xs
xsm
sm
md
lg

ผีเชือด 1 เม็ด, ปืนอัดค้อนนิ่ม 2-0 รั้งฝูงต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“ปิศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หืดจับกว่าที่จะเอาชนะเบอร์มิงแฮมไปได้ 1-0 จากประตูชัยของคาร์ลอส เตเบซ ในขณะที่“ปืนใหญ่”อาร์เซนอล ยังคงโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อชนะเวสต์แฮมไป 2-0 รั้งตำแหน่งจ่าฝูงต่อไปในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิปเมื่อคืนที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันอังคารที่ 1 มกราคม 2551
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1– 0 เบอร์มิงแฮม
ฟร้องค์ เกอดรู ดวลกับ คาร์ลอส เตเบซ
ศึกพรีเมียร์ชิป นัดที่ 21 ในวันขึ้นปีใหม่ “ปิศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูงเปิดสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของทีมเบอร์มิงแฮม โดยเกมในนัดนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่สามารถลงมาคุมทีมที่ข้างสนามได้ และนอกจากนี้“ผีแดง”ยังไม่สามารถใช้งานเวย์น รูนี่ย์ ได้เนื่องจากมีอาการไข้ทำให้"เฟอร์กี้"ต้องใช้ คริสเตียโน โรนัลโด ยืนกองหน้าคู่กับ คาร์ลอส เตเบซ ในขณะที่ ปาร์ค จี ซอง ได้โอกาสลงเล่นเป็นปีกซ้าย เช่นเดียวกับหลุยส์ นานี่ ที่ได้ลงเป็น 11 คนแรกเช่นกันในตำแหน่งมิดฟิลด์ริมเส้นทางด้านขวา

ส่วนเบอร์มิงแฮมของ อเล็กซ์ แมคลิช ขนดาวดังมาเยือนทีม“ปิศาจแดง”กันพร้อมหน้า โดยมี เลียม ริดจ์เวลล์ กับ ราดี้ จาอิดี้ ยืนปักหลังคุมแผงรับร่วมกัน ส่วนในแผงกลางใช้ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ปั้นเกมร่วมกับ ฟราบริค มูอัมบ้า ในขณะที่แดนหน้า มี คาเมรอน เจโรม หัวหอกดาวรุ่งของทีมเป็นตัวชูโรง

เปิดเกมมาได้ 2 นาที คริสเตียโน โรนัลโด ที่ยืนเป็นกองหน้าในวันนี้มีโอกาสซัดด้วยขวาบริเวณกรอบเขตโทษทางด้านขวาทักทายทีมเยือนก่อน แต่บอลพุ่งเรียดไม่ผ่านมือ ไมค์ เทย์เลอร์ นายด่านทีมเยือน

“ปิศาจแดง”ยังเปิดเกมรุกอย่างต่อเนื่องในช่วง 5 นาทีแรก และก็เกือบที่จะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ พาทริค เอฟร่า พาบอลทะลุมาทางด้านกราบซ้ายก่อนเปิดมาให้กับ คาร์ลอส เตเบซ เบียดกับกองหลังเบอร์มิงแฮมโขกในกรอบ 6 หลา แต่บนพุ่งไปชนโคนเสาอย่างน่าเสียดาย

เกมผ่านมา 20 นาที เบอร์มิงแฮม ทีมเยือนยังไม่มีโอกาสทำเกมรุก ในขณะที่ขุนพล“ผีแดง”ยังเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง โดย หลุยส์ นานี่ ปีกโปรตุกีสมีโอกาสได้เลี้ยงตัดมาจากกราบซ้ายก่อนซัดด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งหลุดเสาสองไปไม่ถึงคืบ

หลังจากนั้นอีก 5 นาที เจ้าถิ่นที่เปิดเกมรุกอย่างหนักก็มาทำประตูขึ้นนำได้สำเร็จ จากการทำชิ่งกันหน้ากรอบเขตโทษของทีมเยือนของ เตเบซ กับ โรนัลโด ก่อนที่จังหวะสุดท้าย ดาวเตะทีมชาติโปรตุเกสจะตอกส้นให้ เตเบซ หลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ไมค์ เทย์เลอร์ ในกรอบเขตโทษ และกองหน้าอาร์เจนไตน์ก็แปด้วยขวาส่งบอลพุ่งเสียบเสาเข้าไป ส่งให้ “ผีแดง”ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 32 เลียม ริดจ์เวลล์ กองหลังทีมเยือนก็มาโดนใบเหลืองไปเป็นคนแรกของเกมจากการเสียบสกัดอย่างรุนแรงใส่ เตเบซ จากนั้นเบอร์มิงแฮมมีโอกาสได้ยิงบ้างจากจังหวะจ่ายบอลพลาดหน้ากรอบเขตโทษของไมเคิล คาร์ริค แต่ แกรี่ แมคเชฟฟรี่ ยิงด้วยซ้ายบอลออกไป ในช่วงนาทีสุดท้าย “เดอะบูลส์”มีโอกาสได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะการยิงฟรีคิกระยะ 25 หลาของ ลาร์สสัน แต่บอลพุ่งเบาเข้าซองโทมัส คุสแซ็ค นายทวารเจ้าบ้านรับสบาย ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดหมดเวลาครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ดนำ เบอร์มิงแฮมอยู่ 1-0
เอฟร่า ดวลกับ แกรี่ เคลลี่
เริ่มครึ่งหลังมาได้ 5 นาที เจ้าถิ่นก็เกือบได้ประตูที่ 2 จากการเจาะทางด้านกราบขวาของ ปาร์ค จี ซอง ก่อนที่ดาวเตะเกาหลีใต้ จะเปิดเข้ากลางมาให้ โรนัลโด โผขึ้นโขกเต็มๆแรง แต่บอลยังไม่ผ่านไมค์ เทย์เลอร์

“ปิศาจแดง”ยังบุกเป็นชุดไม่ต่างจากครึ่งแรก และพลาดโอกาสได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ ปาร์ค จี ซอง ได้บอลลุยมาทางด้านขวาก่อนฝากบอลมาที่ เตเบซ ก่อนที่หัวหอกอาร์เจนไตน์จะพลิกบอลเข้าไปจิ้มด้วยขวา ซึ่งลูกพุ่งผ่านมือเทย์เลอร์ไปแล้วแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่บอลกระดอนย้อนกลับมาหน้าเขตโทษเข้าทางโรนัลโด อีกครั้ง ซึ่งปีกโปรตุกีสพยายามเลี้ยงหาจังหวะยิง ก่อนที่สุดท้ายโรนัลโดจะซัดไปติดกองหลังทีมเยือน

นาทีที่ 69 นานี่ มีโอกาสได้ยิงอีกครั้งนอกกรอบเขตโทษแต่ยังไม่ไกลเคียง จากนั้น“ปิศาจแดง"เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกของเกมโดยส่ง หลุยส์ ซาฮา กองหน้าตัวสำรองลงมาเล่นแทน คาร์ลอส เตเบซ

เบอร์มิงแฮม มีโอกาสได้ลุ้นประตูบ้างในนาทีที่ 74 จากการสกัดลูกไม่ขาดของเจ้าบ้าน และเป็น มิคาเอล ฟอร์สเซลล์ กองหน้าตัวสำรองที่ลงมาเล่นแทน คาเมรอน เจโรม มีโอกาสได้ยิงลูกนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลเบาเกินเข้ามือ คุสแซ็ค จากนั้น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเห็นท่าไม่ดีต้องเสริมเกมรับ และส่ง โอเว่น ฮาร์กรีฟ มิดฟิลด์ตัวรับลงมาเล่นแทน ปาร์ค จี ซอง และส่ง เวส บราวน์ ลงมาเล่นแทน เอฟร่า ที่เริ่มจะหมดแรงด้วย

ก่อนหมดเวลา 5 นาที ฟอร์สเซลล์มีโอกาสได้วอลเลย์ด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษของแมนฯยูไนเต็ด แต่บอลกระดอนพื้นเบาออกเสาไปไม่ได้ลุ้น ในช่วงท้ายเกม เบอร์มิงแฮมพยายามบุกอย่างหนักแต่ไม่สามารถทำประตูตีเสมอได้ครบ 90 นาที “ปิศาจแดง”แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาชนะเบอร์มิงแฮม เก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ แต่ยังคงต้องอยู่ในอันดับที่ 2 ของตารางพรีเมียร์ลีกเหมือนเดิม เพราะ“ปืนใหญ่”อาร์เซนอล ก็เอาสามารถเอาชนะเวสต์แฮมได้เช่นกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – โทมัส คุสแซ็ค, จอห์น โอเชีย, เนมันย่าวิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, พาทริก เอฟร่า, ปาร์ค จี ซอง, หลุยส์ นานี่, ไมเคิล คาร์ริค, อันแดร์สัน, คริสเตียโน โรนัลโด, คาร์ลอส เตเบซ
เบอร์มิงแฮม – ไมค์ เทย์เลอร์, ราดี้ จาอีดี้, สตีเฟ่น เคลลี่, ฟร้อง เกอดรู, เลียม ริดจ์เวลล์, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, แกรี่ แมคเชฟฟรี่, ฟราบริค มูอัมบ้า, เมห์ดี้ นาฟตี้, คาเมรอน เจโรม, แกรี่ โอคอนเนอร์

ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีกคู่อื่น

ฟูแล่ม แพ้ เชลซี 1-2 (แดนนี่ เมอร์ฟี่ 1-0 จุดโทษนาที 10), (โซโลมอน คาลู 1-1 นาที 54), (มิชาเอล บัลลัค 1-2 จุดโทษนาที 62)
อาร์เซนอล ชนะ เวสต์แฮม 2-0 (เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา 1-0 นาที 2), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 2-0 นาที 18)
มิดเดิลสโบรส์ แพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 (แอนดี้ จอห์นสัน 0-1 นาที 67), (เจมส์ แม็คฟาดเด็น 0-2 นาที 72)
เร้ดดิ้ง แพ้ ปอร์ทสมัธ 0-2 (โซล แคมป์เบลล์ 0-1 นาที 9), (จอห์น อูทาก้า 0-2 นาที 66)
แอสตัน วิลล่า ชนะ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส 2-1 (โอลอฟ เมลเบิร์ก 1-0 นาที 41), (เจอร์เมน เดโฟ 1-1 นาที 85 ), (มาร์ติน เลาร์เซ่น 2-1 นาที 79)
กำลังโหลดความคิดเห็น