เนดุม โอนูโอฮา กองหลังของทีม"เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลายมาเป็นฮีโร่ของทีมเมื่อโหม่งประตูชัยให้กับทีมแซงกลับมาชนะ"ไก่เดือยทอง"ท็อตแนม ฮอตสเปอร์สไปได้ 2-1 เก็บสามคะแนนเต็มได้สำเร็จ ส่วนฟูแล่มมีลุ้นหนีตกชั้นอีกเฮือกเมื่อเปิดบ้านเชือด"ท็อฟฟี่สีน้ำเงิน"เอฟเวอร์ตันไป 1-0 จากประตูชัยของไบรอัน แม็คไบรด์ ในศึกพรีเมียร์ลีกเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส
เกมพรีเมียร์ลีก คู่สุดท้ายประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิติ้ เปิดซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ของตัวเองรับการมาเยือนของ"ไก่เดือยทอง"ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส โดยเจ้าบ้านชนะเพียงนัดเดียวจาก 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ นัดนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนชือสวีดิชหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน เปตรอฟ ปีกซ้ายตัวจี๊ด เนื่องจากปีกบัลแกเรียนติดโทษแบน โดย อีริคส์สัน จัดให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เนรี่ คาสตินโญ่ หอกเม็กซิโก ด้าน สเปอร์ส ทีมเยือนเพิ่งจะอกหักตกรอบฟุตบอลยูฟ่าคัพมา เกมนี้ ฮวนเด้ รามอส ไม่มีปัญหาในการจัดทีม โดยมี ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ ร็อบบี้ คีน ตามเดิม
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที สเปอร์ส ได้โอกาสลุ้นประตูทันที เมื่อ ร็อบบี้ คีน ได้บอลในกรอบเขตโทษทางด้านขวาก่อนพลิกหลบ เนดุม โอนูโอฮา ก่อนยิงอัดเต็มแรงบอลผ่านปากประตูออกไป
เกมหลังจากนั้นยังคงเป็นฝ่ายทีมเยือนที่ได้โอกาสลุ้นประตูมากว่า นาที 12 เจอร์เมน จีนาส ได้ยิงไกลระยะ 30 หลาบอลข้ามคาน ต่อจากนั้นเป็น สตีด มัลบล็องค์ ได้ยิงไกลบ้างแต่บอลก็ข้ามคานออกไปเช่นกัน
"เรือใบสีฟ้า"เริ่มตั้งเกมรุกได้บ้าง และการบุกขึ้นมาในนาทีที่ 26 ก็เกือบที่จะได้ประตูทันที เมื่อ เอลาโน่ บูลแมร์ ได้จังหวะปั่นด้วยขวาจากลูกที่กองหลัง"ไก่เดือยทอง"สกัดไม่ขาด บอลข้ามมือ พอล โรบินสันไปแล้วแต่ไปติดหน้าอกของ ไมเคิล ดอว์สัน ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วในนาทีที่ 32 สเปอร์สก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะการเข้าตัดบอลพลาดของ เวดราน ชอร์ลูก้า บอลหลุดมาถึง ปาสคาล ชิมบงด้า ที่วันนี้เล่นเป็นแบ็คซ้ายแทงบอลให้กับ คีน หลุดเข้าไปยิงหักข้อด้วยซ้ายผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไปทางเสาสอง "ไก่เดือยทอง"ตีปีกขึ้นนำ 1-0
หลังจากโดนทำประตูขึ้นนำไป"เรือใบสีฟ้า"พยายามบุกหนักเพื่อที่จะทวงประตูคืน และก็เกือบได้จากสองจังหวะติดต่อกัน ครั้งแรก เป็นของ เนรี่ คาสตินโญ่ ที่วิ่งแซง ชิมบงด้า เข้าไปกดในกรอบเขตทางด้านขวาแต่บอลออกข้างเสาไป ครั้งต่อมาเป็น เอลาโน่ ที่ได้กดเต็มๆด้วยซ้ายจากลูกชุลมนหน้าปากประตูสเปอร์สแต่บอลยังไม่ผ่านมือ โรบินสันที่เซฟไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก สเปอร์สยังคงบุกมานำเจ้าบ้านอยู่ 1-0
เริ่มเกมครึ่งหลังมาแมนฯซิตี้ ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังอยู่พยายามเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูคืน และก็เกือบได้ทันที เมื่อ เบนจานี่ ได้บอลหลุดไปทางด้านขวาสุดเส้นหลังและปาดเข้ามาให้กับ คาสตินโญ่ ดึงจังหวะหลอก ดอว์สัน ก่อนซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่ผ่านมือของโรบินสัน
เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 59 "เรือใบสีฟ้า"ที่พยายามเดินหน้าบุกก็มาได้ประตูตามตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ เบนจานี่ ใช้ความเร็ววิ่งแซงกองหลังหลุดไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตู บอลกระดอนมาถึง เอลาโน่ โหม่งชงให้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สะกิดบอลเข้าไป แมนฯซิตี้ตามตีเสมอเป็น 1-1 หลังจากที่โดนประตูตีเสมอ ฮวนเด้ รามอส กุนซือ"ไก่เดือยทอง"จึงแก้เกม โดยส่ง ดาร์เรน เบนท์ ลงมาแทน ร็อบบี้ คีน กัปตันทีม ซึ่งทำให้ คีน ไม่พอใจอย่างมากจากการโดนเปลี่ยนตัวออกในครั้งนี้
ถึงนาทีที่ 72 แมนฯซิตี้ ก็มาทำประตูแซงขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่ เอลาโน่ เปิดโค้งมาให้กับ เนดุม โอนูโอฮา ทะยานขึ้นโขกเต็มๆหัว บอลพุ่งผ่าน โรบินสัน ที่ทำได้แต่เพียงยืนมองเข้าไป "เรือใบสีฟ้า"แซงกลับมานำ 2-1
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปอร์ส พยายามที่จะบุกเพื่อทำประตูตีเสมอ และก็มาส่งบอลเข้าประตูได้สำเร็จ จากลูกที่ เจมี่ โอฮาร่า ตัวสำรองเปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาให้กับ ดาร์เรน เบนท์ ตัวสำรองจิ้มบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ ครบ 90 นาที "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงกลับมาชนะสเปอร์ส ได้ 2-1 เก็บสามคะแนนเต็มได้สำเร็จ
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนูโอฮา, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอลาโน่, เนรี่ คาสตินโญ่, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, โจนาธาน วู้ดเกต, ปาสกาล ชิมบงด้า, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, สตีด มัลบร็องก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม
ฟูแล่ม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 67)
วีแกน ชนะ โบลตัน 1-0 (เอมิล เฮสกี้ 1-0 นาที 34)
แมนฯซิตี้ ชนะ สเปอร์ส 2-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 32), (สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 1-1 นาที 59), (เนดุม โอนูโอฮา 2-1 นาที 72)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม 2551
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส
เกมพรีเมียร์ลีก คู่สุดท้ายประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิติ้ เปิดซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ สเตเดี้ยม ของตัวเองรับการมาเยือนของ"ไก่เดือยทอง"ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส โดยเจ้าบ้านชนะเพียงนัดเดียวจาก 8 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ นัดนี้ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนชือสวีดิชหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน เปตรอฟ ปีกซ้ายตัวจี๊ด เนื่องจากปีกบัลแกเรียนติดโทษแบน โดย อีริคส์สัน จัดให้ เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ยืนเป็นกองหน้าคู่กับ เนรี่ คาสตินโญ่ หอกเม็กซิโก ด้าน สเปอร์ส ทีมเยือนเพิ่งจะอกหักตกรอบฟุตบอลยูฟ่าคัพมา เกมนี้ ฮวนเด้ รามอส ไม่มีปัญหาในการจัดทีม โดยมี ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ยืนเป็นหัวหอกคู่กับ ร็อบบี้ คีน ตามเดิม
เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาที สเปอร์ส ได้โอกาสลุ้นประตูทันที เมื่อ ร็อบบี้ คีน ได้บอลในกรอบเขตโทษทางด้านขวาก่อนพลิกหลบ เนดุม โอนูโอฮา ก่อนยิงอัดเต็มแรงบอลผ่านปากประตูออกไป
เกมหลังจากนั้นยังคงเป็นฝ่ายทีมเยือนที่ได้โอกาสลุ้นประตูมากว่า นาที 12 เจอร์เมน จีนาส ได้ยิงไกลระยะ 30 หลาบอลข้ามคาน ต่อจากนั้นเป็น สตีด มัลบล็องค์ ได้ยิงไกลบ้างแต่บอลก็ข้ามคานออกไปเช่นกัน
"เรือใบสีฟ้า"เริ่มตั้งเกมรุกได้บ้าง และการบุกขึ้นมาในนาทีที่ 26 ก็เกือบที่จะได้ประตูทันที เมื่อ เอลาโน่ บูลแมร์ ได้จังหวะปั่นด้วยขวาจากลูกที่กองหลัง"ไก่เดือยทอง"สกัดไม่ขาด บอลข้ามมือ พอล โรบินสันไปแล้วแต่ไปติดหน้าอกของ ไมเคิล ดอว์สัน ที่ยืนอยู่หน้าปากประตูอย่างน่าเสียดาย
แต่แล้วในนาทีที่ 32 สเปอร์สก็มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะการเข้าตัดบอลพลาดของ เวดราน ชอร์ลูก้า บอลหลุดมาถึง ปาสคาล ชิมบงด้า ที่วันนี้เล่นเป็นแบ็คซ้ายแทงบอลให้กับ คีน หลุดเข้าไปยิงหักข้อด้วยซ้ายผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าไปทางเสาสอง "ไก่เดือยทอง"ตีปีกขึ้นนำ 1-0
หลังจากโดนทำประตูขึ้นนำไป"เรือใบสีฟ้า"พยายามบุกหนักเพื่อที่จะทวงประตูคืน และก็เกือบได้จากสองจังหวะติดต่อกัน ครั้งแรก เป็นของ เนรี่ คาสตินโญ่ ที่วิ่งแซง ชิมบงด้า เข้าไปกดในกรอบเขตทางด้านขวาแต่บอลออกข้างเสาไป ครั้งต่อมาเป็น เอลาโน่ ที่ได้กดเต็มๆด้วยซ้ายจากลูกชุลมนหน้าปากประตูสเปอร์สแต่บอลยังไม่ผ่านมือ โรบินสันที่เซฟไว้ได้ จบ 45 นาทีแรก สเปอร์สยังคงบุกมานำเจ้าบ้านอยู่ 1-0
เริ่มเกมครึ่งหลังมาแมนฯซิตี้ ที่ตกเป็นฝ่ายตามหลังอยู่พยายามเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูคืน และก็เกือบได้ทันที เมื่อ เบนจานี่ ได้บอลหลุดไปทางด้านขวาสุดเส้นหลังและปาดเข้ามาให้กับ คาสตินโญ่ ดึงจังหวะหลอก ดอว์สัน ก่อนซัดด้วยขวาแต่บอลยังไม่ผ่านมือของโรบินสัน
เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 59 "เรือใบสีฟ้า"ที่พยายามเดินหน้าบุกก็มาได้ประตูตามตีเสมอจนได้ จากจังหวะที่ เบนจานี่ ใช้ความเร็ววิ่งแซงกองหลังหลุดไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษก่อนเปิดเข้ามาหน้าประตู บอลกระดอนมาถึง เอลาโน่ โหม่งชงให้ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ สะกิดบอลเข้าไป แมนฯซิตี้ตามตีเสมอเป็น 1-1 หลังจากที่โดนประตูตีเสมอ ฮวนเด้ รามอส กุนซือ"ไก่เดือยทอง"จึงแก้เกม โดยส่ง ดาร์เรน เบนท์ ลงมาแทน ร็อบบี้ คีน กัปตันทีม ซึ่งทำให้ คีน ไม่พอใจอย่างมากจากการโดนเปลี่ยนตัวออกในครั้งนี้
ถึงนาทีที่ 72 แมนฯซิตี้ ก็มาทำประตูแซงขึ้นนำได้สำเร็จ จากจังหวะลูกเตะมุมทางฝั่งขวาที่ เอลาโน่ เปิดโค้งมาให้กับ เนดุม โอนูโอฮา ทะยานขึ้นโขกเต็มๆหัว บอลพุ่งผ่าน โรบินสัน ที่ทำได้แต่เพียงยืนมองเข้าไป "เรือใบสีฟ้า"แซงกลับมานำ 2-1
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปอร์ส พยายามที่จะบุกเพื่อทำประตูตีเสมอ และก็มาส่งบอลเข้าประตูได้สำเร็จ จากลูกที่ เจมี่ โอฮาร่า ตัวสำรองเปิดลูกฟรีคิกจากกราบขวาให้กับ ดาร์เรน เบนท์ ตัวสำรองจิ้มบอลเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเนื่องจากเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มกันได้ ครบ 90 นาที "เรือใบสีฟ้า"แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงกลับมาชนะสเปอร์ส ได้ 2-1 เก็บสามคะแนนเต็มได้สำเร็จ
รายชื่อ 11 คนแรกของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท, เวดราน ชอร์ลูก้า, ริชาร์ด ดันน์, เนดุม โอนูโอฮา, ฆาเบียร์ การ์รีโด้, เกลสัน เฟอร์นันเดส, ไมเคิ่ล จอห์นสัน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์, เอลาโน่, เนรี่ คาสตินโญ่, เบนจานี่ เอ็มวารูวารี
สเปอร์ส : พอล โรบินสัน, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, โจนาธาน วู้ดเกต, ปาสกาล ชิมบงด้า, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, สตีด มัลบร็องก์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, ร็อบบี้ คีน
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม
ฟูแล่ม ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (ไบรอัน แม็คไบรด์ 1-0 นาที 67)
วีแกน ชนะ โบลตัน 1-0 (เอมิล เฮสกี้ 1-0 นาที 34)
แมนฯซิตี้ ชนะ สเปอร์ส 2-1 (ร็อบบี้ คีน 0-1 นาที 32), (สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 1-1 นาที 59), (เนดุม โอนูโอฮา 2-1 นาที 72)