ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เห็นด้วยกับ สตีเวน เจอร์ราร์ด ที่ออกมาปลุกเร้าให้ทีมเบียดล่าแชมป์พรีเมียร์ชิปมาให้จงได้ แต่ปีนี้ต้องมุ่งมั่นกับการครองจ้าวยุโรปอีกครั้งเสียก่อน
ช่วงกลางสัปดาห์ สตีเวน เจอร์ราร์ด ออกมาให้สัมภาษณ์กับ “ลิเวอร์พูล เอฟซี” นิตยสารของทีมทำนองอยากเห็นขุนพลแข้ง “หงส์แดง” ลงไปโชว์ฟอร์มในสนามให้ดีที่สุด เพื่อใช้เป็นคำตอบแทนคำพูดโอ้อวดในการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษที่สโมสรห่างหายมานาน 18 ปี
ซึ่ง ราฟาเอล เบนิเตซ เห็นด้วยกับกัปตันทีม “ ทุกคนที่ลิเวอร์พูลเข้าใจความรู้สึกของ สตีเวน (เจอร์ราร์ด) แน่นอนว่าเราต้องการเขยิบอันดับในตารางพรีเมียร์ชิป แต่สิ่งสำคัญตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องมุ่งมั่นกับสิ่งที่เราสามารถทำกันได้อยู่ ”
“ ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สถิติในการแข่งขันถ้วยนี้คงทำให้หลายสโมสรรู้สึกอิจฉา สำหรับในลีกเรายังเชื่อว่าสามารถจบด้วยการติดท็อปโฟร์ เพื่อได้เข้าไปคัดเลือกเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่กันต่อไปในฤดูกาลหน้า ” กุนซือชาวสเปนกล่าวปิดท้าย
สำหรับ “หงส์แดง” ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 ของตาราง โอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ชิปน่าจะปิดลงแล้วเนื่องจากตามหลัง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงห่างถึง 17 แต้มขณะที่โปรแกรมเหลือ 11-12 นัดเท่านั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องหันมาเน้นชิงอันดับ 4 กับ เอฟเวอร์ตัน, แอสตัน วิลลา, ปอร์ทสมัธ และแมนเชสเตอร์ ซิตี แทน
ช่วงกลางสัปดาห์ สตีเวน เจอร์ราร์ด ออกมาให้สัมภาษณ์กับ “ลิเวอร์พูล เอฟซี” นิตยสารของทีมทำนองอยากเห็นขุนพลแข้ง “หงส์แดง” ลงไปโชว์ฟอร์มในสนามให้ดีที่สุด เพื่อใช้เป็นคำตอบแทนคำพูดโอ้อวดในการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษที่สโมสรห่างหายมานาน 18 ปี
ซึ่ง ราฟาเอล เบนิเตซ เห็นด้วยกับกัปตันทีม “ ทุกคนที่ลิเวอร์พูลเข้าใจความรู้สึกของ สตีเวน (เจอร์ราร์ด) แน่นอนว่าเราต้องการเขยิบอันดับในตารางพรีเมียร์ชิป แต่สิ่งสำคัญตอนนี้ ลิเวอร์พูล ต้องมุ่งมั่นกับสิ่งที่เราสามารถทำกันได้อยู่ ”
“ ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สถิติในการแข่งขันถ้วยนี้คงทำให้หลายสโมสรรู้สึกอิจฉา สำหรับในลีกเรายังเชื่อว่าสามารถจบด้วยการติดท็อปโฟร์ เพื่อได้เข้าไปคัดเลือกเล่นฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่กันต่อไปในฤดูกาลหน้า ” กุนซือชาวสเปนกล่าวปิดท้าย
สำหรับ “หงส์แดง” ปัจจุบันรั้งอันดับ 5 ของตาราง โอกาสเป็นแชมป์พรีเมียร์ชิปน่าจะปิดลงแล้วเนื่องจากตามหลัง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล จ่าฝูงห่างถึง 17 แต้มขณะที่โปรแกรมเหลือ 11-12 นัดเท่านั้น ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องหันมาเน้นชิงอันดับ 4 กับ เอฟเวอร์ตัน, แอสตัน วิลลา, ปอร์ทสมัธ และแมนเชสเตอร์ ซิตี แทน