คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
นับแต่ถูกปอร์ตสมัธของกุนซือ แฮร์รี่ เรดแน๊ปป์ น็อกจนตกรอบเอฟเอ คัพ อย่างน่าอับอาย ดูเหมือนว่าขวัญของเหล่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังหาทางกลับเข้าร่างไม่ถูก
หรือว่า กุนซือขาใหญ่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังตกที่นั่งเดียวกับ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูลเมื่อช่วงต้นฤดูกาล ที่หมุนเวียนนักเตะ จนเหล่านักเตะ กองเชียร์ที่เหนียวแน่น และเจ้าของทีม ต่างหัวเสียไปตาม ๆ กัน
กระนั้น ‘ราฟา’ ก็หมุนเวียนนักเตะจนพบทีมที่ลงตัวและมีประสิทธิภาพ ผลงานในลีกปลายฤดูกาลกระเตื้องขึ้นมาวูบ ๆ อันดับ 4 ของตารางคงไม่หนีไปไหน ทั้งสามารถเขี่ยอินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงกัลโช่ ซีเรีย อา กระเด็นออกนอกเส้นทางด้วยประตูรวม 3-0 พาตัวเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และที่สำคัญหัวหอกจากสเปน เฟร์นานโด ตอร์เรส ฟอร์มกำลังเข้าฟัก
ขณะ ‘เฟอร์กี้’ กำลังติดหล่มโรเตชั่น โดยเฉพาะนักเตะกองกลาง ภายหลังพอล สโคลส์ ศิษย์รักหายบาดเจ็บกลับมาลงสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูคู่แข่งได้น้อยแทบไม่น่าเชื่อ ความผิดไม่ได้อยู่ที่สโคลส์ แต่เพราะทีมมีกองกลางล้นเหลือ --คาร์ลอส เตเบซ,อันแดร์สัน,ไมเคิล คาร์ริก,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์,ปาร์ค จี ซอง และ ดาร์เรน เฟลชเชอร์ ทุกคนอยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเฉพาะภายหลังชนะอาร์เซนอล 4-0 จน ‘เฟอร์กี้’ เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง ลางไม่ดีเกิดขึ้นนัดเอาชนะโอลิมปิก ลียง ในบ้าน 1-0 ตามด้วยพ่ายปอร์ตสมัธคาบ้านอย่างน่าเจ็บใจ
และเมื่อคืนวันเสาร์ กว่า แมนฯ ยูฯ จะเฉือนเอาชนะดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมตกชั้นท้ายตารางไปได้ 1-0 แฟน ๆ ต้องรอถึงนาทีที่ 75 เซียนเล็กเซียนใหญ่ที่มั่นใจว่าแมนฯ ยูฯ ต้องยิงเละแน่ ๆ บัดนี้น้ำตานอง..โปรดอย่าลืมว่าสัปดาห์ที่แล้วดาร์บี้ฯ ถูกเชลซีถล่มเละ 6-1 ประตู
เวลานี้ กองหน้า กองกลางของลิเวอร์พูล เชลซี และ อาร์เซนอล ทำประตูได้อย่างน่าอิจฉา จบฤดูกาลเผลอ ๆ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หรือไม่ก็เป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส อาจซิวถ้วยดาวซัลโวปาดหน้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงโค้งสุดท้ายก็เป็นได้
ใครที่คิดว่าแมนฯ ยูฯ จะป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิปไว้ได้ คงต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างนะครับ รวมถึงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
ก่อนเกมกับดาร์บี้ฯ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษชาวอิตาลี อดีตกุนซือทีม ‘หมาป่า’ โรม่า ที่เข้าออกโอลด์แทร๊ฟฟอร์ดแทบทุกสัปดาห์ คงสังเกตเห็นฟอร์มเป๋ ๆ ของเหล่านักเตะ ‘ปิศาจแดง’ เขาจึงลองข่มขวัญโดยทายว่าโรม่าน่าจะชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม และแล้ว แมนฯ ยูฯ ก็เป๋ให้เห็นในเกมกับดาร์บี้ฯ คาเปลโล่ เลือกช่วงจังหวะที่เหาะสมและมันได้ผล ผมเชื่อว่าศิษย์ ‘เฟอร์กี้’ ทุกคนได้ยินคำพูดของ ‘ดอน คาเปลโล่’
ผมเชื่อว่า ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือโรม่า ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กัปตันทีม หลังได้ยินคำพูดของคาเปลโล่ พวกเขาน่าจะมีกำลังใจขึ้นอักโข ยิ่งเห็นคู่ต่อสู้ออกอาการเป๋ ๆ ยิงประตูทีมท้ายตารางยังลำบาก ความเกรงกลัวจะเบาบางลงไปมาก เมื่อนึกถึงชัยชนะทั้งเหยาและเยือนต่อทีมยักษ์อย่าง รีล มาดริด ไม่มีเหตุผลอะไรที่นักเตะโรม่าจะต้องหวาดกลัวแมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะโรม่าบางคนออกมาแสดงความหวาดกลัวให้เหล่า ‘ปิศาจแดง’ หลงระเริง แต่เชื่อเถอะลึก ๆ พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวอะไรเลย ทั้งเตรียมพร้อมเล่นงานไว้อย่างแยบยล ในวันที่นักเตะจากแมนเชสเตอร์ไปเยือนรังหมาป่าที่กรุงโรม
ผมไม่คิดว่า ‘เฟอร์กี้’ จะออกมาบอกให้คาเปลโล่เงียบเสียง แต่เชื่อว่าผู้อาวุโสจากค้นหาความผิดพลาดของตัวเองให้พบ ยังมีเวลาให้เขาปรับปรุงทีมสำหรับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน้อย 15 วัน และอีกสัปดาห์หลังเล่นเกมแรก แต่ถ้าเขายังจัดทีมแบบรักพี่เสียดายน้อง ตัวเขาเองที่จะเจ็บปวดมากกว่าใคร
เพราะก่อนวางมือ ‘เฟอร์กี้’ บอกใครต่อใคร ว่าเขาต้องการแชมป์ถ้วยใหญ่ของสโมสรยุโรปอีกสมัย
นับแต่ถูกปอร์ตสมัธของกุนซือ แฮร์รี่ เรดแน๊ปป์ น็อกจนตกรอบเอฟเอ คัพ อย่างน่าอับอาย ดูเหมือนว่าขวัญของเหล่านักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังหาทางกลับเข้าร่างไม่ถูก
หรือว่า กุนซือขาใหญ่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังตกที่นั่งเดียวกับ ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือลิเวอร์พูลเมื่อช่วงต้นฤดูกาล ที่หมุนเวียนนักเตะ จนเหล่านักเตะ กองเชียร์ที่เหนียวแน่น และเจ้าของทีม ต่างหัวเสียไปตาม ๆ กัน
กระนั้น ‘ราฟา’ ก็หมุนเวียนนักเตะจนพบทีมที่ลงตัวและมีประสิทธิภาพ ผลงานในลีกปลายฤดูกาลกระเตื้องขึ้นมาวูบ ๆ อันดับ 4 ของตารางคงไม่หนีไปไหน ทั้งสามารถเขี่ยอินเตอร์ มิลาน จ่าฝูงกัลโช่ ซีเรีย อา กระเด็นออกนอกเส้นทางด้วยประตูรวม 3-0 พาตัวเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก และที่สำคัญหัวหอกจากสเปน เฟร์นานโด ตอร์เรส ฟอร์มกำลังเข้าฟัก
ขณะ ‘เฟอร์กี้’ กำลังติดหล่มโรเตชั่น โดยเฉพาะนักเตะกองกลาง ภายหลังพอล สโคลส์ ศิษย์รักหายบาดเจ็บกลับมาลงสนาม แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูคู่แข่งได้น้อยแทบไม่น่าเชื่อ ความผิดไม่ได้อยู่ที่สโคลส์ แต่เพราะทีมมีกองกลางล้นเหลือ --คาร์ลอส เตเบซ,อันแดร์สัน,ไมเคิล คาร์ริก,โอเว่น ฮาร์กรีฟส์,ปาร์ค จี ซอง และ ดาร์เรน เฟลชเชอร์ ทุกคนอยู่ในฟอร์มที่ดี โดยเฉพาะภายหลังชนะอาร์เซนอล 4-0 จน ‘เฟอร์กี้’ เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง ลางไม่ดีเกิดขึ้นนัดเอาชนะโอลิมปิก ลียง ในบ้าน 1-0 ตามด้วยพ่ายปอร์ตสมัธคาบ้านอย่างน่าเจ็บใจ
และเมื่อคืนวันเสาร์ กว่า แมนฯ ยูฯ จะเฉือนเอาชนะดาร์บี้ เคาน์ตี้ ทีมตกชั้นท้ายตารางไปได้ 1-0 แฟน ๆ ต้องรอถึงนาทีที่ 75 เซียนเล็กเซียนใหญ่ที่มั่นใจว่าแมนฯ ยูฯ ต้องยิงเละแน่ ๆ บัดนี้น้ำตานอง..โปรดอย่าลืมว่าสัปดาห์ที่แล้วดาร์บี้ฯ ถูกเชลซีถล่มเละ 6-1 ประตู
เวลานี้ กองหน้า กองกลางของลิเวอร์พูล เชลซี และ อาร์เซนอล ทำประตูได้อย่างน่าอิจฉา จบฤดูกาลเผลอ ๆ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หรือไม่ก็เป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส อาจซิวถ้วยดาวซัลโวปาดหน้าคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในช่วงโค้งสุดท้ายก็เป็นได้
ใครที่คิดว่าแมนฯ ยูฯ จะป้องกันแชมป์พรีเมียร์ชิปไว้ได้ คงต้องเผื่อใจเอาไว้บ้างนะครับ รวมถึงถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ด้วย
ก่อนเกมกับดาร์บี้ฯ ฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติอังกฤษชาวอิตาลี อดีตกุนซือทีม ‘หมาป่า’ โรม่า ที่เข้าออกโอลด์แทร๊ฟฟอร์ดแทบทุกสัปดาห์ คงสังเกตเห็นฟอร์มเป๋ ๆ ของเหล่านักเตะ ‘ปิศาจแดง’ เขาจึงลองข่มขวัญโดยทายว่าโรม่าน่าจะชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีม และแล้ว แมนฯ ยูฯ ก็เป๋ให้เห็นในเกมกับดาร์บี้ฯ คาเปลโล่ เลือกช่วงจังหวะที่เหาะสมและมันได้ผล ผมเชื่อว่าศิษย์ ‘เฟอร์กี้’ ทุกคนได้ยินคำพูดของ ‘ดอน คาเปลโล่’
ผมเชื่อว่า ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ กุนซือโรม่า ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ กัปตันทีม หลังได้ยินคำพูดของคาเปลโล่ พวกเขาน่าจะมีกำลังใจขึ้นอักโข ยิ่งเห็นคู่ต่อสู้ออกอาการเป๋ ๆ ยิงประตูทีมท้ายตารางยังลำบาก ความเกรงกลัวจะเบาบางลงไปมาก เมื่อนึกถึงชัยชนะทั้งเหยาและเยือนต่อทีมยักษ์อย่าง รีล มาดริด ไม่มีเหตุผลอะไรที่นักเตะโรม่าจะต้องหวาดกลัวแมนฯ ยูไนเต็ด มีนักเตะโรม่าบางคนออกมาแสดงความหวาดกลัวให้เหล่า ‘ปิศาจแดง’ หลงระเริง แต่เชื่อเถอะลึก ๆ พวกเขาไม่ได้หวาดกลัวอะไรเลย ทั้งเตรียมพร้อมเล่นงานไว้อย่างแยบยล ในวันที่นักเตะจากแมนเชสเตอร์ไปเยือนรังหมาป่าที่กรุงโรม
ผมไม่คิดว่า ‘เฟอร์กี้’ จะออกมาบอกให้คาเปลโล่เงียบเสียง แต่เชื่อว่าผู้อาวุโสจากค้นหาความผิดพลาดของตัวเองให้พบ ยังมีเวลาให้เขาปรับปรุงทีมสำหรับเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างน้อย 15 วัน และอีกสัปดาห์หลังเล่นเกมแรก แต่ถ้าเขายังจัดทีมแบบรักพี่เสียดายน้อง ตัวเขาเองที่จะเจ็บปวดมากกว่าใคร
เพราะก่อนวางมือ ‘เฟอร์กี้’ บอกใครต่อใคร ว่าเขาต้องการแชมป์ถ้วยใหญ่ของสโมสรยุโรปอีกสมัย