เอมิล เฮสกีย์ กลายเป็นตัวแสบของ เชลซี หลังสังหารประตูตีให้ วีแกน แอธเลติก ตามตีเสมอเป็น 1-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ส่งผลให้แบ่งไปทีมละ 1 คะแนน โดยที่สิงห์บลูส์ยังตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 5 คะแนน
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2551
เชลซี 1 – 1 วีแกน แอธเลติก
เกมพรีเมียร์ชิป นัดมันเดย์ไนท์ เชลซี ทีมลุ้นแชมป์ลงเล่นในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง รับการมาเยือนของ วีแกน แอธเลติก ซึ่งกำลังหนีการตกชั้น เกมนี้ อัฟราม แกรนท์ กุนซือเจ้าบ้านได้รับข่าวดี เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารมือหนึ่งที่บาดเจ็บเย็บ 50 เข็มบริเวณริมฝีปากและคางผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้โดยสวมเครื่องป้องกันที่คางลงเฝ้าเสา นอกจากนั้น ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก่งได้พักโดยไม่อยู่ในรายชื่อตัวสำรอง ทำให้ นิโกลาส์ อเนลก้า ได้ลงล่าตาข่ายแทน
ขณะที่ สตีฟ บรูซ ของทีมเยือนจัดทัพเกือบฟูลทีมมาสู้โดยมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ ไรอัน เทย์เลอร์ ทำเกมริมเส้นขวา-ซ้าย ส่วนคู่หัวหอกใช้กองหน้าร่างยักษ์อย่าง เอมิล เฮสกีย์ กับ มาร์คัส เบนท์ ลงประสานงานร่วมกัน
เปิดฉากมาได้เพียง 5 นาที สิงโตน้ำเงินครามก็ได้โอกาสเข้าทำครั้งแรกของเกม เมื่อ ซาโลมง กาลู พาบอลตีคู่ไปกับ เควิน คิลบาน จนสุดเส้นหลังก่อนดึงบอลย้อนทางกลับมาแล้วเปิดเข้ากลางให้ อเนลก้า ขึ้นโหม่ง ทว่าหัวหอกเฟรนช์แมนโดนบอลบางเกินไป ลูกจึงผ่านหน้าประตูหลุดไปทางเสาสอง
เดอะ ลาติกส์ หาทางตอบโต้บ้าง นาทีที่ 13 วาเลนเซีย โยนโด่งจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ อเล็กซ์ โหม่งสกัดออกมาไม่พ้นอันตรายจึงถูก ไรอัน เทย์เลอร์ ตวัดยิงสวนด้วยเท้าขวา แต่ก็โดนบอลไม่เต็มใบ ลูกไต่ข้างเท้าห่างกรอบประตูออกไปไกล จากนั้น จูเลียโน่ เบลเล็ตติ แบ็กขวาเชลซีเติมขึ้นมาตะบันเต็มข้อ ลูกเหินข้ามคาน
วีแกน มีลุ้นใกล้เคียงในนาทีที่ 20 เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ล็อกบอลกลับหลังไปเข้าทาง วาเลนเซีย สอดเข้ามากระหน่ำเรียดเต็มหลังเท้าแถวมุมเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งเข้าหาเสาแรกด้วยความรุนแรง แต่ เช็ก ยังไม่พลาดล้มตัวดักเอาไว้ได้ แม้ลูกจะกระฉอกจากซองออกหลังก็ตาม
เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ตวัดจากเส้นหลังด้านขวาเข้ามาหน้าประตู อเนลก้า เทกตัวโหม่งสะบัดลูกย้อยทำท่าจะเสียบใต้คาน แต่ คริส เคิร์กแลนด์ ยังถอยไปสปริงตัวปัดหลุดกรอบออกหลังได้อย่างหวุดหวิด 7 นาทีต่อมา เบลเล็ตติ เปิดลูกเตะมุมให้ กาลู โหม่งไปแฉลบศีรษะ พอล ชาร์เนอร์ บอลกระดอนพื้นหนีมือ เคิร์กแลนด์ ไปแล้ว แต่ โยซิป สโกโก้ ที่ยืนคุมเส้นหวดเคลียร์ข้ามคานได้ทันเวลา จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 54 เจ้าถิ่นบุกเข้าใส่เป็นระลอก เบลเล็ตติ เปิดลูกเตะมุมเลยมาตกใส่ จอห์น เทอร์รี่ ที่จัดการวอลเลย์กลางประตู แต่บอลไปกระแทกคานอย่างจัง ก่อนที่ลูกจะถูกหนุนกลับเข้ามาอีกครั้ง หนนี้ กาลู ได้หวดเหน่งๆ แต่ เคิร์กแลนด์ อ่านเกมได้ไวออกมาบล็อกเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของสิงห์บลูส์ก็มาสัมฤทธิ์ผลในนาทีต่อมา เมื่อ โจ โคล ตัวสำรองที่ลงมาแทน มาลูด้า ในครึ่งหลังผ่านบอลจากด้านขวาเข้าเขตโทษให้ อเนลก้า บังบอลก่อนแตะคืนให้ มิชาเอล เอสเซียง เติมเข้ามาสับไกเต็มเหนี่ยวส่งลูกพุ่งแหวกช่องระหว่าง สโกโก้ กับ เอมเมอร์สัน บอยซ์ ผ่านมือ เคิร์กแลนด์ เสียบมุมอย่างเด็ดขาดให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
เดอะ ลาติกส์ หาทางทวงประตูตีเสมอแต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับ เชลซี เข้าไปได้ หนำซ้ำยังถูกคุกคามเป็นระยะๆ นาทีที่ 76 มิชาเอล บัลลัค ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องมาทางด้านขวา ส่งลูกโด่งข้ามกำแพงออกไป จากนั้นนาทีเดียว เจ้าถิ่นต่อบอลลำเลียงขึ้นมาจากกลางสนามก่อนที่ อเนลก้า จะไหลออกทางขวาให้ โจ โคล แตะเข้าไปซัดในเขตโทษ ส่งบอลพุ่งเหินสามเหลี่ยมเสาแรกออกหลัง นาทีสุดท้าย เอสเซียง ได้เข่นในเขตโทษแต่ถูก เคิร์กแลนด์ ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดได้
กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ วีแกน ก็มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ เจสัน คูมาส มิดฟิลด์ตัวสำรองโยนบอลจากด้านซ้ายโค้งไปที่เสาสอง เอมิล เฮสกีย์ สลัดหนี จอห์น เทอร์รี่ พุ่งเข้ามาแปด้วยเท้าขวาแบบสุดเหยียด แม้ เช็ก จะปัดโดนแต่ก็เอาไม่อยู่ลูกทะลักเข้าไปสัมผัสตาข่าย หมดเวลาจึงเสมอกันไป 1-1 แบ่งไปทีมล 1 คะแนน ทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 75 คะแนน รั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 แต้ม ส่วน วีแกน มี 35 อยู่ที่ 15 ของตารางเช่นเคย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, จูเลียโน่ เบลเล็ตติ, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, เวย์น บริดจ์, มิชาเอล บัลลัค, มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู, นิโกลาส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า
วีแกน แอธเลติก – คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลช็อต, พอล ชาร์เนอร์, เอมเมอร์สัน บอยซ์, เควิน คิลบาน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, โยซิป สโกโก้, วิลสัน ปาลาซิออส, ไรอัน เทย์เลอร์, เอมิล เฮสกีย์, มาร์คัส เบนท์
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันจันทร์ที่ 14 เมษายน 2551
เชลซี 1 – 1 วีแกน แอธเลติก
เกมพรีเมียร์ชิป นัดมันเดย์ไนท์ เชลซี ทีมลุ้นแชมป์ลงเล่นในสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ของตัวเอง รับการมาเยือนของ วีแกน แอธเลติก ซึ่งกำลังหนีการตกชั้น เกมนี้ อัฟราม แกรนท์ กุนซือเจ้าบ้านได้รับข่าวดี เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารมือหนึ่งที่บาดเจ็บเย็บ 50 เข็มบริเวณริมฝีปากและคางผ่านการทดสอบความฟิตลงสนามได้โดยสวมเครื่องป้องกันที่คางลงเฝ้าเสา นอกจากนั้น ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงตัวเก่งได้พักโดยไม่อยู่ในรายชื่อตัวสำรอง ทำให้ นิโกลาส์ อเนลก้า ได้ลงล่าตาข่ายแทน
ขณะที่ สตีฟ บรูซ ของทีมเยือนจัดทัพเกือบฟูลทีมมาสู้โดยมี อันโตนิโอ วาเลนเซีย กับ ไรอัน เทย์เลอร์ ทำเกมริมเส้นขวา-ซ้าย ส่วนคู่หัวหอกใช้กองหน้าร่างยักษ์อย่าง เอมิล เฮสกีย์ กับ มาร์คัส เบนท์ ลงประสานงานร่วมกัน
เปิดฉากมาได้เพียง 5 นาที สิงโตน้ำเงินครามก็ได้โอกาสเข้าทำครั้งแรกของเกม เมื่อ ซาโลมง กาลู พาบอลตีคู่ไปกับ เควิน คิลบาน จนสุดเส้นหลังก่อนดึงบอลย้อนทางกลับมาแล้วเปิดเข้ากลางให้ อเนลก้า ขึ้นโหม่ง ทว่าหัวหอกเฟรนช์แมนโดนบอลบางเกินไป ลูกจึงผ่านหน้าประตูหลุดไปทางเสาสอง
เดอะ ลาติกส์ หาทางตอบโต้บ้าง นาทีที่ 13 วาเลนเซีย โยนโด่งจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ อเล็กซ์ โหม่งสกัดออกมาไม่พ้นอันตรายจึงถูก ไรอัน เทย์เลอร์ ตวัดยิงสวนด้วยเท้าขวา แต่ก็โดนบอลไม่เต็มใบ ลูกไต่ข้างเท้าห่างกรอบประตูออกไปไกล จากนั้น จูเลียโน่ เบลเล็ตติ แบ็กขวาเชลซีเติมขึ้นมาตะบันเต็มข้อ ลูกเหินข้ามคาน
วีแกน มีลุ้นใกล้เคียงในนาทีที่ 20 เมื่อ วิลสัน ปาลาซิออส ล็อกบอลกลับหลังไปเข้าทาง วาเลนเซีย สอดเข้ามากระหน่ำเรียดเต็มหลังเท้าแถวมุมเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งเข้าหาเสาแรกด้วยความรุนแรง แต่ เช็ก ยังไม่พลาดล้มตัวดักเอาไว้ได้ แม้ลูกจะกระฉอกจากซองออกหลังก็ตาม
เชลซี เกือบได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 27 จากจังหวะที่ ฟลอร็องต์ มาลูด้า ตวัดจากเส้นหลังด้านขวาเข้ามาหน้าประตู อเนลก้า เทกตัวโหม่งสะบัดลูกย้อยทำท่าจะเสียบใต้คาน แต่ คริส เคิร์กแลนด์ ยังถอยไปสปริงตัวปัดหลุดกรอบออกหลังได้อย่างหวุดหวิด 7 นาทีต่อมา เบลเล็ตติ เปิดลูกเตะมุมให้ กาลู โหม่งไปแฉลบศีรษะ พอล ชาร์เนอร์ บอลกระดอนพื้นหนีมือ เคิร์กแลนด์ ไปแล้ว แต่ โยซิป สโกโก้ ที่ยืนคุมเส้นหวดเคลียร์ข้ามคานได้ทันเวลา จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 54 เจ้าถิ่นบุกเข้าใส่เป็นระลอก เบลเล็ตติ เปิดลูกเตะมุมเลยมาตกใส่ จอห์น เทอร์รี่ ที่จัดการวอลเลย์กลางประตู แต่บอลไปกระแทกคานอย่างจัง ก่อนที่ลูกจะถูกหนุนกลับเข้ามาอีกครั้ง หนนี้ กาลู ได้หวดเหน่งๆ แต่ เคิร์กแลนด์ อ่านเกมได้ไวออกมาบล็อกเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของสิงห์บลูส์ก็มาสัมฤทธิ์ผลในนาทีต่อมา เมื่อ โจ โคล ตัวสำรองที่ลงมาแทน มาลูด้า ในครึ่งหลังผ่านบอลจากด้านขวาเข้าเขตโทษให้ อเนลก้า บังบอลก่อนแตะคืนให้ มิชาเอล เอสเซียง เติมเข้ามาสับไกเต็มเหนี่ยวส่งลูกพุ่งแหวกช่องระหว่าง สโกโก้ กับ เอมเมอร์สัน บอยซ์ ผ่านมือ เคิร์กแลนด์ เสียบมุมอย่างเด็ดขาดให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0
เดอะ ลาติกส์ หาทางทวงประตูตีเสมอแต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับ เชลซี เข้าไปได้ หนำซ้ำยังถูกคุกคามเป็นระยะๆ นาทีที่ 76 มิชาเอล บัลลัค ปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องมาทางด้านขวา ส่งลูกโด่งข้ามกำแพงออกไป จากนั้นนาทีเดียว เจ้าถิ่นต่อบอลลำเลียงขึ้นมาจากกลางสนามก่อนที่ อเนลก้า จะไหลออกทางขวาให้ โจ โคล แตะเข้าไปซัดในเขตโทษ ส่งบอลพุ่งเหินสามเหลี่ยมเสาแรกออกหลัง นาทีสุดท้าย เอสเซียง ได้เข่นในเขตโทษแต่ถูก เคิร์กแลนด์ ซูเปอร์เซฟล้มตัวปัดได้
กระทั่งช่วงทดเวลาบาดเจ็บ วีแกน ก็มาตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ เจสัน คูมาส มิดฟิลด์ตัวสำรองโยนบอลจากด้านซ้ายโค้งไปที่เสาสอง เอมิล เฮสกีย์ สลัดหนี จอห์น เทอร์รี่ พุ่งเข้ามาแปด้วยเท้าขวาแบบสุดเหยียด แม้ เช็ก จะปัดโดนแต่ก็เอาไม่อยู่ลูกทะลักเข้าไปสัมผัสตาข่าย หมดเวลาจึงเสมอกันไป 1-1 แบ่งไปทีมล 1 คะแนน ทำให้ เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 75 คะแนน รั้งอันดับ 2 ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 5 แต้ม ส่วน วีแกน มี 35 อยู่ที่ 15 ของตารางเช่นเคย
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี – ปีเตอร์ เช็ก, จูเลียโน่ เบลเล็ตติ, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, เวย์น บริดจ์, มิชาเอล บัลลัค, มิชาเอล เอสเซียง, จอห์น โอบี มิเกล, ซาโลมง กาลู, นิโกลาส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า
วีแกน แอธเลติก – คริส เคิร์กแลนด์, มาริโอ เมลช็อต, พอล ชาร์เนอร์, เอมเมอร์สัน บอยซ์, เควิน คิลบาน, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, โยซิป สโกโก้, วิลสัน ปาลาซิออส, ไรอัน เทย์เลอร์, เอมิล เฮสกีย์, มาร์คัส เบนท์