ผ่านพิกัดฉลุย “เจ้ากร” อาศัยเดือนมีนานำโชคคว้าแชมป์

“กร-ไดสุเกะ” ต่างขึ้นชั่งน้ำหนักผ่านฉลุย โดย พงษ์ศักดิ์เล็ก เบากว่าพิกัดเล็กน้อย ส่วน แชมป์โลกชาวยุ่น เท่าพิกัดพอดิบพอดี ด้าน นักชกไทย อาศัยเดือนมีนาคมนำโชดเนื่องจากเคยเป็นแชมป์มาแล้ว 2 ครั้ง พร้อมสภาพร่างกายมั่นใจทวงเข็มขัดแชมป์โลกคืนสำเร็จ ขณะที่ไดสุเกะรับไฟต์นี้สุดกดดันยิ่งกว่า 3 ครั้งที่เคยพบกันมา

ความเคลื่อนไหวของ “เจ้ากร” พงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม ที่เดินทางไปชิงแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สภามวยโลกWBC จาก ไนโตะ ไดสุเกะ เจ้าของตำแหน่งชาวญี่ปุ่น ในวันเสาร์ที่ 8 มีนาคม 2551 ณ สังเวียนเรียวโกกุ โกคุกิคัง กรุงโตเกียว ช่อง 7 สีถ่ายทอดสดเวลา 18.00 น.

ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ได้มีการแถลงข่าวประชุมกติกา พร้อมกับชั่งน้ำหนักตัวอย่างเป็นทางการ ที่เวทีมวย โครักกูเอง ฮอลล์ โดยกติกานั้นยังคงใช้กติกาเดิมของสภามวยโลกWBC กำหนด 12 ยก หากเกิดศีรษะชนกันแตกโดยอุบัติเหตุไม่เกิน 4 ยก แล้วไม่สามารถชกต่อได้ผลจะเสมอกัน แชมป์ยังอยู่ที่ไดสุเกะต่อไปแต่หากศีรษะชนกัน หลัง 4 ยก เมื่อชกไปเรื่อยๆแล้วไม่สามารถชกต่อได้ จะตัดสินด้วยการรวมคะแนนผู้ที่มีคะแนนมากกว่าจะเป็นผู้ชนะ และใครถูกนับในยกเดียวกัน 3 ครั้งจะถูกจับแพ้น็อกทันที

คณะกรรมการนำนวมให้ทั้งคู่ได้เลือก ซึ่งฝ่ายไทยได้เสนอให้เป็นสีเดียวกัน ทางโปรโมเตอร์ผู้จัดจึงให้ทั้งคู่สวมนวมสีแดงขึ้นชก จากนั้นทั้งคู่ขึ้นชั่งน้ำหนักตัวอย่างเป็นทางการ โดยไดสุเกะชั่ง ได้ 112 ปอนด์เท่าพิกัดพอดี จากนั้น พงษ์ศักดิ์เล็ก ขึ้นชั่งผลปรากฏว่าได้ 111.8 ปอนด์ ต่ำกว่าพิกัดเล็กน้อย

หลังการชั่งน้ำหนักตัว ไดสุเกะ ได้เปิดเผยว่าการชกในไฟต์นี้รู้สึกกดกันมากกว่า 3 ไฟต์ที่เคยพบกันมาก่อนหน้านี้ เพราะครั้งนี้เป็นการป้องกันแชมป์ นอกจากนี้เจ้าตัวยังยืนยันว่า หากแพ้จะแขวนนวมอย่างแน่นอน เนื่องจากอายุอานามมากแล้ว

ส่วน พงษ์ศักดิ์เล็ก ได้เช่นกันว่า ไฟต์นี้มีการเตรียมตัวมาอย่างดี เรื่องน้ำหนักตัวที่เบากว่าพิกัดนั้นไม่มีปัญหา เป็นการเตรียมตัวมาเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น นอกจากนี้เจ้าตัวยังเผยว่า เฝ้ารอที่จะถึงวันได้ทวงเข็มขัดเส้นนี้คืนมานถึง 8 เดือนและมั่นใจว่าจะเป็นผู้ชนะ เพราะเดือนมีนาคมเป็นเดือนแห่งโชคของตนเองหลังจาก ในวันที่ 22 มีนาคม เคยครองแชมป์โลกสหภาพมวยโลกWBU รุ่น108 ปอนด์ จากนั้นในวันที่ 2 มีนาคม ก็เคยครองแชมป์โลก112 ปอนด์ สภามวยโลกWBC ครั้งนี้ ก็เป็นวันที่ 8 มีนาคม อีกครั้งตนจะอาศัยโชคและกำลังกายที่ซ้อมมาเอาแชมป์กลับประเทศให้ได้

ทางด้าน “เสี่ยเน้า” วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ กล่าวว่า หากเจ้ากร สามารถกระชากคว้าแชมป์กลับมาได้ ค่ายเพชรยินดีก็จะมีแชมป์โลกสถาบันหลัก ในเวลาเดียวกันถึง 2 เส้น นับเป็นประวัติศาสตร์ของทีมงานอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยและวางโปรแกรมให้ เจ้ากร ล่วงหน้าแล้วว่าหากได้แชมป์โลก และขึ้นป้องกันตำแหน่งไฟต์แรกกับคู่ชกที่ตั้งเป้าเอาไว้ โดยเฉพาะกับคาเมดะ ตนพร้อมที่จะอัดฉีดทันที 3 ล้านบาท