อาร์เซนอล โชว์ลูกฮึดด้วยการพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 2 ประตู และเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก แซงกลับมาเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ถึงถิ่นรีบอค สเตเดี้ยม ในช่วงท้ายเกม 3-2 ทำให้ปืนใหญ่เก็บ 3 แต้มเป็นครั้งแรกในรอบ 6 นัดได้สำเร็จ
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2551
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2- 3 อาร์เซนอล
ที่สนามรีบอค สเตเดี้ยม โบลตัน วันเดอเรอร์ส เฝ้ารังของตัวเองรับมือกับ อาร์เซนอล ที่ยังไม่ชนะใครในลีกติดต่อกันมา 5 นัด เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ แบ็กซ้ายตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ เจย์ลอยด์ ซามูเอล ลงมารับหน้าที่แทน ส่วนแนวรุกยังคงมี 3 ประสานอย่าง เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, ม็ทธิว เทย์เลอร์ และ เควิน เดวีส์ เช่นเคย
ด้านทีมเยือนมีการปรับทัพเล็กน้อย โดยโยก โคโล ตูเร่ ออกมายืนแบ็กขวาแทนที่ บาการี่ ซาญ่า ซึ่งเดี้ยงมาจากนัดบุกไปแพ้ เชลซี 1-2 แล้วให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ลงมาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ วิลเลียม กัลลาส นอกจากนั้นยังพัก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยให้ นิคลาส เบนดท์เนอร์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
เปิดเกมมาในช่วงแรก เดอะ ทร็อตเตอร์ส พยายามเจาะเข้าทำประตู แต่เป็น เดอะ กันเนอร์ส ที่ได้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งก่อน นาทีที่ 9 อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ไหลทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปซัดติดตัว อาลี อัล ฮับซี่ แต่ก็ถูกไลน์แมนยกธงล้ำหน้าในจังหวะนี้ด้วย จากนั้น นาทีที่ 13 อาบู ดิยาบี้ ก็จ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ แต่งบอลหาช่องก่อนซัดหน้าเขตโทษ ทว่าส่งลูกหลุดกรอบออกไปไกล
อย่างไรก็ตาม โบลตัน กลับเป็นฝ่ายทะลวงประตูขึ้นนำ 1-0 ได้ก่อนในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่ได้ลูกทุ่มทางด้านขวา ดิยุฟ บังบอลได้ก่อนตวัดต่อให้ เกรตาร์ สไตน์สสัน หลุดไปเกือบถึงเส้นหลังแล้วเปิดโด่งเข้ากลาง และเป็น แม็ทธิว เทย์เลอร์ สอดเข้ามาโขกตัดหน้า โคโล ตูเร่ ผ่านมือ มานูเอล อัลมูเนีย เข้าไปกองก้นตาข่าย
หลังจากตกเป็นรอง ปืนใหญ่ก็กางตำรารุกหวังทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ยังเจาะแนวรับเจ้าบ้านที่วางกำลังแน่นหนาไม่ได้ นาทีที่ 28 ตูเร่ ดันสูงขึ้นมาลองส่องไกล บอลพุ่งไปแฉลบผู้เล่น โบลตัน ออกหลังได้ลูกเตะมุม ก่อนที่ ตูเร่ จะได้ลูกเก็บตกในจังหวะถัดมาแล้วตะบันในลักษณะเดิมอีกครั้ง หนนี้ลูกไปแฉลบขาผู้เล่น 2-3 ทีก่อนที่จะสะกิดขา กัลลาส เฉี่ยวเสาสองไปเพียงนิดเดียว
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อาร์เซนอล ต้องมาตกที่นั่งลำบากด้วยการเหลือผู้เล่นในสนามเพียงแค่ 10 คนจากการที่ อาบู ดิยาบี้ ไปสไลด์เปิดปุ่มใส่ เกรตาร์ สไตน์สสัน อย่างหนักหน่วง ผู้ตัดสิน คริส ฟอย จึงควักใบแดงตะเพิดกองกลางชาวฝรั่งเศสออกไปอย่างไม่ลังเล
จนถึงนาทีที่ 43 กองเชียร์เดอะ ทร็อตเตอร์ส ก็ได้เฮกันอีกครั้งจากจังหวะที่ เกวิน แม็คคานน์ เข้าไปบีบ คเล็บ ซึ่งรับลูกทุ่มมาจาก กาแอล กลิชี่ ก่อนบอลทะลักไปถึง ดิยุฟ ที่ไหลต่อสั้นๆ ให้ แม็ทธิว เทย์เลอร์ เจ้าเก่าสอดเข้ามายิงเร็วทันที ลูกไปแฉลบส้นเท้า กัลลาส เปลี่ยนทางหนีมือ อัลมูเนีย เสียบมุมประตู เป็นอันว่า โบลตัน ขึ้นนำ อาร์เซนอล ไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 เดอะ กันเนอร์ส ได้โอกาสสับไกจาก เชส ฟาเบรกาส ที่รับบอลจาก ตูเร่ ทางด้านขวาแล้วซัดหน้าเขตโทษ แต่ก็ส่งลูกเหินหลุดออกไปทางเสาแรก ก่อนที่เจ้าบ้านจะบุกกระหน่ำเข้าใส่เป็นชุดๆ จนเกือบได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 57 จากการขึ้นโขกลูกเตะมุมของ แกรี่ เคฮิลล์ แต่ไปติดเซฟของ อัลมูเนีย บนเส้นประตูอย่างหวุดหวิด
กระทั่ง นาทีที่ 62 ปืนใหญ่ก็มาได้ประตูตีตื้นเป็น 2-1 จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ฟาเบรกาส ปั่นโค้งเข้ามา อีบัน คัมโป้ พยายามโหม่งสกัดที่เสาแรก แต่กลายเป็นบอลทะลักไปถึงเสาสอง กัลลาส จึงโฉบเข้ามาแปจ่อๆ โดยไม่มีใครประกบผ่าน อัล ฮับซี่ เข้าไป เท่านั้นไม่พอ อาร์เซนอล ยังมาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 ในอีก 6 นาทีต่อมาจากจังหวะที่ แกรี่ เคฮิลล์ พุ่งเข้ามาสไลด์ คเล็บ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน คริส ฟอย เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่ง ฟาน เพอร์ซี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
พอสกอร์กลับมาเท่ากัน ทีมเยือนก็เริ่มได้ใจเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้เหนือกว่า นาทีที่ 80 ธีโอ วัลค็อตต์ กองหน้าตัวสำรองที่ลงมาแทน ฟิลิปป์ เซนเดอรอส พาบอลกระชากขึ้นมาทางด้านขวาเข้าเขตโทษก่อนคืนจากเส้นหลังให้ ฟาน เพอร์ซี่ สอดเข้ามาซัดที่เสาแรก แต่กลับซัดออกไปเอง
นาทีสุดท้ายก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อ อาร์เซนอล เป็นฝ่ายยิงแซงขึ้นนำ 3-2 จนได้จากจังหวะที่ กลิชี่ ไหลทะลุช่องให้ คเล็บ หลุดถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วหักเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส สอดเข้ามาแปไปแฉลบ แอนดี้ โอไบรอัน ก่อนจะโดนขา เจย์ลอยด์ ซามูเอล เป็นคนสุดท้ายเข้าไปสัมผัสตาข่าย เป็นประตูชัยให้ อาร์เซนอล เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ เพิ่มเป็น 70 แต้ม ส่วน โบลตัน มี 26 คะแนน รั้งอันดับ 3 จากท้ายตารางต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน วันเดอเรอร์ส – อาลี อัล ฮับซี่, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แอนดี้ โอไบรอัน, เจย์ลอยด์ ซามูเอล, เกวิน แม็คคานน์, อีบัน คัมโป้, แดนนี่ กัทธรี่, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวีส์
อาร์เซนอล – มานูเอล อัลมูเนีย, โคโล ตูเร่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้, นิคลาส เบนดท์เนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (เมาโร ซาราเต้ 1-0 นาที 40), (เมาโร ซาราเต้ 2-0 นาที 54), (เอลาโน่ บลูแมร์ 2-1 จุดโทษ นาที 58), (แกรี่ แม็คเชฟฟรีย์ 3-1 จุดโทษ นาที 76)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ อาร์เซนอล 2-3 (แม็ทธิว เทย์เลอร์ 1-0 นาที 14), (แม็ทธิว เทย์เลอร์ 2-0 นาที 43), (วิลเลียม กัลลาส 2-1 นาที 62), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 2-2 จุดโทษ นาที 68), (เจย์ลอยด์ ซามูเอล 2-3 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 90)
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (เอมานูเอล บีญ่า 1-0 นาที 10), (ดิโอมองซี่ กามาร่า 1-1 นาที 24), (ดีน ลีค็อก 1-2 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 78), (เอมานูเอล บีญ่า 2-2 นาที 80)
ปอร์ทสมัธ ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 นาที 32), (เจอร์เมน เดโฟ 2-0 นาที 90),
เรดดิ้ง เสมอ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-0
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (เฟรดริก ลุงเบิร์ก 0-1 นาที 18), (เคนวีน โจนส์ 1-1 นาที 29), (แอนดี้ รีด 2-1 นาที 90)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0 (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 นาที 16), (คาร์ลอส เตเบซ 2-0 นาที 33), (เวย์น รูนีย์ 3-0 นาที 53), (เวย์น รูนีย์ 4-0 นาที 70)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 29 มีนาคม 2551
โบลตัน วันเดอเรอร์ส 2- 3 อาร์เซนอล
ที่สนามรีบอค สเตเดี้ยม โบลตัน วันเดอเรอร์ส เฝ้ารังของตัวเองรับมือกับ อาร์เซนอล ที่ยังไม่ชนะใครในลีกติดต่อกันมา 5 นัด เกมนี้เจ้าถิ่นขาด ริคาร์โด้ การ์ดเนอร์ แบ็กซ้ายตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ เจย์ลอยด์ ซามูเอล ลงมารับหน้าที่แทน ส่วนแนวรุกยังคงมี 3 ประสานอย่าง เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, ม็ทธิว เทย์เลอร์ และ เควิน เดวีส์ เช่นเคย
ด้านทีมเยือนมีการปรับทัพเล็กน้อย โดยโยก โคโล ตูเร่ ออกมายืนแบ็กขวาแทนที่ บาการี่ ซาญ่า ซึ่งเดี้ยงมาจากนัดบุกไปแพ้ เชลซี 1-2 แล้วให้ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส ลงมาเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ วิลเลียม กัลลาส นอกจากนั้นยังพัก เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองโดยให้ นิคลาส เบนดท์เนอร์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
เปิดเกมมาในช่วงแรก เดอะ ทร็อตเตอร์ส พยายามเจาะเข้าทำประตู แต่เป็น เดอะ กันเนอร์ส ที่ได้โอกาสลุ้นแบบจะแจ้งก่อน นาทีที่ 9 อเล็กซานเดอร์ คเล็บ ไหลทะลุช่องให้ ฟาน เพอร์ซี่ หลุดเข้าไปซัดติดตัว อาลี อัล ฮับซี่ แต่ก็ถูกไลน์แมนยกธงล้ำหน้าในจังหวะนี้ด้วย จากนั้น นาทีที่ 13 อาบู ดิยาบี้ ก็จ่ายให้ ฟาน เพอร์ซี่ แต่งบอลหาช่องก่อนซัดหน้าเขตโทษ ทว่าส่งลูกหลุดกรอบออกไปไกล
อย่างไรก็ตาม โบลตัน กลับเป็นฝ่ายทะลวงประตูขึ้นนำ 1-0 ได้ก่อนในนาทีที่ 14 จากจังหวะที่ได้ลูกทุ่มทางด้านขวา ดิยุฟ บังบอลได้ก่อนตวัดต่อให้ เกรตาร์ สไตน์สสัน หลุดไปเกือบถึงเส้นหลังแล้วเปิดโด่งเข้ากลาง และเป็น แม็ทธิว เทย์เลอร์ สอดเข้ามาโขกตัดหน้า โคโล ตูเร่ ผ่านมือ มานูเอล อัลมูเนีย เข้าไปกองก้นตาข่าย
หลังจากตกเป็นรอง ปืนใหญ่ก็กางตำรารุกหวังทวงประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ยังเจาะแนวรับเจ้าบ้านที่วางกำลังแน่นหนาไม่ได้ นาทีที่ 28 ตูเร่ ดันสูงขึ้นมาลองส่องไกล บอลพุ่งไปแฉลบผู้เล่น โบลตัน ออกหลังได้ลูกเตะมุม ก่อนที่ ตูเร่ จะได้ลูกเก็บตกในจังหวะถัดมาแล้วตะบันในลักษณะเดิมอีกครั้ง หนนี้ลูกไปแฉลบขาผู้เล่น 2-3 ทีก่อนที่จะสะกิดขา กัลลาส เฉี่ยวเสาสองไปเพียงนิดเดียว
เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม อาร์เซนอล ต้องมาตกที่นั่งลำบากด้วยการเหลือผู้เล่นในสนามเพียงแค่ 10 คนจากการที่ อาบู ดิยาบี้ ไปสไลด์เปิดปุ่มใส่ เกรตาร์ สไตน์สสัน อย่างหนักหน่วง ผู้ตัดสิน คริส ฟอย จึงควักใบแดงตะเพิดกองกลางชาวฝรั่งเศสออกไปอย่างไม่ลังเล
จนถึงนาทีที่ 43 กองเชียร์เดอะ ทร็อตเตอร์ส ก็ได้เฮกันอีกครั้งจากจังหวะที่ เกวิน แม็คคานน์ เข้าไปบีบ คเล็บ ซึ่งรับลูกทุ่มมาจาก กาแอล กลิชี่ ก่อนบอลทะลักไปถึง ดิยุฟ ที่ไหลต่อสั้นๆ ให้ แม็ทธิว เทย์เลอร์ เจ้าเก่าสอดเข้ามายิงเร็วทันที ลูกไปแฉลบส้นเท้า กัลลาส เปลี่ยนทางหนีมือ อัลมูเนีย เสียบมุมประตู เป็นอันว่า โบลตัน ขึ้นนำ อาร์เซนอล ไปก่อน 2-0 ในครึ่งแรก
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 เดอะ กันเนอร์ส ได้โอกาสสับไกจาก เชส ฟาเบรกาส ที่รับบอลจาก ตูเร่ ทางด้านขวาแล้วซัดหน้าเขตโทษ แต่ก็ส่งลูกเหินหลุดออกไปทางเสาแรก ก่อนที่เจ้าบ้านจะบุกกระหน่ำเข้าใส่เป็นชุดๆ จนเกือบได้ประตูที่ 3 ในนาทีที่ 57 จากการขึ้นโขกลูกเตะมุมของ แกรี่ เคฮิลล์ แต่ไปติดเซฟของ อัลมูเนีย บนเส้นประตูอย่างหวุดหวิด
กระทั่ง นาทีที่ 62 ปืนใหญ่ก็มาได้ประตูตีตื้นเป็น 2-1 จากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ฟาเบรกาส ปั่นโค้งเข้ามา อีบัน คัมโป้ พยายามโหม่งสกัดที่เสาแรก แต่กลายเป็นบอลทะลักไปถึงเสาสอง กัลลาส จึงโฉบเข้ามาแปจ่อๆ โดยไม่มีใครประกบผ่าน อัล ฮับซี่ เข้าไป เท่านั้นไม่พอ อาร์เซนอล ยังมาได้ประตูตีเสมอเป็น 2-2 ในอีก 6 นาทีต่อมาจากจังหวะที่ แกรี่ เคฮิลล์ พุ่งเข้ามาสไลด์ คเล็บ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสิน คริส ฟอย เป่าให้เป็นลูกจุดโทษ ซึ่ง ฟาน เพอร์ซี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด
พอสกอร์กลับมาเท่ากัน ทีมเยือนก็เริ่มได้ใจเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้เหนือกว่า นาทีที่ 80 ธีโอ วัลค็อตต์ กองหน้าตัวสำรองที่ลงมาแทน ฟิลิปป์ เซนเดอรอส พาบอลกระชากขึ้นมาทางด้านขวาเข้าเขตโทษก่อนคืนจากเส้นหลังให้ ฟาน เพอร์ซี่ สอดเข้ามาซัดที่เสาแรก แต่กลับซัดออกไปเอง
นาทีสุดท้ายก็เกิดเรื่องไม่คาดฝัน เมื่อ อาร์เซนอล เป็นฝ่ายยิงแซงขึ้นนำ 3-2 จนได้จากจังหวะที่ กลิชี่ ไหลทะลุช่องให้ คเล็บ หลุดถึงเส้นหลังด้านซ้ายแล้วหักเข้ากลางให้ ฟาเบรกาส สอดเข้ามาแปไปแฉลบ แอนดี้ โอไบรอัน ก่อนจะโดนขา เจย์ลอยด์ ซามูเอล เป็นคนสุดท้ายเข้าไปสัมผัสตาข่าย เป็นประตูชัยให้ อาร์เซนอล เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ เพิ่มเป็น 70 แต้ม ส่วน โบลตัน มี 26 คะแนน รั้งอันดับ 3 จากท้ายตารางต่อไป
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
โบลตัน วันเดอเรอร์ส – อาลี อัล ฮับซี่, เกรตาร์ สไตน์สสัน, แกรี่ เคฮิลล์, แอนดี้ โอไบรอัน, เจย์ลอยด์ ซามูเอล, เกวิน แม็คคานน์, อีบัน คัมโป้, แดนนี่ กัทธรี่, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, แม็ทธิว เทย์เลอร์, เควิน เดวีส์
อาร์เซนอล – มานูเอล อัลมูเนีย, โคโล ตูเร่, ฟิลิปป์ เซนเดอรอส, วิลเลียม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่, อาบู ดิยาบี้, นิคลาส เบนดท์เนอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 (เมาโร ซาราเต้ 1-0 นาที 40), (เมาโร ซาราเต้ 2-0 นาที 54), (เอลาโน่ บลูแมร์ 2-1 จุดโทษ นาที 58), (แกรี่ แม็คเชฟฟรีย์ 3-1 จุดโทษ นาที 76)
โบลตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ อาร์เซนอล 2-3 (แม็ทธิว เทย์เลอร์ 1-0 นาที 14), (แม็ทธิว เทย์เลอร์ 2-0 นาที 43), (วิลเลียม กัลลาส 2-1 นาที 62), (โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 2-2 จุดโทษ นาที 68), (เจย์ลอยด์ ซามูเอล 2-3 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 90)
ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เสมอ ฟูแล่ม 2-2 (เอมานูเอล บีญ่า 1-0 นาที 10), (ดิโอมองซี่ กามาร่า 1-1 นาที 24), (ดีน ลีค็อก 1-2 ทำเข้าประตูตัวเอง นาที 78), (เอมานูเอล บีญ่า 2-2 นาที 80)
ปอร์ทสมัธ ชนะ วีแกน แอธเลติก 2-0 (เจอร์เมน เดโฟ 1-0 นาที 32), (เจอร์เมน เดโฟ 2-0 นาที 90),
เรดดิ้ง เสมอ แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส 0-0
ซันเดอร์แลนด์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 (เฟรดริก ลุงเบิร์ก 0-1 นาที 18), (เคนวีน โจนส์ 1-1 นาที 29), (แอนดี้ รีด 2-1 นาที 90)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ แอสตัน วิลล่า 4-0 (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 1-0 นาที 16), (คาร์ลอส เตเบซ 2-0 นาที 33), (เวย์น รูนีย์ 3-0 นาที 53), (เวย์น รูนีย์ 4-0 นาที 70)
