ศึกชิงกรีนแจ็กเก็ต บนสนามออกัสต้า คันทรี คลับอันเป็นเมเจอร์แรกของวงการสวิงในฤดูกาล 2008 ที่กำลังจะเริ่มต้นรอบแรกในวันพฤหัสที่ 10 เมษายนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโปรที่ถูกจับตามองผลงานมากที่สุดหนีไม่พ้น ไทเกอร์ วู้ดส์ ผู้พิชิตออกัสต้ามาแล้วถึง 4 สมัย และการชิงชัยในครั้งนี้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีกสำหรับวู้ดส์ เพราะแชมป์สนามนี้คือบทเริ่มต้นของการทำศึกแกรนด์สแลม ที่เจ้าตัวเคยประกาศเอาไว้เมื่อต้นฤดูกาล
หากวู้ดส์ทำได้สำเร็จนอกจากจะเป็น นักกอล์ฟอาชีพรายแรกที่คว้าแชมป์เมเจอร์ทั้งสี่รายการมาครองได้ในฤดูกาลเดียวแล้ว ยังทำให้สถิติเมเจอร์ 18 ครั้งของ แจ็ค นิกคลอส ที่วู้ดส์ ไล่ล่าอยู่ร่นช่องว่าให้แคบลงมาเหลืออีกเพียงแชมป์เมเจอร์เดียว
ผลงานล่าสุดของ “พญาเสือ” นั้นคว้าแชมป์ได้ถึง 8 รายการจาก 10 ทัวร์นาเม้นท์ล่าสุดที่เขาร่วมลงสนามทำการแข่งขัน ด้วยความพร้อมดังกล่าวคงไม่ใช่เรื่องที่เกินจริงสักเท่าไรนักหากจะเอ่ยว่า กรีนแจ็กเก็ต ตัวที่ 5 ของวู้ดส์นั้น "ไม่ยากเกินจะเอื้อมถึง"
ทั้งนี้ เออร์นี่ย์ เอลส์ โปรชื่อดังจาก แอฟริกาใต้ที่ต้องลงดวลวงสวิง บนแฟร์เวย์ของออกัสต้ากล่าวถึง "พญาเสือ" ว่า “แน่นอนว่าทัวร์นาเม้นท์ระดับเมเจอร์ ทุกคนต่างอยากพิชิตชัยและไทเกอร์ วู้ดส์ เพราะมันหมายถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่ท้ายที่สุดแล้วในรอบที่สี่ของเดอะมาสเตอร์ส ผมเชื่อว่า วู้ดส์ น่าจะมีโอกาสมากที่สุดในการคว้าแชมป์ไปครองเพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา ยังไม่มีนักกอล์ฟรายใดที่สามารถสร้างผลงานอันน่าอัศจรรย์ได้อย่างที่เขาทำ"
ในขณะเดียวกัน วู้ดส์ กล่าวกับสื่อมวลชนหลังจากออกรอบซ้อมเป็นที่ออกัสต้าเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า "นี่คือช่วงเวลาที่ผมรู้สึกว่าพร้อมมากที่สุด" ทั้งนี้วู้ดส์ เอ่ยอย่างมั่นใจว่า "ที่รู้สึกเช่นนั้นเพราะผมเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 4 สมัยที่ออกัสต้า นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงในชีวิตนักกอล์ฟอาชีพเลยก็ว่าได้ และนี่คือการลงสนามเป็นครั้งที่ 12 หรือ 13 ในเดอะ มาสเตอร์ส แน่นอนว่าเป้าหมายคือการคว้าแชมป์และเสื้อกรีนแจ็คเก็ตตัวที่ห้า มาครองให้สำเร็จ"
นอกจากเป้าหมายที่ต้องการคว้าแชมป์เมเจอร์สแรกของฤดูกาลมาครองแล้ว วู้ดส์ รู้ดีว่านี่คือก้าวแรกของการทำ กอล์ฟ แกรนด์สแลม แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยทำ ไทเกอร์ สแลม ด้วยการเป็นนักกอล์ฟอาชีพรายเดียวที่สามารถคว้าแชมป์เมเจอร์ มาครองได้ 4 รายการในช่วงระยะเวลา 294 วันอันเชื่อมต่อระหว่างฤดูกาล 2000 และ 2001 ด้วยแชมป์ยูเอส โอเพ่น บริทิช โอเพ่น พีจีเอ แชมเปี้ยนชิป ก่อนจะปิดท้ายด้วย เดอะ มาสเตอร์สในปี 2001
วู้ดส์ กล่าวถึงความสำคัญของทัวร์นาเม้นท์เมเจอร์ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับตัวเขาและนักกอล์ฟอาชีพโดยกล่าวว่า "เมเจอร์คือรายการที่พิเศษสุด ทุกคนต่างก็ต้องการเป็นผู้ชนะ สำหรับผมแล้วถือว่าน่าพอใจมิใช่น้อยที่สามารถคว้าแชมป์รายการนี้มาได้แล้วถึง 4 ครั้งแต่นั่นยังไม่เพียงพอ เพราะถ้าคุณต้องการคว้า แกรนด์สแลม หมายความว่าต้องเริ่มต้นด้วยชัยชนะที่ออกัสต้า และผมเองก็เชื่อมั่นว่าจะทำได้สำเร็จเพื่อก้าวต่อไป"
อันที่จริงแล้ววู้ดส์ เคยเก็บชัยชนะมาถึงครึ่งทางของกอล์ฟแกรนด์สแลมในฤดูกาล 2002 เมื่อ "พญาเสือ" คว้าแชมป์ เดอะมาสเตอร์ส และ ยูเอส โอเพ่น ก่อนจะไปพลาดใน ดิ โอเพ่น รวมไปถึง พีจีเอ แชมป์เปี้ยนชิป แต่ผลงานคว้าแชมป์เมเจอร์ได้สองรายการติดต่อกันภายในฤดูกาลเดียวนั้น นอกจากวู้ดส์ แล้วมีเพียง อาร์โนลด์ พาลเมอร์ (1960) และ แจ็ค นิกคลอส (1972) เท่านั้น
ถึงเวลานี้หัวข้อที่เหล่านักกอล์ฟในคลับเฮ้าส์ของออกัสต้า รวมไปถึงแฟนกีฬาวงสวิง คือการติดตามก้าวแรกของวู้ดส์ ในการพิชิตกอล์ฟ แกรนด์สแลม ว่าจะสำเร็จหรือไม่ และจะมีนักกอล์ฟรายใดเป็นตัวแทรกเพื่อหยุดความร้อนแรงของ “พญาเสือ” โดยมุมมองของ “พาเดรก แฮร์ริงตัน” แชมป์บริทิชโอเพ่น ปี 2007 นั้นได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวว่า
"มีการพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการพิชิต กอล์ฟ แกรนด์สแลม มาตั้งแต่เปิดฤดูกาลเพราะตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบันยังไม่มีคนทำได้สำเร็จ และเวลานี้ทุกคนต่างรอคอยผู้พิชิต 4 เมเจอร์ในฤดูกาลเดียว ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาเห็นจะมีเพียง แจ็ค นิกคลอส และ เบน โฮแกนที่ทำได้ใกล้เคียงมาก ขณะที่ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่า วู้ดส์ คือคนที่มีโอกาสมากกว่าใครแต่ก็คงไม่มีโปรรายใดปล่อยให้เขาทำผลงานดังกล่าวได้โดยง่าย"
ในขณะที่คู่ปรับตลอดกาลอย่าง ฟิล มิคเคลสัน โปรสิงห์อีซ้าย ที่เป็นผู้หยุดความร้อนแรงของวู้ดส์ ในการแข่งขันที่บอสตันเมื่อปีก่อน และทำให้เป็นทัวร์นาเม้นท์เดียวในรอบ 8 เดือนที่ วู้ดส์ ไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ กล่าวทิ้งท้ายถึงผู้พิชิต กอล์ฟ แกรนด์สแลมว่า "มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่จะมีนักกอล์ฟสักรายพิชิตแกรนด์สแลมเพียงแต่หนทางไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย”