xs
xsm
sm
md
lg

กำปั้นไทยสุดแกร่งซิวถ้วยคิงส์คัพ 7 สมัยติด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ขุนพลเสื้อกล้ามไทยพร้อมกับสตาฟฟ์โค้ช ถ่ายภาพร่วมกับ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.กีฬา
ขุนพลเสื้อกล้ามไทย เอ สุดแกร่ง เข้าชิง 5 รุ่น คว้าทองทั้ง 5 รุ่น คว้าตำแหน่งชนะเลิศคะแนนรวม ได้ครองถ้วยพระราชทานคิงสคัพ เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน พิชัย สาโยธา คว้ารางวัลนักชกยอดเยี่ยม หรือเบสบ็อกเซอร์ "เสธ.ทวีป"พล.อ.ทวีป จันทร์โรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ชี้กำปั้นไทยฝีมือพัฒนาขึ้น โดยเฉพาะอังคาร ชมพูพวง ที่สามารถพลิกเอาชนะอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกได้

การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงถ้วยพระราชทานคิงสคัพ ครั้งที่ 30 เมื่อ 10 เมษายนที่ผ่านมา ที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี เป็นการชกในรอบชิงชนะเลิศ โดยมี นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเดินทางมาเป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขัน ซึ่งทีมไทยยังต้องลุ้นตัวโก่งในการรักษาถ้วยพระราชทานสมัยที่ 7 ติดต่อกัน เนื่องจากมีก้ำปั้นตี๋จากแดนมังกร ผ่านเข้ามาชิงเหรียญทองได้ 5 รุ่น เท่ากัน

ผลปรากฏว่า ทีมนักชกไทยทำผลงานสะท้านสังเวียนผ้าใบ กวาดเหรียญทองเรียบทั้ง 5 รุ่น เริ่มที่รุ่นไลต์ฟลายเวต ( 48 กก.) นักชกไทยเข้าชิงฯกันเอง โดย อำนาจ รื่นเริง นักชกไทย เอ เจอกับ แก้ว พงษ์ประยูร นักชกไทย บี ปรากฎว่า หลังจากจบยกแรก อำนาจ นำอยู่ 3-2 คะแนน ขึ้นยก 2 แก้วก็ยอมแพ้ ทำให้ อำนาจ ชนะอาร์เอสซี.ยก 2 ประเดิมเหรียญทองแรกให้ทีมไทย เอ
สมจิตร จงจอหอ คว้าทองที่ 2 ให้ทีมไทย
ภายหลังการชก อำนาจ ซึ่งเป็นหนึ่งในนักชกที่โชว์ฟอร์มไม่ค่อยดีนักในรายการนี้กล่าวว่า “ถือว่าพอใจผลงานของตัวเองในระดับหนึ่งที่สามารถคว้าเหรียญทองมาครองได้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ชกไม่ดีส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่ค่อยได้ชกกับนักมวยในรุ่นเดียวกัน ส่วนใหญ่จะเป็นนักชกที่ลดน้ำหนักลงมา”

รุ่นฟลายเวต (51 กก.) สมจิตร จงจอหอ นักชกเหรียญเงินเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2007 จากทีมไทย เอ โชคดีไม่ต้องออกแรง เมื่อ ซู จี้ หมิง แชมป์โลก 2 สมัยจากจีน ไม่ยอมขึ้นชกโดยอ้างว่าได้รับบาดเจ็บที่นิ้ว ทำให้ สมจิตร ชนะผ่าน คว้าเหรียญทองที่ 2 ให้ทีมไทย เอ สบาย ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่า “รู้สึกประหลาดใจมากที่ ซู จี้ หมิง ไม่ยอมขึ้นชก เมื่อวานมีโอกาสได้คุยกัน เขาบอกว่าตัวเล็กกว่า และกล้ามเนื้อไม่แข็งแรงเท่าผม เพราะเพิ่งทำน้ำหนักขึ้นมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงกับถอนตัว รู้สึกเสียดายเหมือนกันเพราะจะเป็นโอกาสที่เราจะได้ทดสอบกำปั้นกับนักชกจีน ที่คาดว่าจะเป็นคู่แข่งสำคัญในโอลิมปิกเกมส์ที่จะถึงนี้ ซึ่งที่เขาไม่ยอมขึ้นชกก็น่าจะเป็นเพราะเขาไม่อยากให้เราเห็นรูปแบบการชกของนักมวยจากจีน เพราะกลัวจะจับทางได้”

รุ่นแบนตั้มเวต (54 กก.) วรพจน์ เพชรขุ้ม นักชกไทย เอ เจ้าของเหรียญเงินโอลิมปิก 2004 "เอเธนส์เกมส์" เจอกับ ยู กู นักชกชุดโอลิมปิกของจีน ปรากฎว่า เปิดฉากยกแรก วรพจน์ ดักต่อยจังหวะ 2 ได้เข้าเป้าชัดเจน ทำแต้มนำ 3-0 หมัด ขึ้นยก 2 นักชกจีนพยามเดินลุยเร็วขึ้น แต่ยิ่งเดินยิ่งโดน วรพจน์ โกยแต้มหนี 7-1 หมัด ขึ้นยก 3 นักชกจีนถอดใจขอยอมแพ้ ทำให้ วรพจน์ ชนะอาร์เอสซียก 3 คว้าทองที่ 3 ให้ทีมไทย เอ

วรพจน์ เปิดเผยหลังแข่งขันว่า “ไฟต์นี้ค่อนข้างวางแผนมาดี เพราะผมขยับหมัดหน้ายาว ซึ่งจะได้เปรียบกว่าเขาที่เน้นต่อยแบบกว้าง และพอเห็นว่าคะแนนค่อนข้างขาดไล่ไม่ทันแล้วจึงขอยอมแพ้ แต่เท่าที่ดูฟอร์มเขาก็น่าจะยังใส่ไม่เต็มร้อยด้วย อย่างไรก็ตาม หากไปเจอกันอีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเรารู้ทางเขาแล้ว”
พิชัย สาโยธา พ่วงรางวัลนักชกยอดเยี่ยมอีกตำแหน่ง
รุ่นไลต์เวต (60 กก.) พิชัย สาโยธา นักชกไทย เอ เจอกับ อเลกซี ทิสเชนโก นักชกรัสเซีย เจ้าของเหรียญทองแดงเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2007 ที่ชิคาโก เปิดฉากยกแรก นักชกหมีขาวเดินลุยสาวเป็นชุด พิชัย วนออกแล้วดักจิ้มซ้ายตรงได้เนื้อ ๆ นำก่อน 6-4 ขึ้นยก 2 พิชัย ยังดักจิ้มหมัดซ้ายโกยแต้มห่างเรื่อย ๆ แต่ปลายยก พลาดถอยไปติดเชือกโดนสาวชึดใหม่ ทำให้หมดยก 2 นำแค่ 17-16 หมัด ขึ้นยก 3 พิชัย ฮึดโยกหลอกแล้วจิ้มหมัดซ้ายตรงได้ดี โกยแต้มห่างอีกหน นำไป 33-21 หมัด ขึ้นยก 4 นักชกรัสเซียขอยอมแพ้ เพราะเห็นว่าแต้มตามเยอะ ชกไปก็ตามไม่ทัน สู้ถนอมตัวไว้ชกในโอลิมปิกดีกว่า ทำให้ พิชัย ชนะอาร์เอสซียก 4 คว้าทองที่ 4 ให้ทีมไทย เอ

โดย พิชัย ที่เกือบแย่ถูกคู่แข่งไล่อัดจนทำคะแนนมาเท่ากันในช่วงปลายยกที่ 2 ก่อนจะเร่งเครื่องเอาชนะไปแบบไม่ครบยกอีกรายกล่าวว่า “ตอนแรกนึกว่าจะแพ้แล้ว เพราะเขาเดินเข้าใส่ตลอด ในยกที่ 2 และขาผมก้าวไม่ออกทำให้ต้องยืนแลกกับเขาจนเสียไปหลายแต้ม ในโอลิมปิกต้องชกให้ดีกว่านี้ ซึ่งขึ้นอยู่ที่ตัวของผมเองที่ต้องมีระเบียบวินัยในการกินเพื่อควบคุมน้ำหนักตัว”

ปิดท้ายด้วยรุ่นมิดเดิลเวต (75 กก.) อังคาร ชมภูพวง เป็นนักชกไทยรายที่ 5 ที่ขึ้นเวที เจอศึกหนักพบกับ บัคติยา อาร์ตาเยฟ จากคาซัคสถาน เจ้าของเหรียญทองแดงเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ 2007 และอดีตเหรียญทองโอลิมปิก 2004 "เอเธนส์เกมส์" ในรุ่น 69 กก. แต่ อังคาร ชกแบบไม่กลัว โชว์สายตาโยกหลอกแล้วยิงขวาตรงเข้าใบหน้า สลับลำตัว นำไปก่อนในยกแรก 2-1 และ 7-3 ในยก 2 ขึ้ยยก 3 นักชกคาซัคสถายพยายามเดินลุยสาวเป็นชุด แต่ อังคาร โยกหลบแล้วโต้ตลอด ทำแต้มนำไป 10-5 จากนั้นในยกสุดท้าย แม้นักชกสถานจะเดินบุกเร็วขึ้น อังคาร เอาตัวรอดด้วยการวนออกซ้ายขวา แล้วหาจังหวะโต้ไปเรื่อย ๆ ครบ 4 ยก อังคาร พลิกเอาชนะไป 14-8 หมัด คว้าทองที่ 5 ให้ทีมไทย เอ

ส่วนผลการชกในรอบชิงฯคู่อื่น ๆ รุ่นเวลเตอร์เวต (69 กก.) ซิลามู ฮานาติ (จีน) ชนะคะแนน บัคฮีต ซาร์เซกบาเยฟ (คาซัคสถาน) 19-17, เฟเธอร์เวต (57 กก.) ดี ออตกอนดาไล (มองโกเลีย) ชนะคะแนน หยาง ลี่ (จีน) 14-9,ไลต์เวลเตอร์เวต (64 กก.) เจียง เม่ยเม่ยติเต๋อซุน (จีน) ชนะผ่าน เซริก ซาปิเยฟ (คาซัคสถาน)
โฉมหน้า 5 กำปั้นไทยที่คว้าเหรียญทอง
สรุปผลการแข่งขัน 7 ชาติ 8 ทีม ปรากฎว่า ทีมไทย เอ ชนะเลิศคะแนนรวม มี 30 แต้มจากการได้ 5 เหรียญทอง ได้ครองถ้วยพระราชทานคิงสคัพ เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน รองชนะเลิศได้แก่จีน มี 22 คะแนน จากการได้ 2 ทอง 3 เงิน 2 ทองแดง และที่ 3 คาซัคสถาน 10 คะแนน จากการได้ 3 เหรียญเงิน 2 ทองแดง, 4 มองโกเลีย 8 คะแนน ( 1 ทอง 5 ทองแดง), 5 รัสเซีย 5 คะแนน (1 เงิน 4 ทองแดง), 6 ไทย บี 3 คะแนน ( 1 เงิน 1 ทองแดง), 7 ญี่ปุ่น (2 ทองแดง) และ 8 ไต้หวัน ไม่มีแต้ม ส่วนนักชกยอดเยี่ยม หรือเบสบ็อกเซอร์ ได้แก่ พิชัย สาโยธา ในรุ่นไลต์เวต 60 กก.

ภายหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขัน"เสธ.ทวีป" พลเอกทวีป จันทรโรจน์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า "ผลการแข่งขันนับว่าเหนือความคาดหมาย โดยเฉพาะ อังคาร ที่สามารถพลิกเอาชนะอดีตนักชกเหรียญทองโอลิมปิกได้ สำหรับการเตรียมนักชกไทย 8 รุ่น ที่จะลุยโอลิมปิก 2008 "ปักกิ่งเกมส์" จากคิงสคัพครั้งนี้ มองโดยภาพรวม เห็นว่า นักชกพัฒนาขึ้นน่าพอใจ สมจิตร, วรพจน์ กลับมาท็อปฟอร์มแล้ว พิชัย ก็พัฒนาแต่ต้องเสริมเรื่องความแข็งแกร่ง ขณะที่ อำนาจ รื่นเริง กับ สายลม อาดี ต้องแก้ไขและปรับปรุงอีกมาก ส่วน มนัส บุญจำนงค์ และ นน บุญจำนงค์ ที่ไม่ได้ต่อยในคิงสคัพหนนี้ ถ้าดูแลรักษาร่างกายดี ๆ ก็จะเป็นความหวังในโอลิมปิกได้"
กำลังโหลดความคิดเห็น