ ไหลออกซ้ายให้ คาลู ล็อกยิงเหน่งๆ แต่โดน มาสเชราโน สไลด์บล็อกออกหลังไปได้หวุดหวิด สิบห้านาทีสุดท้าย ราฟาเอล เบนิเตซ ให้ ยอสซี เบนายูน มาเติมความสดในแนวรุกและก็ถอด บาเบล ออกไปตามแท็คติก

ท้ายเกม “หงส์แดง” เกือบบินหนีห่าง เจอร์ราร์ด เกี่ยวบอลหลบ โคลด มาเกเลเล ก่อนตะบันด้วยขวาร้อนถึง เช็ก ต้องบินปัดพ้นคานไป 5 นาทีสุดท้าย เชลซี ส่งเอา นิโกลาส์ อเนลกา ลงมาแทน บัลลัค เพื่อหวังพลิกสถานการณ์ และช่วงทดเวลาเจ็บวินาทีสุดท้าย “เดอะ ค็อป” เงียบกันทั้งสนามเมื่อ คาลู หลุดขึ้นไปทางกราบซ้ายก่อนเปิดจากสุดเส้นหลังเข้ากลางและก็เป็น รีเซ ที่โหม่งบอลพลาดเข้าประตูตัวเอง หมดเวลา “สิงห์บลูส์” บุกมายันเสมอ 1-1 ก่อนกลับไปเปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ ชี้ชะตานัดที่สองคืนวันพุธที่ 30 เมษายนนี้

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , อัลวาโร อาร์เบลัว , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ชาบี อลอนโซ , เดิร์ค เคาท์ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ไรอัน บาเบล , เฟอร์นานโด ตอร์เรส

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , เปาโล เฟอร์ไรรา , จอห์น เทอร์รี , ริคาร์โด คาร์วัลโญ , แอชลีย์ โคล , แฟรงค์ แลมพาร์ด , โคลด มาเกเลเล , มิชาเอล บัลลัค , โจ โคล , ดิดิเยร์ ดร็อกบา , ฟลอรองต์ มาลูดา
กำลังโหลดความคิดเห็น