คอลัมน์ "Final Quarter" โดย ลุงแซม
เอ๊ะยังไง!!! คอลัมน์ของกระผมมักออกตรงกับช่วงเทศกาล สัปดาห์ก่อนพอดิบพอดีกับวันแห่งความรัก มาคราวนี้ “มาฆบูชา” ซึ่งถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธ ก็อยากให้พุทธศาสนิกชนคิดดีทำดี อย่าได้เหมือนกับ บิลล์ บีลิชิก ที่เคยได้รับการยอมรับสูงสุดจากวงการอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่ปัจจุบันแปรเปลี่ยนเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดคนหนึ่งของแวดวงกีฬา
ชื่อของ “บิลล์ บีลิชิก” เริ่มสะกิดหูคอคนชนคนตั้งแต่ที่เขาย่างกายเข้ามาคุมทัพ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แม้ฤดูกาลแรก (2000/01) “นักรบกู้ชาติ” มีสถิติชนะแค่ 5 แพ้ถึง 11 เกม แต่ให้หลังอีกแค่ปีเดียว บีลิชิก และทีมงานพลิกกลับมาจบฤดูกาลปกติด้วยสถิติ 11-5 เกม พร้อมกับผ่านด่าน โอคแลนด์ เรดเดอร์ส และพิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ฟันฝ่าเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 36 ทว่าการเจอกับ “The Greatest Show on Turf” ทำให้ แพทริออตส์ เป็นรอง เซ็นต์หลุยส์ แรมส์ แบบสุดกู่
อย่างไรก็ตาม ปากกาเซียนจากทุกสำนักทั้งไทยและเทศกลับหากคามือ เมื่อ “แพทส์แมน” สวมวิญญาณท่านรองบดจนหักเขา “แกะเขาเหล็ก” ลงได้อย่างเฉียดฉิว 20-17 คะแนน ซึ่งวันนั้นเอง บีลิชิก รวมถึง ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กลูกรัก และอดัม วินาเทียรี ตัวเตะตัวตัดสินแชมป์ จึงสร้างชื่อขึ้นมาประดับวงการลูกหนำเลี้ยบมะกันอย่างเป็นทางการ จากวันนั้นถึงวันนี้ แพทริออตส์ กลายร่างเป็นทีมระดับหัวแถวแห่งสหัสวรรษใหม่ พวกเขาเกือบคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบเจ็ดปีหลังสุดหากไม่พลิกล็อกโดน “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทำลายเพอร์เฟกต์ ซีซั่น
แม้จะไม่ประสบความสำเร็จสุงสุด แต่หลายคนยังคงให้เครดิต “แพทส์แมน” และเชื่อว่านี่เป็นยุค “ไดนาสตี” ของพวกเขาเสมือนกับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ช่วงทศวรรษที่ 70 ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ในยุค 80 และดัลลัส คาวบอยส์ ทีมที่เกรียงไกรแห่งยุค 90
แต่ใครก็ตามที่เคยพูดยกยอปอปั้นเหล่า “นักรบกู้ชาติ” ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้พวกเขาคงอยากฉวยเอาคำสรรเสริญเหล่านั้นคืนมา เพราะคดี “สปายเกต” แอบถ่ายชาวบ้านมันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในเกมกับ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาล 2007/08 เพราะโรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกก้มหน้ายอมรับว่า บีลิชิก และทีมงานกระทำการฉาวโฉ่มาตั้งแต่ปี 2000 ที่ย่ำเท้าเข้าสู่ถิ่นยิลเลตต์ สเตเดี้ยมแล้ว
ที่สำคัญชัยชนะเหนือ แรมส์ เป็นความสำเร็จสูงสุดที่ได้มาจากการฉ้อโกง มาจากการลักลอบถ่ายวิดีโอการประชุมแผนการฝึกซ้อมของคู่ต่อกรในวันสุดท้ายก่อนซูเปอร์โบว์ลที่หลุยส์เซียนา ซูเปอร์โดม นิวออร์ลีนส์ จะเริ่มขึ้น อีกทั้ง แพทริออตส์ คงไม่มีวันนั้นหรอกหาก บีลิชิก ไม่สั่งให้ลูกน้องไปแอบถ่ายแผนการเล่นของ “คนเหล็ก” สตีลเลอร์ส จนนำมาสู่ชัยชนะในเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC)
การแกะรอย (ฉาวโฉ่) ที่เกิดขึ้นต้องขอขอบคุณ วุฒิสภาของสหรัฐฯ อาร์เลน สเปคเตอร์ ที่ไล่สืบเสาะกะเทาะจากปาก กูเดลล์ จนเรื่องมาแดงถึงทุกวันนี้ ทว่าการเอาผิดองค์กร แพทริออตส์ และบีลิชิก ยังทำได้ไม่ง่ายเมื่อประธานลีกคนปัจจุบันพยายามกลบเกลื่อนข่าวที่สร้างชื่อเสียให้แก่ลีก ด้วยการทำลายเทปถึง 6 ม้วนที่ยึดมาจาก “แพทส์แมน” ครั้งถูกแฉว่าแอบถ่ายแผนทีมรับ เจ็ตส์ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม พยานปากเอกที่ชื่อ “แมตต์ วอลส์ช” ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบถ่าย แรมส์ ก่อนซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 36 พร้อมให้ความร่วมมือกับลีกเต็มที่ หากเอ็นเอฟแอลยอมผ่อนผันเรื่องค่าเสียหายที่ต้องชดเชยให้กับความผิดที่ก่อขึ้น ตอนนี้อยู่ในช่วงของการเจรจาไอ้เราไม่มีอำนาจตรงนั้นแต่ก็อยากแนะนำให้ กูเดลล์ ยอมปล่อยปลาเล็กเพื่อคว้าปลาใหญ่ มิฉะนั้นคนที่จะให้ข้อมูลความผิดของ แพทริออตส์ ได้มากที่สุดอาจถูกสั่งเก็บ โอโฮสงสัยดูหนังฮอลลีวูดมากเกินไปแล้วเรา!!!
ณ วันนี้หลายคนคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับทุกชัยชนะทุกความสำเร็จของ แพทริออตส์ ที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป ผมเองก็ชักสงสัยขึ้นมาแล้วเช่นกันว่าทำไมบรรดาออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์ “แพทส์แมน” ถึงได้ปกปักรักษาให้ เบรดี มีเวลาขว้างถมเท อีกใจก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกันกับภาพที่ บีลิชิก รีบจ้ำๆ ไปจับมือแสดงความยินดีกับ ทอม คอฟลิน หัวหน้าโค้ชไจแอนท์ส ก่อนเดินออกจากสนามด้วยสีหน้าที่ดูไม่จืด
ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า บีลิชิก คิดอะไรอยู่ในใจ แต่ถ้าให้ผมทายเชื่อว่าเฮดโค้ชวัย 55 ปีคงโกรธตัวเองว่าทำไม “ตูไม่แอบถ่ายแผนการตั้งรับของ สตีฟ สปันนูโอโล ฟ่ะ” ปล่อยให้ ไมเคิล สเตรแฮน และผองพวกไล่กดดันจน เบรดี ไปไม่เป็น ในส่วนของการลงโทษไม่ขอพูดถึงแล้วกัน ถ้าหลักฐานมัดแน่นกระบวนการตามกฎที่วางเอาไว้คงดำเนินการกันไปพร้อมๆ กับวาระแห่งกรรมที่เตรียมตามสนองผู้กระทำความผิด
เอ๊ะยังไง!!! คอลัมน์ของกระผมมักออกตรงกับช่วงเทศกาล สัปดาห์ก่อนพอดิบพอดีกับวันแห่งความรัก มาคราวนี้ “มาฆบูชา” ซึ่งถือเป็นวันสำคัญของชาวพุทธ ก็อยากให้พุทธศาสนิกชนคิดดีทำดี อย่าได้เหมือนกับ บิลล์ บีลิชิก ที่เคยได้รับการยอมรับสูงสุดจากวงการอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) แต่ปัจจุบันแปรเปลี่ยนเป็นบุคคลต้องสงสัยมากที่สุดคนหนึ่งของแวดวงกีฬา
ชื่อของ “บิลล์ บีลิชิก” เริ่มสะกิดหูคอคนชนคนตั้งแต่ที่เขาย่างกายเข้ามาคุมทัพ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แม้ฤดูกาลแรก (2000/01) “นักรบกู้ชาติ” มีสถิติชนะแค่ 5 แพ้ถึง 11 เกม แต่ให้หลังอีกแค่ปีเดียว บีลิชิก และทีมงานพลิกกลับมาจบฤดูกาลปกติด้วยสถิติ 11-5 เกม พร้อมกับผ่านด่าน โอคแลนด์ เรดเดอร์ส และพิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ฟันฝ่าเข้าสู่ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 36 ทว่าการเจอกับ “The Greatest Show on Turf” ทำให้ แพทริออตส์ เป็นรอง เซ็นต์หลุยส์ แรมส์ แบบสุดกู่
อย่างไรก็ตาม ปากกาเซียนจากทุกสำนักทั้งไทยและเทศกลับหากคามือ เมื่อ “แพทส์แมน” สวมวิญญาณท่านรองบดจนหักเขา “แกะเขาเหล็ก” ลงได้อย่างเฉียดฉิว 20-17 คะแนน ซึ่งวันนั้นเอง บีลิชิก รวมถึง ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กลูกรัก และอดัม วินาเทียรี ตัวเตะตัวตัดสินแชมป์ จึงสร้างชื่อขึ้นมาประดับวงการลูกหนำเลี้ยบมะกันอย่างเป็นทางการ จากวันนั้นถึงวันนี้ แพทริออตส์ กลายร่างเป็นทีมระดับหัวแถวแห่งสหัสวรรษใหม่ พวกเขาเกือบคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ในรอบเจ็ดปีหลังสุดหากไม่พลิกล็อกโดน “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ทำลายเพอร์เฟกต์ ซีซั่น
แม้จะไม่ประสบความสำเร็จสุงสุด แต่หลายคนยังคงให้เครดิต “แพทส์แมน” และเชื่อว่านี่เป็นยุค “ไดนาสตี” ของพวกเขาเสมือนกับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ช่วงทศวรรษที่ 70 ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ในยุค 80 และดัลลัส คาวบอยส์ ทีมที่เกรียงไกรแห่งยุค 90
แต่ใครก็ตามที่เคยพูดยกยอปอปั้นเหล่า “นักรบกู้ชาติ” ถ้าเป็นไปได้ตอนนี้พวกเขาคงอยากฉวยเอาคำสรรเสริญเหล่านั้นคืนมา เพราะคดี “สปายเกต” แอบถ่ายชาวบ้านมันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นในเกมกับ นิวยอร์ก เจ็ตส์ ตั้งแต่ช่วงเปิดฤดูกาล 2007/08 เพราะโรเจอร์ กูเดลล์ ประธานลีกก้มหน้ายอมรับว่า บีลิชิก และทีมงานกระทำการฉาวโฉ่มาตั้งแต่ปี 2000 ที่ย่ำเท้าเข้าสู่ถิ่นยิลเลตต์ สเตเดี้ยมแล้ว
ที่สำคัญชัยชนะเหนือ แรมส์ เป็นความสำเร็จสูงสุดที่ได้มาจากการฉ้อโกง มาจากการลักลอบถ่ายวิดีโอการประชุมแผนการฝึกซ้อมของคู่ต่อกรในวันสุดท้ายก่อนซูเปอร์โบว์ลที่หลุยส์เซียนา ซูเปอร์โดม นิวออร์ลีนส์ จะเริ่มขึ้น อีกทั้ง แพทริออตส์ คงไม่มีวันนั้นหรอกหาก บีลิชิก ไม่สั่งให้ลูกน้องไปแอบถ่ายแผนการเล่นของ “คนเหล็ก” สตีลเลอร์ส จนนำมาสู่ชัยชนะในเกมชิงแชมป์สายเอเอฟซี (AFC)
การแกะรอย (ฉาวโฉ่) ที่เกิดขึ้นต้องขอขอบคุณ วุฒิสภาของสหรัฐฯ อาร์เลน สเปคเตอร์ ที่ไล่สืบเสาะกะเทาะจากปาก กูเดลล์ จนเรื่องมาแดงถึงทุกวันนี้ ทว่าการเอาผิดองค์กร แพทริออตส์ และบีลิชิก ยังทำได้ไม่ง่ายเมื่อประธานลีกคนปัจจุบันพยายามกลบเกลื่อนข่าวที่สร้างชื่อเสียให้แก่ลีก ด้วยการทำลายเทปถึง 6 ม้วนที่ยึดมาจาก “แพทส์แมน” ครั้งถูกแฉว่าแอบถ่ายแผนทีมรับ เจ็ตส์ ตั้งแต่ต้นฤดูกาล
อย่างไรก็ตาม พยานปากเอกที่ชื่อ “แมตต์ วอลส์ช” ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแอบถ่าย แรมส์ ก่อนซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 36 พร้อมให้ความร่วมมือกับลีกเต็มที่ หากเอ็นเอฟแอลยอมผ่อนผันเรื่องค่าเสียหายที่ต้องชดเชยให้กับความผิดที่ก่อขึ้น ตอนนี้อยู่ในช่วงของการเจรจาไอ้เราไม่มีอำนาจตรงนั้นแต่ก็อยากแนะนำให้ กูเดลล์ ยอมปล่อยปลาเล็กเพื่อคว้าปลาใหญ่ มิฉะนั้นคนที่จะให้ข้อมูลความผิดของ แพทริออตส์ ได้มากที่สุดอาจถูกสั่งเก็บ โอโฮสงสัยดูหนังฮอลลีวูดมากเกินไปแล้วเรา!!!
ณ วันนี้หลายคนคงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับทุกชัยชนะทุกความสำเร็จของ แพทริออตส์ ที่ผ่านมาและกำลังจะเกิดขึ้นต่อไป ผมเองก็ชักสงสัยขึ้นมาแล้วเช่นกันว่าทำไมบรรดาออฟเฟนด์ซีฟ ไลน์ “แพทส์แมน” ถึงได้ปกปักรักษาให้ เบรดี มีเวลาขว้างถมเท อีกใจก็อดยิ้มไม่ได้เหมือนกันกับภาพที่ บีลิชิก รีบจ้ำๆ ไปจับมือแสดงความยินดีกับ ทอม คอฟลิน หัวหน้าโค้ชไจแอนท์ส ก่อนเดินออกจากสนามด้วยสีหน้าที่ดูไม่จืด
ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่า บีลิชิก คิดอะไรอยู่ในใจ แต่ถ้าให้ผมทายเชื่อว่าเฮดโค้ชวัย 55 ปีคงโกรธตัวเองว่าทำไม “ตูไม่แอบถ่ายแผนการตั้งรับของ สตีฟ สปันนูโอโล ฟ่ะ” ปล่อยให้ ไมเคิล สเตรแฮน และผองพวกไล่กดดันจน เบรดี ไปไม่เป็น ในส่วนของการลงโทษไม่ขอพูดถึงแล้วกัน ถ้าหลักฐานมัดแน่นกระบวนการตามกฎที่วางเอาไว้คงดำเนินการกันไปพร้อมๆ กับวาระแห่งกรรมที่เตรียมตามสนองผู้กระทำความผิด