"บังยี"ยันเอเอฟซียังไม่ตัดสิทธิ์สโมสรไทย

“บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยปัดข่าวลือตัดสโมสรจากลีกไทยออกจากการแข่งขันศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีกนั้นไม่มีมูล แถมยันทุกฤดูกาลเอเอฟซีมีการประเมิน ด้าน “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดบอลอาชีพไทย ยันตัวแทนเอเอฟซีพอใจพัฒนาการบอลลีกของไทย พร้อมเตรียมเรียก 16 สโมสรประชุม 3 เมษายน นี้ก่อนยื่นเอกสารให้สมาคมฟุตบอลในวันที่ 4 เมษายนนี้เพื่อมอบให้เอเอฟซี

ตามที่มีข่าวออกมาว่าคณะกรรมการพัฒนาลีกอาชีพของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือเอเอฟซี ซึ่งเข้ามาตรวจสอบมาตรฐานการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงเดือนตุลาคมฤดูกาลที่ผ่านมา โดยระบุว่ามาตรฐานฟุตบอลลีกของประเทศไทยไม่ผ่านการประเมินมาตรฐานส่งผลให้สโมสรในลีกไทยถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก 2009 นั้น

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย ได้เรียกตัวแทน 16 สโมสรเข้าร่วมประชุมที่อาคาร 200 เตียง ภายในการกีฬาแห่งประเทศไทยเพื่อหารืองบดุลและการจัดตั้งสโมสร ก่อนที่ช่วงสาย มร.โตกูอิกิ ซูซูกิ รองประธานจัดการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก ชาวญี่ปุ่นพร้อมคณะได้เดินทางมาร่วมประชุมกับผู้บริหารวงการฟุตบอลไทยที่ห้องประชุมชั้น 22 โรงแรมเรดิสัน

หลังจากร่วมประชุมนานถึง 2 ชั่วโมง “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยพร้อมด้วย “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพของประเทศไทย, นายพีระ ฟองจินดารัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย กกท., “บิ๊กเปี๊ยก” องอาจ ก่อสินค้า เลขาฯส.ลูกหนังไทย ฯลฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ชั้น 3 โรงแรมเรดิสัน โดย มร.โตกูอิกิ ซูซูกิ เผยว่า นอกจากไทยแล้วทางคณะกรรมการพัฒนาลีกอาชีพของเอเอฟซีต้องเดินทางไปร่วมประชุมกับอีก 15 ประเทศซึ่งการเดินทางไปครั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลเอเชียที่จะได้ปรับโครงสร้างให้เป็นอาชีพอย่างเต็มตัว

มร.โตกูอิกิ กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ลีกฟุตบอลไทยมีการพัฒนาขึ้นไม่ว่าจะเป็นด้านของการจัดการแข่งขัน หรือแม้แต่สโมสร แต่ก็ไม่สามารถที่จะไปตัดสินด้วยตัวเองได้ว่าลีกลูกหนังไทยผ่านการประเมิน เพราะทางเอเอฟซีมีคณะกรรมการที่จะนำข้อมูลมาตัดสิน แต่ส่วนตัวแล้วถือว่าลีกไทยอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และจากการที่ฝ่ายจัดการแข่งขันรวมถึงตัวแทน 16 สโมสรของไทยจะเดินทางไปดูงานที่ญี่ปุ่นเราก็พร้อมให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนด้วยการเข้าไปศึกษาการทำงานของสโมสรอาชีพไม่ว่าจะเป็นทีมขนาดเล็ก, กลาง หรือใหญ่ เพื่อให้เป็นแบบอย่าง

รองประธานจัดฟุตบอลเอเอฟซีฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในการแข่งขันเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนลีก สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียจะคัดเลือก 32 สโมสรเข้าร่วมการแข่งขันโดยแบ่งออกเป็น 2 โซนคือโซนตะวันออกและตะวันตกซึ่งแต่ละโซนจะมี 16 ทีม โดยทั้ง 32 ทีมนั้นอาจจะมีทีมที่ผ่านเข้ามาด้วยการเล่นเพลย์ออฟ อย่างไรก็ตามสโมสรที่มีศักยภาพสูงอย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ อาจจะได้มากกว่า 1 ทีมแต่ไม่เกิน 4 ทีม ส่วนประเทศที่อยู่ในสายตาหรือกลุ่มที่มีการพัฒนาก็จะเข้าไปเล่นเอเอฟซี คัพ แทน นอกจากนี้แล้วในส่วนของเงินรางวัลทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียกำลังทำโครงสร้างเพื่อให้มีเงินอุดหนุนมากที่สุด

ด้าน “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมลูกหนังไทย เผยว่า ข้อเท็จจริงแล้วเอเอฟซีเขายังไม่ได้ดำเนินการอะไรในการตัดสิทธิ์สโมสรของไทยแถมการเดินทางมาประเมินผลครั้งนี้เขายังรู้สึกพอใจความก้าวหน้าของเราเพียงแต่บางจุดอย่างยังต้องปรับคือสโมสรต้องจดทะเบียนให้เป็นรูปแบบซึ่งเรามีเวลาถึงสิ้นเดือนเม.ย.นี้จากนั้นเดือน พ.ค.ทางเอเอฟซีถึงจะประกาศกลุ่มแรกว่ามีกี่ชาติที่จะผ่านเกณฑ์ และหากการประกาศครั้งแรกประเทศใดที่ไม่ผ่านเอเอฟซีก็จะพิจารณากลุ่มสุดท้ายอีกครั้งในช่วงเดือน ต.ค.นี้ นอกจากนี้แล้วในแต่ละปีเอเอฟซีก็จะทำการประเมินผล

ขณะที่ “บิ๊กแนต” ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ กล่าวว่า ไทยแลนด์ พรีเมียร์ลีก 2008 ฤดูกาลนี้ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯได้พยายามปรับลีกให้เป็นอาชีพตามกฎเกณฑ์ของเอเอฟซี ซึ่งเขาก็รู้สึกพอใจเป็นอย่างมาก และทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯจะส่งเอกสารข้อมูลขั้นต้นของแต่ละสโมสรไปให้สมาคมฟุตบอลฯภายในวันที่ 4 เม.ย.นี้เพื่อที่สมาคมฯจะได้ส่งไปให้สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียภายในวันที่ 7 เม.ย. นอกจากนี้แล้วเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในวันพฤหัสบดีที่ 3 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น.ทางคณะกรรมการจัดการแข่งขันจะหารือร่วมกับตัวแทน 16 สโมสร ที่อาคาร 200 เตียง ภายใน กกท.อีกครั้งก่อนส่งเอกสารไปให้สมาคมฟุตบอล