สุดถ่อมตน!"โค้ชเจด็จ"ยังไม่หวังฉลามชลเข้ารอบแม้นำฝูง

"โค้ชเจด็จ"เจด็จ มีลาภ หัวหน้าโค้ชของทีม"ฉลามชล"ชลบุรี สุดถ่อมตน เผยยังไม่หวังว่าทีมจะผ่านเข้ารอบที่ 2 แม้จะเพิ่งเอาชนะเมลเบิร์น วิคตอรี่ ทีมแชมป์จากออสเตรเลียไปได้อย่างสวยงาม 3-1 พร้อมกับขึ้นเป็นจ่าฝูงของการแข่งขันศึกเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกกลุ่มจีก็ตาม

เกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่มเอฟ นัดที่สอง ทีม"ฉลามชล"ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเอาชนะเมลเบิร์น วิคตอรี่ แชมป์จากออสเตรเลียไปได้ 3-1 โดย"ฉลามชล"ได้ประตูออกนำไปก่อนในนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกจาก เนย์ ฟาเบียโน่ ดาวยิงตัวเก่งของทีม แต่แชมป์จากออสเตรเลียก็มาตามตีเสมอได้จากดาเนียล ออลซอปป์ ในนาทีที 57 แต่ จูเลส บาก้า กองหน้าแคเมอรูนตัวสำรองของชลบุรี เอฟซี ก็มาเป็นตัวทีเด็ดของเจ้าบ้าน เมื่อลงมาเหมายิงคนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 79 และ90 ทำให้ชลบุรีเอฟซีเอาชนะทีมแชมป์จากแดนจิงโจ้เก็บ 3 คะแนนเต็ม พร้อมกับขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มจีได้สำเร็จด้วยการแข่งสองนัดมี 4 คะแนนเท่ากับ กัมบะโอซาก้า แต่ว่าประตูได้เสียเหนือกว่า

โดยภายหลังจบเกม"โค้ชเจด็จ"เจด็จ มีลาภ หัวหน้าโค้ชของทีม"ฉลามชล"ชลบุรี เอฟซี ได้ออกมาเปิดเผยว่า"สำหรับก่อนลงสนามผมได้วางแผนไว้สองรูปแบบ โดยในครึ่งแรกจะใช้การโจมตีจากด้านข้างจากฝั่งซ้ายและขวา โดยมี อาทิตย์ สุนทรพิธ และเอกพัน อินทเสน คอยทำเกม ส่วนในครึ่งหลังผมวางแผนให้นักเตะที่มีทักษะความสามารถเฉพาะตัวสูงอย่าง เนย์ ฟาเบียโน หรือ พิภพ คอยลากลุยเจาะเข้าทำ ซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมาในนัดนี้ก็ถือว่าเราทำได้ตามแผนที่วางเอาไว้"

โค้ชเจด็จกล่าวต่ออีกว่า"ผมคิดว่าการที่เราได้สองประตูในช่วงท้ายเกมนั้นคงเป็นเพราะกองหลังของเมลเบิร์นเริ่มที่จะเนือย จึงทำให้โบก้าที่เพิ่งจะลงสนามไปสามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับกองหลังเมลเบิร์นและสามารถทำประตูได้ ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมเราชนะในนัดนี้ต้องบอกเลยว่าแฟนบอลมีส่วนเป็นอย่างมาก แม้ว่าจริงๆแล้วผมอยากให้ไปเล่นที่ชลบุรีมากกว่า แต่การเล่นที่สนามศุภชลาศัยก็ยังมีแฟนตามมาเชียร์ ซึ่งผมต้องขอขอบคุณกองเชียร์เป็นอย่างมากที่มาให้กำลังใจกับทีมของเรา"

"ส่วนความหวังในการเข้ารอบต่อไปนั้น ต้องบอกว่าในตอนนี้ผมยังไม่คิดไปถึงจุดนั้น เพราะเรายังมีเกมหนักอีกหลายเกม ทั้งต้องไปเยือน ชุนนัม ดราก้อน, ไปเยือนเมลเบิร์น วิคตอรี่ อีกทั้งเรายังต้องเล่นกับกัมบะโอซาก้าด้วย ซึ่งแต่ละเกมล้วนแล้วแต่หินทั้งนั้น เราจึงต้องมีสมาธิกับเกมการแข่งขันทีละนัดไป"

ด้าน เออเนสต์ เมอร์ริค กุนซือของทีมเมลเบิร์น วิคตอรี่ ได้ออกมากล่าวว่า "ผมยอมรับว่าในเกมนี้ทีมชลบุรีสมควรเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริงเพราะพวกเขาเล่นได้ดีกว่า และสามารถสร้างเกมเร็วกดดันทีมเราได้ตลอด เราไม่สามารถที่จะหยุดเกมเร็วของชลบุรีได้เลย ซึ่งประตูที่ 2 ของชลบุรีนั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่ไม่สามารถทำให้เรากลับมาได้ในเกมนี้"

สำหรับโปรแกรมในนัดต่อไปในศึกเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีกกลุ่มจีนั้น ชลบุรี เอฟซี จะต้องบุกไปเยือนชุนนัม ดราก้อนส์ (เกาหลีใต้) ในวันที่ 9 เมษายนนี้ ส่วนเมลเบิร์น วิคตอรี่ (ออสเตรเลีย)จะกลับไปเล่นในบ้านพบกับกัมบะโอซาก้า(ญี่ปุ่น)ในวันเดียวกัน