ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ได้อย่างไม่ยากเย็น 3-0 โดย เฟอร์นานโด ตอร์เรส ฉลองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ด้วยการซัดได้ 1 ประตู ทำให้หงส์แดงรั้งอันดับ 4 ของพรีเมียร์ลีกต่อไป หนี เอฟเวอร์ตัน คู่แข่งร่วมเมืองออกไปเป็น 3 แต้ม
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2551
ลิเวอร์พูล 3 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เล่นในถิ่นตัวเองปะทะกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ พักผู้เล่นไว้ข้างสนามพอสมควร เนื่องจากมีเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ กระนั้น สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนยังไร้ เชย์ กิฟเวน ผู้รักษาประตูที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ สตีฟ ฮาร์เปอร์ ได้ลงเฝ้าเสาต่อไปอีกนัด ด้าน โจอี บาร์ตัน หมดสิทธิ์ลงสนาม ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย จึงได้รับโอกาสลงเล่นแทน ส่วน ไมเคิล โอเว่น อดีตเด็กเก่าของเจ้าถิ่นลงทำหน้าที่ล่าตาข่าย
หลังจากเขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ 8 นาที สาลิกาดงก็มีโอกาสทักทายเจ้าถิ่นก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านขวา ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย เปิดมาที่เสาแรกให้ อับดูลาย ฟาย โฉบตัดหน้า ยอห์น อาร์เน รีเซ โขกสะบัดเต็มศีรษะ ทว่า โฮเซ เรนา ยืนถูกตำแหน่งปัดทิ้งออกหลังไปได้
จากนั้น 2 นาทีก็ถึงคราวของหงส์แดงที่ได้ยิงบ้างจากจังหวะสวนกลับ ตอร์เรส ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวาก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา ฟาย จนถึงเขตโทษแล้วตะบันมุมแคบไปที่เสาไกล ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังไม่พลาดพุ่งเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 18 ลูคัส เลวา เปิดเรียดจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ เจอร์ราร์ด จับบอลก่อนหาช่องซัดจากระยะ 25 หลา ส่งลูกพุ่งไปเข้าซองของ ฮาร์เปอร์ จากนั้น นาทีที่ 24 ทีมเยือนได้โอกาสโต้กลับขึ้นมา โอเวน ได้บอลแถวกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาเองแล้วแต่งหาจังหวะสับไกหน้าเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกของ เจมี คาร์ราเกอร์
ผ่านมาถึงนาทีที่ 35 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นทำประตูอีกครั้ง ชาบี อลอนโซ่ ได้บอลแถวเส้นหลังฝั่งขวาก่อนไหลคืนมาให้ เจอร์ราร์ด กระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อในเขตโทษ ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังล้มตัวทุบออกมาได้ก่อนที่กองหลังนิวคาสเซิลจะช่วยกันเคลียร์ทิ้งออกไป
กระทั่งนาทีที่ 43 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำแบบโชคช่วย เมื่อ ลูคัส จ่ายบอลให้ ตอร์เรส ไหลทะลุช่องให้ เจอร์เมน เพนแนนท์ วิ่งเบียดกับ โฮเซ เอ็นริเก ก่อนที่แบ็กซ้ายทีมเยือนจะเตะสกัดไปแฉลบปีกหงส์แดงกระดอนย้อยข้ามหัว ฮาร์เปอร์ เข้าไปตุงตาข่าย ก่อนที่ ตอร์เรส จะได้บอลจากการจ่ายของ เจอร์ราร์ด เข้าไปปล่อยบอลไหลหลอก ฮาร์เปอร์ ก่อนแปเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เป็นอันว่า ลิเวอร์พูล นำ นิวคาสเซิล ในครึ่งแรกอยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลังได้เพียง 6 นาที สกอร์บอร์ดก็ทำงานอีกครั้ง เมื่อเจ้าถิ่นได้จังหวะสวนกลับ ตอร์เรส เก็บบอลได้แถววงกลมครึ่งสนามแล้วพาบอลขึ้นมาก่อนดึงจังหวะจ่ายให้ เจอร์ราร์ด หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปชิปสวนตัว ฮาร์เปอร์ ส่งลูกซุกก้นตาข่ายเป็นประตูนำ 3-0 ของ ลิเวอร์พูล
หงส์แดงยังไม่เพลาเกมบุก นาทีที่ 57 ตอร์เรส แตะคืนให้ เจอร์ราร์ด กระชากเข้าหากรอบเขตโทษก่อนซัดไปถูก ฮาร์เปอร์ ปัดด้วยมือเดียวข้ามคานออกไป จากนั้น เจอร์ราร์ด ได้ซัดที่เส้นเขตโทษไปแฉลบ เฌเรมี เอ็นฌิตัป ข้ามคาน ก่อนที่ ยอสซี เบนายูน จะวอลเลย์โด่งออกหลังไปไกล
สาลิกาดงเริ่มทำเกมได้มากขึ้น หลังจากเจ้าถิ่นเริ่มผ่อนเกมลง นาทีที่ 68 โอบาเฟมี มาร์ตินส์ ดาวยิงตัวสำรองที่ลงมาแทน เดเมียน ดัฟฟ์ ฉกบอลได้จาก รีเซ ก่อนลากเข้ามาซัดหน้าเขตโทษไปเข้าซอง เรนา จากนั้น 2 นาทีถัดมา มาร์ตินส์ เจ้าเก่าได้บอลจากการทุ่มไกลของ อาบิ๊บ เบย์ ก่อนที่จะพลิกตัวฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะร่วม 35 หลาส่งลูกข้ามหัว เรนา ที่ออกมาจากเส้นไกลไปแล้ว แต่บอลไปกระแทกคานอย่างจัง
ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 83 เดิร์ก เคาท์ หัวหอกสำรองของเจ้าบ้านได้หลุดเข้าไปซัด แต่ถูก ฮาร์เปอร์ ออกมาปัดไว้ได้ก่อนจะมาเข้าทาง รีเซ ตะบันเต็มข้อไปติดบล็อกของ สตีเวน เทย์เลอร์ แล้วกระทุ้งอีกครั้ง ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังล้มตัวเซฟได้ที่เสาแรก ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ถล่ม นิวคาสเซิล อย่างง่ายดาย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 56 คะแนน รั้งที่ 4 ต่อไปโดยทิ้ง เอฟเวอร์ตัน ออกไป 3 คะแนน ส่วนสาลิกาดงหล่นมาอยู่อันดับ 14 มี 28 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ยอห์น อาร์เน รีเซ, เจอร์เมน เพนแนนท์, ลูคัส เลวา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – สตีฟ ฮาร์เปอร์, อาบิบ เบย์, อับดูลาย ฟาย, สตีเวน เทย์เลอร์, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, ไมเคิล โอเวน, อลัน สมิธ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ ฟูแลม 1-1 (มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน 1-0 นาที 59), (จิมมี่ บุลลาร์ด 1-1 นาที 89)
ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-0 (เจอร์เมน เพนแนนท์ 1-0 นาที 43), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 45), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 3-0 นาที 51)
เรดดิง ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 (เชน ลอง 1-0 นาที 62), (เดฟ คิตสัน 2-0 นาที 87)
ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2551
ลิเวอร์พูล 3 – 0 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
เกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีที่สนามแอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เล่นในถิ่นตัวเองปะทะกับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เกมนี้ ราฟาเอล เบนิเตซ พักผู้เล่นไว้ข้างสนามพอสมควร เนื่องจากมีเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ อินเตอร์ มิลาน รออยู่ในช่วงกลางสัปดาห์ กระนั้น สตีเวน เจอร์ราร์ด กัปตันทีม กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนกุมภาพันธ์ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนยังไร้ เชย์ กิฟเวน ผู้รักษาประตูที่มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ สตีฟ ฮาร์เปอร์ ได้ลงเฝ้าเสาต่อไปอีกนัด ด้าน โจอี บาร์ตัน หมดสิทธิ์ลงสนาม ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย จึงได้รับโอกาสลงเล่นแทน ส่วน ไมเคิล โอเว่น อดีตเด็กเก่าของเจ้าถิ่นลงทำหน้าที่ล่าตาข่าย
หลังจากเขี่ยลูกเริ่มเล่นมาได้ 8 นาที สาลิกาดงก็มีโอกาสทักทายเจ้าถิ่นก่อนจากลูกเตะมุมทางด้านขวา ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย เปิดมาที่เสาแรกให้ อับดูลาย ฟาย โฉบตัดหน้า ยอห์น อาร์เน รีเซ โขกสะบัดเต็มศีรษะ ทว่า โฮเซ เรนา ยืนถูกตำแหน่งปัดทิ้งออกหลังไปได้
จากนั้น 2 นาทีก็ถึงคราวของหงส์แดงที่ได้ยิงบ้างจากจังหวะสวนกลับ ตอร์เรส ได้บอลบริเวณริมเส้นด้านขวาก่อนเลี้ยงจี้เข้าหา ฟาย จนถึงเขตโทษแล้วตะบันมุมแคบไปที่เสาไกล ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังไม่พลาดพุ่งเซฟเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิด
นาทีที่ 18 ลูคัส เลวา เปิดเรียดจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ เจอร์ราร์ด จับบอลก่อนหาช่องซัดจากระยะ 25 หลา ส่งลูกพุ่งไปเข้าซองของ ฮาร์เปอร์ จากนั้น นาทีที่ 24 ทีมเยือนได้โอกาสโต้กลับขึ้นมา โอเวน ได้บอลแถวกลางสนามก่อนพาบอลขึ้นมาเองแล้วแต่งหาจังหวะสับไกหน้าเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกของ เจมี คาร์ราเกอร์
ผ่านมาถึงนาทีที่ 35 ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นทำประตูอีกครั้ง ชาบี อลอนโซ่ ได้บอลแถวเส้นหลังฝั่งขวาก่อนไหลคืนมาให้ เจอร์ราร์ด กระหน่ำด้วยขวาเต็มข้อในเขตโทษ ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังล้มตัวทุบออกมาได้ก่อนที่กองหลังนิวคาสเซิลจะช่วยกันเคลียร์ทิ้งออกไป
กระทั่งนาทีที่ 43 เจ้าบ้านก็มาได้ประตูขึ้นนำแบบโชคช่วย เมื่อ ลูคัส จ่ายบอลให้ ตอร์เรส ไหลทะลุช่องให้ เจอร์เมน เพนแนนท์ วิ่งเบียดกับ โฮเซ เอ็นริเก ก่อนที่แบ็กซ้ายทีมเยือนจะเตะสกัดไปแฉลบปีกหงส์แดงกระดอนย้อยข้ามหัว ฮาร์เปอร์ เข้าไปตุงตาข่าย ก่อนที่ ตอร์เรส จะได้บอลจากการจ่ายของ เจอร์ราร์ด เข้าไปปล่อยบอลไหลหลอก ฮาร์เปอร์ ก่อนแปเข้าสู่ก้นตาข่ายโล่งๆ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เป็นอันว่า ลิเวอร์พูล นำ นิวคาสเซิล ในครึ่งแรกอยู่ 2-0
เข้าสู่ครึ่งหลังได้เพียง 6 นาที สกอร์บอร์ดก็ทำงานอีกครั้ง เมื่อเจ้าถิ่นได้จังหวะสวนกลับ ตอร์เรส เก็บบอลได้แถววงกลมครึ่งสนามแล้วพาบอลขึ้นมาก่อนดึงจังหวะจ่ายให้ เจอร์ราร์ด หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปชิปสวนตัว ฮาร์เปอร์ ส่งลูกซุกก้นตาข่ายเป็นประตูนำ 3-0 ของ ลิเวอร์พูล
หงส์แดงยังไม่เพลาเกมบุก นาทีที่ 57 ตอร์เรส แตะคืนให้ เจอร์ราร์ด กระชากเข้าหากรอบเขตโทษก่อนซัดไปถูก ฮาร์เปอร์ ปัดด้วยมือเดียวข้ามคานออกไป จากนั้น เจอร์ราร์ด ได้ซัดที่เส้นเขตโทษไปแฉลบ เฌเรมี เอ็นฌิตัป ข้ามคาน ก่อนที่ ยอสซี เบนายูน จะวอลเลย์โด่งออกหลังไปไกล
สาลิกาดงเริ่มทำเกมได้มากขึ้น หลังจากเจ้าถิ่นเริ่มผ่อนเกมลง นาทีที่ 68 โอบาเฟมี มาร์ตินส์ ดาวยิงตัวสำรองที่ลงมาแทน เดเมียน ดัฟฟ์ ฉกบอลได้จาก รีเซ ก่อนลากเข้ามาซัดหน้าเขตโทษไปเข้าซอง เรนา จากนั้น 2 นาทีถัดมา มาร์ตินส์ เจ้าเก่าได้บอลจากการทุ่มไกลของ อาบิ๊บ เบย์ ก่อนที่จะพลิกตัวฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะร่วม 35 หลาส่งลูกข้ามหัว เรนา ที่ออกมาจากเส้นไกลไปแล้ว แต่บอลไปกระแทกคานอย่างจัง
ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 83 เดิร์ก เคาท์ หัวหอกสำรองของเจ้าบ้านได้หลุดเข้าไปซัด แต่ถูก ฮาร์เปอร์ ออกมาปัดไว้ได้ก่อนจะมาเข้าทาง รีเซ ตะบันเต็มข้อไปติดบล็อกของ สตีเวน เทย์เลอร์ แล้วกระทุ้งอีกครั้ง ทว่า ฮาร์เปอร์ ยังล้มตัวเซฟได้ที่เสาแรก ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล ถล่ม นิวคาสเซิล อย่างง่ายดาย 3-0 เก็บเพิ่มเป็น 56 คะแนน รั้งที่ 4 ต่อไปโดยทิ้ง เอฟเวอร์ตัน ออกไป 3 คะแนน ส่วนสาลิกาดงหล่นมาอยู่อันดับ 14 มี 28 คะแนน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล – โฮเซ เรนา, อัลบาโร อาร์เบลัว, เจมี คาร์ราเกอร์, มาร์ติน สเคอร์เทล, ยอห์น อาร์เน รีเซ, เจอร์เมน เพนแนนท์, ลูคัส เลวา, สตีเวน เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ, ยอสซี เบนายูน, เฟอร์นานโด ตอร์เรส
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด – สตีฟ ฮาร์เปอร์, อาบิบ เบย์, อับดูลาย ฟาย, สตีเวน เทย์เลอร์, โฮเซ่ เอ็นริเก้, เจมส์ มิลเนอร์, นิคกี บัตต์, ชาร์ลส เอ็นซอกเบีย, เดเมียน ดัฟฟ์, ไมเคิล โอเวน, อลัน สมิธ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ ฟูแลม 1-1 (มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน 1-0 นาที 59), (จิมมี่ บุลลาร์ด 1-1 นาที 89)
ลิเวอร์พูล ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-0 (เจอร์เมน เพนแนนท์ 1-0 นาที 43), (เฟอร์นานโด ตอร์เรส 2-0 นาที 45), (สตีเวน เจอร์ราร์ด 3-0 นาที 51)
เรดดิง ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี 2-0 (เชน ลอง 1-0 นาที 62), (เดฟ คิตสัน 2-0 นาที 87)
