“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดรังจิกเอาชนะ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล สุดมัน 4-2 ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปรีแมตช์กับ เชลซี ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หลังจากที่ “สิงห์บลูส์” พิชิต เฟเนร์บาห์เช จากตุรกี 2-0
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4-2 อาร์เซนอล (อังกฤษ)
(ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3)
ศึกไตรภาคระหว่าง “หงส์แดง” กับ “ปืนใหญ่” มาถึงบทสรุปในศึกยุโรปถ้วยใบใหญ่ โดยแมตช์นี้ ราฟาเอล เบนิเตซ มีการปรับแท็คติกให้ ลิเวอร์พูล ส่ง ปีเตอร์ เคราช์ ลงมาช่วย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ล่าตาข่าย ขณะที่ตัวหลักที่ได้พักจากเมื่อสุดสัปดาห์ลงสนามกันครบครัน ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ มีทางเลือกในการจัดทีม อาร์เซนอล ไม่มากนักเนื่องจากนักเตะบาดเจ็บหลายคน เกมนี้จึงวางให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นหอกตัวเป้าและก็มี อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ สนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ขณะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ผ่านฟิตมารอโอกาสอยู่บนม้านั่งสำรอง
เริ่มเกมการแข่งขัน อาร์เซนอล ที่เสียเปรียบจากการโดนบุกไปเสมอ 1-1 ที่บ้านในนัดแรก ลงมาเดินเกมบุกเข้าใส่ทันทีด้วยสไตล์การต่อบอลแทงทะลุช่องตามถนัด อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็แก้ทางด้วยการดักจังหวะล้ำหน้า แต่เมื่อโดนบี้อยู่นานแผงรับเจ้าถิ่นก็สกัดบอลกันไม่ขาดเป็นผลให้ “ปืนใหญ่” ได้ประตูนำ 1-0 ตามต้องการในนาทีที่ 13 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ สบโอกาสจ่ายให้ อาบู ดิยาบี ซัดด้วยขวาบอลแฉลบเข่า โฮเซ เรนา เข้าไปตุงตาข่ายที่เสาแรก
พอเสียประตูไป “หงส์แดง” จำเป็นต้องดันเกมบุกขึ้นไปแต่ก็เกือบโดนจังหวะสวนกลับของผู้มาเยือน เอ็มมานูเอล เอบูเอ อาศัยทักษะเดาะบอลโด่งก่อนสับไกด้วยขวาบอลแฉลบพื้นแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เรนา ผ่าน 20 นาทีเกมเป็นของ อาร์เซนอล ที่ต่อบอลกันได้ดีกว่าและก็ได้โอกาสอีกครั้ง ดิยาบี หลุดขึ้นไปเปิดกะให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เผด็จศึกที่เสาแรกแต่นายทวารเจ้าบ้านเหินมาชกบอลพ้นอันตรายไปได้ก่อน
นาทีที่ 25 บรรดา “เดอะค็อป” ในสนามพยายามเรียกร้องจุดโทษจากผู้ตัดสินชาวสวีดิช เพราะเห็น เดิร์ค เคาท์ ล้มลงจากการโดน ดิยาบี สอดขึ้นมาสกัดบอลได้ก่อนที่ดาวยิงชาวดัตช์จะสะบัดเกือกยิง แต่ก็ไม่มีการเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นแต่อย่างใด ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ลิเวอร์พูล โหมเป็นการใหญ่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดบอลแฉลบ โคโล ตูเร ร้อนถึง มานูเอล อัลมูเนีย ต้องปัดพ้นคานไป
จากลูกเตะมุม ลิเวอร์พูล สามารถตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 31 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดไปเสาสองให้ ซามี ฮูเปีย กระโดดโหม่งโล่งๆ คนเดียวส่งบอลกระแทกเสาเข้าไปซุกก้นตาข่าย อีกสิบนาทีถัดมา อาร์เซนอล ที่เกมกลับมาเป็นรองต้องโชคร้ายถอด มาติเยอ ฟลามินี ออกจากสนามเนื่องจากบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายข้างขวา เวนเกอร์ ต้องส่ง จิลแบร์โต ซิลวา จอมเก๋าทีมชาติบราซิลลงมาช่วยตัดเกมในแดนกลาง ก่อนจบ 45 นาทีแรกโดยไม่มีทีมใดทำสกอร์เพิ่มได้
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ดูไม่ต้องการให้เกมยืดเยื้อเปิดฉากบุกใส่ต่อทันที ชาบี อลอนโซ แตะให้ ปีเตอร์ เคราช์ ได้ยิงในกรอบโทษแต่เบาเกินไปบอลเข้าซอง อัลมูเนีย นาทีที่ 52 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง ออเรลิโอ ตะบันด้วยซ้ายจากการเคลียร์บอลไม่ขาดของ วิลเลียม กัลลาส บอลพุ่งไปแฉลบเท้า เคราช์ ออกหลังไป หนึ่งชั่วโมงเกมการครองบอลตกเป็นของ “หงส์แดง” อย่างสิ้นเชิง
ถึงนาทีที่ 69 แฟนๆ “หงส์แดง” ได้เฮกันลั่นแอนฟิลด์ เรนา เปิดเกมยาวจากหน้าปากประตูตัวเองบอลกระเด้งมาถึง เฟอร์นานโด ตอร์เรส ได้โอกาสแรกของตัวเองก่อนหมุนตัวตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงามส่ง ลิเวอร์พูล พลิกกลับมานำ 2-1 เข้าสู่สถานการณ์จำเป็นต้องทวงประตูคืน เวนเกอร์ ส่งทั้ง ธีโอ วัลคอตต์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี ลงมาเล่นแทน ดิยาบี และเอบูเอ และนาทีที่ 73 อาร์เซนอล พลาดโอกาสตามเจ๊าอย่างน่าเสียดายเมื่อ อเดบายอร์ ปาดบอลผ่านมือ เรนา แต่ก็หลุดเสาออกไป
อีกสี่นาทีถัดมา เบนิเตซ ปรับแท็คติกบ้างส่ง ไรอัน บาเบล ลงมาป่วนเกมรับ “ปืนใหญ่” ต่อเนื่องและก็ถอด เคราช์ ออกไปและ บาเบล เกือบทำได้ทันทีเมื่อได้โอกาสยิงเหน่งๆ แต่บอลแฉลบเท้า ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ออกหลังไป แต่เกมโต้กลับของ อาร์เซนอล มาสัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 83 เมื่อ วัลคอตต์ ลากจากแดนตัวเองขึ้นไปจ่ายบอลให้ อเดบายอร์ แปบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
แต่ดีใจได้แค่สองนาที ลิเวอร์พูล ก็ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 เมื่อ บาเบล กระชากเข้ากรอบโทษก่อนโดน ตูเร เหนี่ยวล้มคราวนี้ผู้ตัดสินจากสวีเดนชี้ไปที่จุดโทษและก็เป็น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารผ่านมือ อัลมูเนีย เข้าไป ท้ายเกม อาร์เซนอล พยายามโหมเฮือกสุดท้ายแต่โดนเจ้าบ้านสวนกลับขึ้นมาก่อนที่ บาเบล จะซัดฝังชัยช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะไป 4-2 เข้าสู่รอบตัดเชือกไปรีแมตช์ปี 2007 กับ เชลซี ที่เปิดบ้านบดชนะ เฟเนร์บาห์เช 2-0 (สกอร์รวมสองนัด 3-2) โดย “สิงห์บลูส์” ได้ประตูจาก มิชาเอล บัลลัค (นาทีที่ 4) และแฟรงค์ แลมพาร์ด (นาทีที่ 87)
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , เจมี คาร์ราเกอร์ , ซามี ฮูเปีย , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เดิร์ค เคาท์ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ชาบี อลอนโซ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ปีเตอร์ เคราช์ , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , โคโล ตูเร , ฟิลิปป์ เซนเดอรอส , วิลเลียม กัลลาส , กาแอล กลิชี , เอ็มมานูเอล เอบูเอ , เชส ฟาเบรกาส , มาติเยอ ฟลามินี , อาบู ดิยาบี , อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
ศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 4-2 อาร์เซนอล (อังกฤษ)
(ลิเวอร์พูล เข้ารอบด้วยประตูรวม 5-3)
ศึกไตรภาคระหว่าง “หงส์แดง” กับ “ปืนใหญ่” มาถึงบทสรุปในศึกยุโรปถ้วยใบใหญ่ โดยแมตช์นี้ ราฟาเอล เบนิเตซ มีการปรับแท็คติกให้ ลิเวอร์พูล ส่ง ปีเตอร์ เคราช์ ลงมาช่วย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ล่าตาข่าย ขณะที่ตัวหลักที่ได้พักจากเมื่อสุดสัปดาห์ลงสนามกันครบครัน ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ มีทางเลือกในการจัดทีม อาร์เซนอล ไม่มากนักเนื่องจากนักเตะบาดเจ็บหลายคน เกมนี้จึงวางให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เป็นหอกตัวเป้าและก็มี อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ สนับสนุนเกมรุกอยู่ข้างหลัง ขณะที่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ผ่านฟิตมารอโอกาสอยู่บนม้านั่งสำรอง
เริ่มเกมการแข่งขัน อาร์เซนอล ที่เสียเปรียบจากการโดนบุกไปเสมอ 1-1 ที่บ้านในนัดแรก ลงมาเดินเกมบุกเข้าใส่ทันทีด้วยสไตล์การต่อบอลแทงทะลุช่องตามถนัด อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ก็แก้ทางด้วยการดักจังหวะล้ำหน้า แต่เมื่อโดนบี้อยู่นานแผงรับเจ้าถิ่นก็สกัดบอลกันไม่ขาดเป็นผลให้ “ปืนใหญ่” ได้ประตูนำ 1-0 ตามต้องการในนาทีที่ 13 เมื่อ อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ สบโอกาสจ่ายให้ อาบู ดิยาบี ซัดด้วยขวาบอลแฉลบเข่า โฮเซ เรนา เข้าไปตุงตาข่ายที่เสาแรก
พอเสียประตูไป “หงส์แดง” จำเป็นต้องดันเกมบุกขึ้นไปแต่ก็เกือบโดนจังหวะสวนกลับของผู้มาเยือน เอ็มมานูเอล เอบูเอ อาศัยทักษะเดาะบอลโด่งก่อนสับไกด้วยขวาบอลแฉลบพื้นแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับ เรนา ผ่าน 20 นาทีเกมเป็นของ อาร์เซนอล ที่ต่อบอลกันได้ดีกว่าและก็ได้โอกาสอีกครั้ง ดิยาบี หลุดขึ้นไปเปิดกะให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ เผด็จศึกที่เสาแรกแต่นายทวารเจ้าบ้านเหินมาชกบอลพ้นอันตรายไปได้ก่อน
นาทีที่ 25 บรรดา “เดอะค็อป” ในสนามพยายามเรียกร้องจุดโทษจากผู้ตัดสินชาวสวีดิช เพราะเห็น เดิร์ค เคาท์ ล้มลงจากการโดน ดิยาบี สอดขึ้นมาสกัดบอลได้ก่อนที่ดาวยิงชาวดัตช์จะสะบัดเกือกยิง แต่ก็ไม่มีการเป่าให้จุดโทษแก่เจ้าถิ่นแต่อย่างใด ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ลิเวอร์พูล โหมเป็นการใหญ่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เติมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดบอลแฉลบ โคโล ตูเร ร้อนถึง มานูเอล อัลมูเนีย ต้องปัดพ้นคานไป
จากลูกเตะมุม ลิเวอร์พูล สามารถตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 31 เมื่อ สตีเวน เจอร์ราร์ด เปิดไปเสาสองให้ ซามี ฮูเปีย กระโดดโหม่งโล่งๆ คนเดียวส่งบอลกระแทกเสาเข้าไปซุกก้นตาข่าย อีกสิบนาทีถัดมา อาร์เซนอล ที่เกมกลับมาเป็นรองต้องโชคร้ายถอด มาติเยอ ฟลามินี ออกจากสนามเนื่องจากบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวายข้างขวา เวนเกอร์ ต้องส่ง จิลแบร์โต ซิลวา จอมเก๋าทีมชาติบราซิลลงมาช่วยตัดเกมในแดนกลาง ก่อนจบ 45 นาทีแรกโดยไม่มีทีมใดทำสกอร์เพิ่มได้
ลงมาลุยต่อในครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ดูไม่ต้องการให้เกมยืดเยื้อเปิดฉากบุกใส่ต่อทันที ชาบี อลอนโซ แตะให้ ปีเตอร์ เคราช์ ได้ยิงในกรอบโทษแต่เบาเกินไปบอลเข้าซอง อัลมูเนีย นาทีที่ 52 แฟนๆ เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง ออเรลิโอ ตะบันด้วยซ้ายจากการเคลียร์บอลไม่ขาดของ วิลเลียม กัลลาส บอลพุ่งไปแฉลบเท้า เคราช์ ออกหลังไป หนึ่งชั่วโมงเกมการครองบอลตกเป็นของ “หงส์แดง” อย่างสิ้นเชิง
ถึงนาทีที่ 69 แฟนๆ “หงส์แดง” ได้เฮกันลั่นแอนฟิลด์ เรนา เปิดเกมยาวจากหน้าปากประตูตัวเองบอลกระเด้งมาถึง เฟอร์นานโด ตอร์เรส ได้โอกาสแรกของตัวเองก่อนหมุนตัวตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลเสียบตาข่ายอย่างสวยงามส่ง ลิเวอร์พูล พลิกกลับมานำ 2-1 เข้าสู่สถานการณ์จำเป็นต้องทวงประตูคืน เวนเกอร์ ส่งทั้ง ธีโอ วัลคอตต์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี ลงมาเล่นแทน ดิยาบี และเอบูเอ และนาทีที่ 73 อาร์เซนอล พลาดโอกาสตามเจ๊าอย่างน่าเสียดายเมื่อ อเดบายอร์ ปาดบอลผ่านมือ เรนา แต่ก็หลุดเสาออกไป
อีกสี่นาทีถัดมา เบนิเตซ ปรับแท็คติกบ้างส่ง ไรอัน บาเบล ลงมาป่วนเกมรับ “ปืนใหญ่” ต่อเนื่องและก็ถอด เคราช์ ออกไปและ บาเบล เกือบทำได้ทันทีเมื่อได้โอกาสยิงเหน่งๆ แต่บอลแฉลบเท้า ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ออกหลังไป แต่เกมโต้กลับของ อาร์เซนอล มาสัมฤทธิ์ผลตามตีเสมอ 2-2 ในนาทีที่ 83 เมื่อ วัลคอตต์ ลากจากแดนตัวเองขึ้นไปจ่ายบอลให้ อเดบายอร์ แปบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
แต่ดีใจได้แค่สองนาที ลิเวอร์พูล ก็ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 เมื่อ บาเบล กระชากเข้ากรอบโทษก่อนโดน ตูเร เหนี่ยวล้มคราวนี้ผู้ตัดสินจากสวีเดนชี้ไปที่จุดโทษและก็เป็น เจอร์ราร์ด รับหน้าที่สังหารผ่านมือ อัลมูเนีย เข้าไป ท้ายเกม อาร์เซนอล พยายามโหมเฮือกสุดท้ายแต่โดนเจ้าบ้านสวนกลับขึ้นมาก่อนที่ บาเบล จะซัดฝังชัยช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะไป 4-2 เข้าสู่รอบตัดเชือกไปรีแมตช์ปี 2007 กับ เชลซี ที่เปิดบ้านบดชนะ เฟเนร์บาห์เช 2-0 (สกอร์รวมสองนัด 3-2) โดย “สิงห์บลูส์” ได้ประตูจาก มิชาเอล บัลลัค (นาทีที่ 4) และแฟรงค์ แลมพาร์ด (นาทีที่ 87)
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฮเซ เรนา , เจมี คาร์ราเกอร์ , ซามี ฮูเปีย , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เดิร์ค เคาท์ , ฮาเวียร์ มาสเชราโน , ชาบี อลอนโซ , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ปีเตอร์ เคราช์ , เฟอร์นานโด ตอร์เรส
อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย , โคโล ตูเร , ฟิลิปป์ เซนเดอรอส , วิลเลียม กัลลาส , กาแอล กลิชี , เอ็มมานูเอล เอบูเอ , เชส ฟาเบรกาส , มาติเยอ ฟลามินี , อาบู ดิยาบี , อเล็กซานเดอร์ ฮเล็บ , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
