คอลัมน์ "หัวใจในกีฬา" โดย จำลอง ฝั่งชลจิตร
โกรธ โมโห ผิดหวัง เสียความรู้สึก... นี่คืออารมณ์โดยรวมๆ ของไอ้น้อง --ฟรานเชส ฟราเบกาส มิดฟิลด์ห้องเครื่องของอาร์เซนอลและทีมชาติสเปน ที่แสดงออกต่อฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชาวอิตาลี กรณีไม่เลือก เดวิด เบ็คแฮม เข้าร่วมฝึกซ้อมเตรียมทีมเตะอุ่นเครื่องกับสวิตเซอร์แลนด์ ณ สนามนิวเวมบลีย์ คืนวันพุธที่จะถึง
ฟราเบกาสเพิ่งสนิทสนมกับเบ็คแฮ่ม ช่วงหนึ่งเดือนที่ซูเปอร์สตาร์อาวุโสมาร่วมซ้อมกับนักเตะอาร์เซนอล ทั้งนี้เพื่อรักษาความฟิต หรือจงใจให้อยู่คลองสายตาของคาเปลโล่ก็ตาม แม้จะเป็นเกมอุ่นเครื่องเคาะสนิมธรรมดาๆ ทว่า สำหรับเบ็คแฮ่มถ้าถูกเลือกเข้าร่วม เขาจะเป็นนักเตะอีกคนที่ได้สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษเป็นนัดที่ 100 กระโดดขึ้นไปยืนเคียงข้างผู้อาวุโสอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน,เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์,บิลลี่ ไรท์ และ ยอดนายทวาร ปีเตอร์ ชิลตัน คงเพราะความสนิทสนมและประทับใจในบุคลิกของเบ็คแฮ่ม ไอ้น้องเชสเลยโมโหแทนเสียเลย
ถ้าอยู่ในระยะมือยื่นถึง อาวุโสหน้าหินอย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ อาจจะยื่นนิ้วไปดีดใบหูเด็กน้อยรุ่นลูกสักเป๊าะ...นี่มันเรื่องของป๋าเอ็งอย่าป่วน ป๋ารู้จักพี่เขาดี ที่พี่เขาอุตส่าห์บินจากอเมริกามาซ้อมโชว์ทำเป็นลิเกอยู่หน้าประตูบ้านป๋า ลึกๆ พี่เขาคงต้องการให้สื่อมวลอังกฤษเล่นข่าวการฟิตซ้อม แล้วเช้าวันต่อมาภาพข่าวจะเข้าหูเข้าตาของป๋า พี่เขาคิดว่าข่าวสารกับงานมวลชนสามารถบีบป๋าให้เลือก .... โถ เล่นกันอย่างนี้ถ้าเรียกเข้าทีมป๋าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มันต้องเล่นให้เนียนกว่านี้
ผมลองทายใจคาเปลโล่... มันคงไม่เป็นอย่างนั้นเสียทั้งหมดหรอก เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่กำลังตกต่ำ จะมานั่งเล่นปาหี่เรียกเบ็คแฮ่มเข้าติดทีมเพราะเสียงเชียร์ของชาวอังกฤษ ทั้งๆ นักเตะคนดังไม่ได้ลงสนามเล่นจริงนานนับเดือน แถมยังเดินทางไปร่วมงานโน้นนี้ราวกับป๊อปสตาร์ ถ้าเรียกมาติดทีมย่อมถูกติเตียนว่าเล่นตามเสียงเชียร์ และไม่ยุติธรรมกับนักเตะอังกฤษที่ลงสนามสัปดาห์ละเกมสองเกม นี่ไม่ใช่วิธีของอาวุโสหน้าหินอย่างแน่นอน
คาเปลโล่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติอังกฤษ ไม่ใช่ผู้จัดการของเดวิด เบ็คแฮ่ม เรื่องอะไรจะต้องแคร์หากไม่ต้องการใช้ประโยชน์ หรือไปหลงลิเกจัดฉากหน้าประตูบ้าน ความสำเร็จของทีมชาติอังกฤษยิ่งใหญ่กว่า และนั่นคือความรับผิดชอบทั้งหมดที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษฝากความหวังไว้กับเขา กระนั้นเขาก็ไม่ได้ปิดโอกาสของเบ็คแฮ่มเสียทีเดียว
เดวิด เบ็คแฮ่ม อาจจะโทร.ขอบใจไอ้น้องเชส ที่เห็นเขาอยู่ในสายตา แต่ก็ไม่โวยวายที่นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษที่ไม่เลือกเขา ลึกๆ เขาอาจผิดหวังเอามากๆ และการยิงฟรีคิกในสนามซ้อมของอาร์เซนอลพลาดเป้าไปอย่างเขินๆ
เรื่องของทีมชาติอังกฤษ คาเปลโล่กับเบ็คแฮ่ม ยังไม่จบลงแค่นี้ ผมเชื่อว่าเบ็คแฮ่มจะไม่ยอมแพ้ เขาจะซ้อมๆๆ ให้แข็งแกร่ง โชว์ผลงานในสนามให้ยอดเยี่ยมจนคาเปลโล่ต้องเรียกกลับสู่ทีม ไม่ใช่อะไรที่ดำเนินไปอย่างง่ายๆ ตามเสียงเชียร์--- เรื่องนี้ลึกๆ เหมือนนิยายที่วางพล๊อตไว้เรียบร้อยแล้ว ตัวเอกต้องยอมกล้ำกลืนความผิดหวังเสียก่อน หลังจากนั้นเขาจะต้องมานะพยายามต่อสู้จนกลับมาได้อีกครั้ง
ถึงเวลานั้น เบ็คแฮ่ม คาเปลโล่และกองเชียร์จะมีความสุขร่วมกัน...เชื่อเถอะ
โกรธ โมโห ผิดหวัง เสียความรู้สึก... นี่คืออารมณ์โดยรวมๆ ของไอ้น้อง --ฟรานเชส ฟราเบกาส มิดฟิลด์ห้องเครื่องของอาร์เซนอลและทีมชาติสเปน ที่แสดงออกต่อฟาบิโอ คาเปลโล่ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชาวอิตาลี กรณีไม่เลือก เดวิด เบ็คแฮม เข้าร่วมฝึกซ้อมเตรียมทีมเตะอุ่นเครื่องกับสวิตเซอร์แลนด์ ณ สนามนิวเวมบลีย์ คืนวันพุธที่จะถึง
ฟราเบกาสเพิ่งสนิทสนมกับเบ็คแฮ่ม ช่วงหนึ่งเดือนที่ซูเปอร์สตาร์อาวุโสมาร่วมซ้อมกับนักเตะอาร์เซนอล ทั้งนี้เพื่อรักษาความฟิต หรือจงใจให้อยู่คลองสายตาของคาเปลโล่ก็ตาม แม้จะเป็นเกมอุ่นเครื่องเคาะสนิมธรรมดาๆ ทว่า สำหรับเบ็คแฮ่มถ้าถูกเลือกเข้าร่วม เขาจะเป็นนักเตะอีกคนที่ได้สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษเป็นนัดที่ 100 กระโดดขึ้นไปยืนเคียงข้างผู้อาวุโสอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน,เซอร์ บ็อบบี้ มัวร์,บิลลี่ ไรท์ และ ยอดนายทวาร ปีเตอร์ ชิลตัน คงเพราะความสนิทสนมและประทับใจในบุคลิกของเบ็คแฮ่ม ไอ้น้องเชสเลยโมโหแทนเสียเลย
ถ้าอยู่ในระยะมือยื่นถึง อาวุโสหน้าหินอย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ อาจจะยื่นนิ้วไปดีดใบหูเด็กน้อยรุ่นลูกสักเป๊าะ...นี่มันเรื่องของป๋าเอ็งอย่าป่วน ป๋ารู้จักพี่เขาดี ที่พี่เขาอุตส่าห์บินจากอเมริกามาซ้อมโชว์ทำเป็นลิเกอยู่หน้าประตูบ้านป๋า ลึกๆ พี่เขาคงต้องการให้สื่อมวลอังกฤษเล่นข่าวการฟิตซ้อม แล้วเช้าวันต่อมาภาพข่าวจะเข้าหูเข้าตาของป๋า พี่เขาคิดว่าข่าวสารกับงานมวลชนสามารถบีบป๋าให้เลือก .... โถ เล่นกันอย่างนี้ถ้าเรียกเข้าทีมป๋าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน มันต้องเล่นให้เนียนกว่านี้
ผมลองทายใจคาเปลโล่... มันคงไม่เป็นอย่างนั้นเสียทั้งหมดหรอก เป็นผู้จัดการทีมชาติอังกฤษที่กำลังตกต่ำ จะมานั่งเล่นปาหี่เรียกเบ็คแฮ่มเข้าติดทีมเพราะเสียงเชียร์ของชาวอังกฤษ ทั้งๆ นักเตะคนดังไม่ได้ลงสนามเล่นจริงนานนับเดือน แถมยังเดินทางไปร่วมงานโน้นนี้ราวกับป๊อปสตาร์ ถ้าเรียกมาติดทีมย่อมถูกติเตียนว่าเล่นตามเสียงเชียร์ และไม่ยุติธรรมกับนักเตะอังกฤษที่ลงสนามสัปดาห์ละเกมสองเกม นี่ไม่ใช่วิธีของอาวุโสหน้าหินอย่างแน่นอน
คาเปลโล่เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาติอังกฤษ ไม่ใช่ผู้จัดการของเดวิด เบ็คแฮ่ม เรื่องอะไรจะต้องแคร์หากไม่ต้องการใช้ประโยชน์ หรือไปหลงลิเกจัดฉากหน้าประตูบ้าน ความสำเร็จของทีมชาติอังกฤษยิ่งใหญ่กว่า และนั่นคือความรับผิดชอบทั้งหมดที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษฝากความหวังไว้กับเขา กระนั้นเขาก็ไม่ได้ปิดโอกาสของเบ็คแฮ่มเสียทีเดียว
เดวิด เบ็คแฮ่ม อาจจะโทร.ขอบใจไอ้น้องเชส ที่เห็นเขาอยู่ในสายตา แต่ก็ไม่โวยวายที่นายใหญ่ทีมชาติอังกฤษที่ไม่เลือกเขา ลึกๆ เขาอาจผิดหวังเอามากๆ และการยิงฟรีคิกในสนามซ้อมของอาร์เซนอลพลาดเป้าไปอย่างเขินๆ
เรื่องของทีมชาติอังกฤษ คาเปลโล่กับเบ็คแฮ่ม ยังไม่จบลงแค่นี้ ผมเชื่อว่าเบ็คแฮ่มจะไม่ยอมแพ้ เขาจะซ้อมๆๆ ให้แข็งแกร่ง โชว์ผลงานในสนามให้ยอดเยี่ยมจนคาเปลโล่ต้องเรียกกลับสู่ทีม ไม่ใช่อะไรที่ดำเนินไปอย่างง่ายๆ ตามเสียงเชียร์--- เรื่องนี้ลึกๆ เหมือนนิยายที่วางพล๊อตไว้เรียบร้อยแล้ว ตัวเอกต้องยอมกล้ำกลืนความผิดหวังเสียก่อน หลังจากนั้นเขาจะต้องมานะพยายามต่อสู้จนกลับมาได้อีกครั้ง
ถึงเวลานั้น เบ็คแฮ่ม คาเปลโล่และกองเชียร์จะมีความสุขร่วมกัน...เชื่อเถอะ
