ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ยอมรับว่า การพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2005 ทำให้ตนตกเป็นเหยื่อจากความคาดหวังของเหล่า เดอะ คอป ที่หวังเห็นทีมประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วยการซิวแชมป์พรีเมียร์ชิป อังกฤษ
“หงส์แดง” ผงาดขึ้นเถลิงบัลลังก์จ้าวยุโรป เมื่อ 3 ปีก่อน ในฤดูกาลแรกที่อดีตกุนซือบาเลนเซียเข้ามาทำทีมจากการเอาชนะ เอซี มิลาน ในการดวลจุดโทษ หลังเสมอในเวลา 120 นาที 3-3 ทั้งที่ตกเป็นรองไปก่อนถึง 0-3 ในครึ่งแรกของเวลาปกติ 90 นาที
เอล ราฟา กล่าวว่า “ก่อนที่ผมจะเข้ามา เราไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลยเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน นอกจากนั้น ยังคว้าอันดับ 4 ในลีกด้วยความยากลำบาก แต่ก็ยังได้ผ่านเข้าไปเล่นในแชมเปียนส์ ลีก ได้ ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเราคว้าแชมป์ยุโรปได้ ผู้คนก็เริ่มพูดถึงถ้วยรางวัลใบต่อไป”
“ปีถัดมาเราก็คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ อีกหนึ่งรายการ ซึ่งการได้ถ้วยรางวัลมาทำให้เราถูกมองว่าเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ลีก จากนั้นความคาดหวังก็เริ่มสูงขึ้นตามลำดับ และนั่นทำให้เราต้องลงเล่นภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น”
ขณะเดียวกัน เบนิเตซ ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า ต้องการเป็นเหมือนกับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำทีมในระยะยาวมาตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน “มันเป็นเรื่องสำคัญมากในการได้รับการสนับสนุน เป้าหมายในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการสร้างแนวทางและทีมที่พร้อมจะประสบความสำเร็จขึ้นมา”
“เวนเกอร์ รู้ดีเกี่ยวกับการสร้างสไตล์และแนวความคิดที่ต้องการให้กับทีมของเขา ซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราหวังที่จะดำเนินไปในทิศทางนั้นบ้าง แต่ความเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นช้ากว่าพวกเขาเล็กน้อย เนื่องจากยังมีหลายจุดที่ต้องปรับแต่งอยู่”
สำหรับ ลิเวอร์พูล เตรียมลงเตะนัดสำคัญกับ อาร์เซนอล ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ด้วยการบุกไปเยือน อาร์เซนอล ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ช่วงดึกวันพุธที่ 2 เมษายนนี้
“หงส์แดง” ผงาดขึ้นเถลิงบัลลังก์จ้าวยุโรป เมื่อ 3 ปีก่อน ในฤดูกาลแรกที่อดีตกุนซือบาเลนเซียเข้ามาทำทีมจากการเอาชนะ เอซี มิลาน ในการดวลจุดโทษ หลังเสมอในเวลา 120 นาที 3-3 ทั้งที่ตกเป็นรองไปก่อนถึง 0-3 ในครึ่งแรกของเวลาปกติ 90 นาที
เอล ราฟา กล่าวว่า “ก่อนที่ผมจะเข้ามา เราไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลยเป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน นอกจากนั้น ยังคว้าอันดับ 4 ในลีกด้วยความยากลำบาก แต่ก็ยังได้ผ่านเข้าไปเล่นในแชมเปียนส์ ลีก ได้ ตอนนั้นไม่มีใครคาดคิดว่าเราจะประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเราคว้าแชมป์ยุโรปได้ ผู้คนก็เริ่มพูดถึงถ้วยรางวัลใบต่อไป”
“ปีถัดมาเราก็คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ อีกหนึ่งรายการ ซึ่งการได้ถ้วยรางวัลมาทำให้เราถูกมองว่าเป็นผู้ท้าชิงแชมป์ลีก จากนั้นความคาดหวังก็เริ่มสูงขึ้นตามลำดับ และนั่นทำให้เราต้องลงเล่นภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มขึ้น”
ขณะเดียวกัน เบนิเตซ ยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า ต้องการเป็นเหมือนกับ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล ที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำทีมในระยะยาวมาตั้งแต่ปี 1996 จนถึงปัจจุบัน “มันเป็นเรื่องสำคัญมากในการได้รับการสนับสนุน เป้าหมายในระยะยาวเป็นสิ่งสำคัญหากคุณต้องการสร้างแนวทางและทีมที่พร้อมจะประสบความสำเร็จขึ้นมา”
“เวนเกอร์ รู้ดีเกี่ยวกับการสร้างสไตล์และแนวความคิดที่ต้องการให้กับทีมของเขา ซึ่งผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เราหวังที่จะดำเนินไปในทิศทางนั้นบ้าง แต่ความเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นช้ากว่าพวกเขาเล็กน้อย เนื่องจากยังมีหลายจุดที่ต้องปรับแต่งอยู่”
สำหรับ ลิเวอร์พูล เตรียมลงเตะนัดสำคัญกับ อาร์เซนอล ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก ด้วยการบุกไปเยือน อาร์เซนอล ที่สนามเอมิเรตส์ สเตเดียม ช่วงดึกวันพุธที่ 2 เมษายนนี้
